รีไฟแนนซ์บ้าน รวมธนาคารดัง 2566 ดอกเบี้ย 3 ปีเริ่ม 2.63%
header-house-left header-house-right

ค้นหาโปรโมชั่นรีไฟแนนซ์บ้าน 2566

Refinn Premium

บริการเสริมพิเศษ

สำหรับผู้ที่ต้องการรีไฟแนนซ์บ้าน และรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ พร้อมอำนวยความสะดวก เสมือนมีผู้ช่วยส่วนตัว

รีไฟแนนซ์บ้าน
คืออะไร

อ่าน >

คำถามรีไฟแนนซ์บ้าน
ที่พบบ่อย

อ่าน >

สิ่งที่ต้องเตรียม
ก่อนรีไฟแนนซ์บ้าน

อ่าน >

รีวิวประสบการณ์
รีไฟแนนซ์บ้าน

อ่าน >

ประหยัดดอกเบี้ยบ้านเป็นล้าน
ด้วยการรีไฟแนนซ์บ้านครั้งเดียว ทำได้ง่ายๆ

ประหยัดดอกเบี้ยด้วยการ รีไฟแนนซ์บ้าน

การรีไฟแนนซ์บ้าน คืออะไร

การ รีไฟแนนซ์บ้าน คืออะไร

รีไฟแนนซ์บ้าน (สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย) คือ การย้ายสินเชื่อบ้านที่เรากู้อยู่กับธนาคารเดิม ไปธนาคารใหม่ โดยจะต้องผ่อนมามากกว่า 3 ปี ถึงสามารถรีไฟแนนซ์ได้ โดย ธนาคารใหม่จะเสนอดอกเบี้ยบ้านที่ถูกกว่าธนาคารเดิม เพื่อดึงดูดให้เราย้ายไปอยู่กับธนาคารใหม่ ซึ่งดอกเบี้ยที่ลดลงและยอดหนี้คงเหลือน้อยลงกว่าสัญญาเดิม ส่งผลให้ยอดผ่อนชำระต่อเดือนถูกลง การผ่อนบ้านก็จะหมดเร็วขึ้นด้วย

รวมถึงเรายังสามารถนำบ้าน ที่กำลังผ่อนกับสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร หรือติดขายฝาก มาทำการรีไฟแนนซ์บ้านเพื่อผ่อนกับธนาคารที่ให้ดอกเบี้ยบ้านถูกกว่าได้เช่นกัน

สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน
เหมาะกับใคร

รีไฟแนนซ์บ้าน ช่วยลดดอกเบี้ยบ้าน
ต้องการลดดอกเบี้ยบ้าน

หรือ ผ่อนบ้านต่อเดือนถูกลง

รีไฟแนนซ์บ้าน ช่วยให้ปิดบ้านไวขึ้น
ต้องการลดระยะเวลาผ่อนบ้าน

ทำให้ผ่อนบ้านหมดเร็วขึ้น 5 - 10 ปี*
(*ขึ้นอยู่กับดอกเบี้ยและวงเงิน)

รีไฟแนนซ์บ้าน เพื่อต้องการกู้เพิ่ม
ต้องการวงเงินกู้เพิ่ม

เพื่อนำไปรีโนเวทบ้าน หรือปิดหนี้บัตรเครดิต

รีไฟแนนซ์บ้าน ช่วยลดดอกเบี้ยบ้าน
ต้องการลดดอกเบี้ยบ้าน

หรือ ผ่อนบ้านต่อเดือนถูกลง

รีไฟแนนซ์บ้าน ช่วยให้ปิดบ้านไวขึ้น
ต้องการลดระยะเวลาผ่อนบ้าน

ทำให้ผ่อนบ้านหมดเร็วขึ้น 5 - 10 ปี*
(*ขึ้นอยู่กับดอกเบี้ยและวงเงิน)

รีไฟแนนซ์บ้าน เพื่อต้องการกู้เพิ่ม
ต้องการวงเงินกู้เพิ่ม

เพื่อนำไปรีโนเวทบ้าน หรือปิดหนี้บัตรเครดิต

ทำไมควรรีไฟแนนซ์บ้าน
ผ่าน Refinn

รีฟินน์ช่วยเปรียบเทียบ โปรโมชั่นรีไฟแนนซ์บ้าน
รีฟินน์ช่วยเปรียบเทียบโปรโมชั่นรีไฟแนนซ์บ้าน

เนื่องจากโปรโมชั่นรีไฟแนนซ์บ้านธนาคารบางธนาคารมีมากกว่า 10 โปรโมชั่น แตกต่างกันไปตามคุณสมบัติผู้กู้และประเภทหลักทรัพย์ แต่หากคุณใช้บริการผ่านรีฟินน์โดยกรอกข้อมูลเพียงเล็กน้อย ก็จะขึ้นโปรโมชั่นที่คุณสามารถสมัครได้ รวมถึงเปรียบเทียบดอกเบี้ย และยอดประหยัดกับโปรโมชั่นอื่นๆ ทำให้ง่ายต่อการนำไปพิจารณาตัดสินใจ

กรอกข้อมูลครั้งเดียว ยื่นรีไฟแนนซ์บ้าน ได้หลายธนาคาร
กรอกข้อมูลสมัครครั้งเดียว ยื่นได้หลายธนาคาร

หากคุณทำด้วยวิธีการแบบเดิมคือไปยื่นด้วยตัวเอง คุณจะต้องกรอกข้อมูลการสมัครทุก ๆ ธนาคารที่คุณสมัคร แต่หากคุณเลือกสมัครผ่านรีฟินน์กรอกข้อมูลแค่ครั้งเดียวคุณสามารถยื่นสมัครได้ทุกธนาคารพันธมิตร

มีทีมงานคอยให้คำแนะนำในการ รีไฟแนนซ์บ้าน
มีทีมงานที่มากประสบการณ์คอยให้คำแนะนำและติดตามงานจนดำเนินการเสร็จสิ้น

หลายครั้งที่ผู้ดำเนินการรีไฟแนนซ์บ้านด้วยตัวเองแล้วพบปัญหาการดำเนินเรื่องช้า บางคนต้องใช้เวลาเดินเรื่อง 3 เดือน ติดต่อธนาคารก็ลำบาก ต้องรอสายนาน สมัครหลายที่ก็ต้องโทรเองทุกที่ หรือมีปัญหาไม่รู้จะปรึกษาใคร แต่หากคุณสมัครผ่านรีฟินน์ เราจะมีทีมงานที่มากประสบการณ์คอยติดตามผล และให้คำปรึกษาตลอดระยะเวลาที่ทำเรื่อง ทำให้การรีไฟแนนซ์บ้านของคุณทำได้ไวขึ้นด้วย

ใช้บริการรีไฟแนนซ์บ้านฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายและข้อผูกมัดใดๆ
ใช้บริการฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายและข้อผูกมัดใด และค่าใช้จ่ายแอบแฝง

เนื่องจากรีฟินน์เป็น Fintech Startup ที่ได้รับค่าสนับสนุนทางการตลาดจากหลายธนาคารชั้นนำในประเทศไทย จึงทำให้ไม่มีการคิดค่าบริการจากทางผู้รับบริการ

ทำไมต้องรีไฟแนนซ์บ้าน? รีไฟแนนซ์บ้านมีข้อดีอย่างไร

โดยทั่วไปหลังจากที่เราทำสัญญากู้ซื้อบ้าน ธนาคารจะให้โปรโมชั่นดอกเบี้ยบ้านถูกพิเศษ เพื่อเป็นการดึงดูดลูกค้าให้มาใช้บริการ โดยจะมีสัญญาผูกมัดกับผู้ซื้อบ้านว่าจะต้องอยู่กับธนาคาร ห้ามย้ายไปธนาคารอื่นภายในระยะเวลา 3 ปี ซึ่งเมื่อหลังครบสัญญาดอกเบี้ยบ้านจะปรับลอยตัวสูงขึ้น เช่น จากเดิมดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 2.5% ก็ปรับเป็น 6% ต่อปี ทำให้เงินที่เราผ่อนจ่ายไปทุกเดือนเป็นเป็นดอกเบี้ยมากกว่าเงินต้น ดังนั้น เราจึงควรทำการรีไฟแนนซ์บ้านเพื่อให้ได้ดอกเบี้ยบ้านจากโปรโมชั่นธนาคารใหม่ที่ถูกลง

รีไฟแนนซ์บ้านได้วงเงินเท่าไร

ปกติแล้วการรีไฟแนนซ์ธนาคารจะให้วงเงินสูงสุดที่ 95% ของราคาประเมินยกดูตัวอย่าง เช่น เรากู้ซื้อบ้านมา 3,000,000 บาท เมื่อผ่านไป 3 ปียอดหนี้เหลือ 2,500,000 บาท เมื่อยื่นรีไฟแนนซ์บ้าน ธนาคารประเมินบ้านได้ 3,300,000 บาท 

โดยธนาคารให้วงเงินกู้ที่ 90% ของราคาประเมินบ้าน เราจึงสามารถรีไฟแนนซ์บ้านได้วงเงินสูงสุดได้ที่ 2,970,000 บาท

ซึ่งคุณสามารถรีไฟแนนซ์บ้านที่ 2,500,000 บาท ตามยอดหนี้คงเหลือได้ 

หรือหากต้องการรับเงินก้อนเพื่อไปใช้ต่อเติมบ้าน นำไปปิดหนี้อื่นๆ ที่มีดอกเบี้ยสูงกว่า คุณก็สามารถทำการรีไฟแนนซ์และขอวงเงินกู้เพิ่มได้ โดยจะเป็นยอดรีไฟแนนซ์บ้าน 2,500,000 บาท และวงเงินกู้เพิ่ม 497,000 บาท รวมเป็น 2,970,000 บาท ตามวงเงินกู้สูงสุด 90%

รีไฟแนนซ์บ้าน 2566 ที่ไหนดี?

รีไฟแนนซ์บ้านธนาคารที่ไหนดีที่สุด ในปี 2566 เป็นคำถามที่ถูกถามมากที่สุด โดยโปรโมชั่นรีไฟแนนซ์บ้าน ธนาคารหนึ่งอาจจะมีถึง 10 โปรโมชั่น แตกต่างไปตามคุณสมับัติของผู้กู้ รวมถึงการออกโปรโมชั่นมาแต่ละช่วง เพื่อแข่งขันเพื่อดึงดูดลูกค้ากัน ดังนั้น จึงไม่สามารถที่จะบอกได้อย่างชัดเจนว่า รีไฟแนนซ์บ้าน 2566 ที่ไหนดีที่สุด แต่เราควรเช็กว่าในช่วงเวลาที่เราจะทำเรื่องนั้น แต่ละธนาคารมีโปรโมชั่น หรือข้อเสนออะไรออกมาบ้าง แล้วนำมาคัดเลือกตามความเหมาะสมของตัวเองอีกครั้ง ซึ่งเรื่องนี้ Refinn สามารถช่วยคุณได้

ยังผ่อนบ้านไม่ถึง 3 ปีใช่ไหม? บริการฟรี!

สมัครใช้ Refinn Alert ฟรี! ให้เราช่วยเตือนเมื่อครบกำหนด รีไฟแนนซ์บ้าน ช่วยแนะนำเตรียมเอกสาร สำหรับผู้ที่ยังไม่ครบสัญญา

บริการฟรี!

ยังผ่อนบ้านไม่ถึง 3 ปีใช่ไหม?

สมัครใช้ Refinn Alert ฟรี! ให้เราช่วยเตือนเมื่อครบกำหนด รีไฟแนนซ์บ้าน ช่วยแนะนำเตรียมเอกสาร สำหรับผู้ที่ยังไม่ครบสัญญา

สมัครใช้ Refinn Alert ฟรี! ให้เราช่วยเตือนเมื่อครบกำหนด รีไฟแนนซ์บ้าน ช่วยแนะนำเตรียมเอกสาร สำหรับผู้ที่ยังไม่ครบสัญญา

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับการรีไฟแนนซ์บ้าน

เราควรทำการรีไฟแนนซ์บ้าน เมื่อเราครบกำหนดตามสัญญากับธนาคารปัจจุบันที่เราผ่อนอยู่ ซึ่งโดยปกติแล้วจะมีสัญญาอยู่ที่ 3 - 5 ปี ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่ระบุในสัญญาที่เราทำไว้
การรีไฟแนนซ์บ้านก่อนครบกำหนดสัญญาสามารถทำได้ แต่ไม่เป็นที่นิยม เนื่องจากการทำแบบนี้จะมีเรื่องของค่าปรับเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่ที่ประมาณ 2% - 3% ของยอดหนี้คงเหลือหรือตามเงื่อนไขที่ธนาคารเดิมกำหนดไว้

ตัวอย่าง ขอวงเงินกู้จากธนาคาร 1,000,000 บาท หากรีไฟแนนซ์บ้านก่อนครบกำหนด จะเสียค่าปรับ 2% ของ วงเงิน 1,000,000 บาท คิดเป็นเงิน 20,000 บาท

ทั้งนี้หากต้องการ Refinance บ้าน ก่อนครบกำหนด ควรทำการคำนวนยอดเงินที่สามารถประหยัดได้จากดอกเบี้ยโปรโมชั่นของธนาคารใหม่กับค่าปรับที่เกิดขึ้น
ธนาคารส่วนใหญ่จะรับพิจารณา 1 - 1 เดือนครึ่ง หากมีการสมัครก่อนธนาคารส่วนใหญ่ก็จะยังไม่รับพิจารณา เนื่องจากส่วนใหญ่ดอกเบี้ยบ้านจะมีการปรับทุก ๆ ไตรมาส หากเราสมัครก่อนล่วงหน้านานเมื่อครบไตรมาสและธนาคารมีการปรับอัตราดอกเบี้ยทำให้ต้องเริ่มทำเรื่องยื่นสมัครใหม่
1. เช็ก และเตรียมเอกสารสำหรับการรีไฟแนนซ์บ้านให้พร้อม หากขาดเอกสารใดให้รีบดำเนินการติดต่อเพื่อรับเอกสารมาให้ครบ
2. เช็กภาระค่าใช้จ่ายในระบบที่ผ่อนต่อเดือนไม่ควรให้สูงเกิน 70% เมื่อเทียบกับรายรับต่อเดือน หากสูงเกินควรหาวิธีในการช่วยลดภาระหนี้เพื่อให้โอกาสในการสำเร็จสูงขึ้น หรืออาจเลือกเป็นสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านพร้อมรับวงเงินลดภาระหนี้
3. ค้นหาโปรโมชั่นที่เหมาะสมกับผู้สมัคร สามารถเปรียบเทียบโปรโมชั่นรีไฟแนนซ์บ้านและยอดประหยัดได้ที่ www.refnn.com
4. ยื่นสมัครล่วงหน้า 1 เดือน - 1 เดือนครึ่ง
สำหรับผู้ที่มีประวัติเสียทางการเงินกับธนาคาร เช่น ชำระล่าช้าเกิน 90-120 วัน หรือ ค้างชำระ ไม่สามารถทำการผ่อนชำระได้ หรือได้มีการปรับโครงสร้างหนี้กับธนาคาร ทั้งนี้ประเด็นดังกล่าว จะส่งผลต่อการพิจารณาของทางธนาคารผู้รับพิจารณาสินเชื่อ ในการขอรีไฟแนนซ์บ้าน ซึ่งผลของการพิจารณานั้น จะเป็นไปตามหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขของทางธนาคารนั้นๆ

ขอแนะนำสำหรับผู้ที่อยากขอสินเชื่อนั้น ควรรักษาประวัติการผ่อนชำระสินเชื่อให้เป็นประวัติปกติ มีวินัยในการชำระอย่างตรงเวลา หากมีค้างชำระ ควรทำการชำระหนี้ค้างให้เรียบร้อย เมื่อรักษาประวัติเป็นปกติ ต่อเนื่องมา 1-3 ปี จะสามารถกลับขอสินเชื่อได้อีกครั้ง
หากคุณยังไม่ถึงกำหนดรีไฟแนนซ์บ้าน หรือเพิ่งทำเรื่องเสร็จมา แนะนำให้ใช้บริการ Refinn Alert ซึ่งเป็นบริการเปิดให้ใช้งานฟรี และไม่มีข้อผูกมัด บริการที่จะช่วยแจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาที่ควรยื่นสมัครรีไฟแนนซ์บ้าน รวมถึงช่วยในการเตรียมเอกสาร เพื่อให้การรีไฟแนนซ์บ้านของคุณเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น
ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้าน หรือ MRTA ไม่ใช่ประกันภาคบังคับ ดังนั้นจึงไม่มีผลต่อการพิจารณาสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน

แต่หากเราทำประกัน MRTA ในตอนรีไฟแนนซ์บ้าน จะทำให้เราได้สิทธิ์ประโยชน์เพิ่มเติม เช่น ได้ดอกเบี้ยพิเศษเฉพาะผู้ที่ทำประกัน MRTA ฟรีค่าจดจำนอง ฯลฯ

สำหรับผู้ที่มีประกัน MRTA จากธนาคารเดิมอยู่แล้วสามารถทำเรื่องย้ายผู้รับผลประโยชน์มาธนาคารใหม่ได้โดยไม่ต้องทำประกันใหม่ หรือทำการขอเวรคืนกรมธรรม์ได้
สิ่งปลูกสร้างประเภทบ้าน, คอนโด, อาคารพาณิชย์ ที่ใช้เพื่อการอยู่อาศัย ทั้งที่ปลูกสร้างเอง หรือจากโครงการจัดสรร สามารถทำการ Refinance บ้านได้ตามปกติ
การลดดอกเบี้ยบ้านกับธนาคารเดิม (Home Retention) หรือ รีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารเดิม เป็นรูปแบบหนึ่งในการลดดอกเบี้ยบ้าน โดยเป็นการแจ้งกับธนาคารเดิมเพื่อขอลดดอกเบี้ยบ้าน ซึ่งธนาคารเดิมก็จะทำการพิจารณาว่าจะอนุมัติลดดอกเบี้ยให้หรือไม่ ข้อแตกต่างจากการรีไฟแนนซ์บ้านย้ายไปธนาคารอื่น คือ การดำเนินเรื่องในการขอลดดอกเบี้ยบ้านจะง่ายกว่า แต่ดอกเบี้ยที่ลดได้ส่วนใหญ่ก็จะไม่เท่ากับการรีไฟแนนซ์บ้านย้ายไปธนาคารอื่น สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลดดอกเบี้ยบ้านธนาคารเดิม (Retention) ได้ทาง รีไฟแนนซ์บ้านธนาคารเดิมได้ไหม
สำหรับคนที่ต้องการใช้เงินก้อน ไม่ว่าจะนำมาต่อเติมบ้าน นำมาปิดภาระหนี้ หรือนำมาใช้จ่าย และต้องการได้รับดอกเบี้ยที่ถูก ตอนที่เรา refinance บ้านสามารถที่จะขอวงเงินเพิ่มได้นะครับ เงินในส่วนนี้มาจากเงินที่เราผ่อนไปทุกเดือนเช่น เรากู้ซื้อบ้านมา 3.5 ล้าน ผ่อนมาแล้ว 6 ปี ยอดหนี้เหลือประมาณ 2.8 ล้านบาท เราจะมีส่วนต่างประมาณ 6 - 7 แสนบาท ซึ่งเงินในส่วนนี้เราจะสามารถทำเรื่องขอกู้มาใช้ได้ครับ และที่สำคัญเลยคือดอกเบี้ยของวงเงินกู้เพิ่มจากสินเชื่อบ้านก็จะมีออัตราที่ถูกกว่า เมื่อเที่ยวกับสินเชื่ออื่นๆ ครับ ใครที่สนใจก็ลองดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง รีไฟแนนซ์บ้านแล้วขอวงเงินกู้เพิ่มได้หรือไม่
กลุ่มสินเชื่อบ้านจัดเป็นสินเชื่อที่ให้วงเงินกู้ที่ค่อนข้างสูงมาก เมื่อเทียบกับสินเชื่อประเภทอื่น ดังนั้น การขอเอกสารหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นเอกสารแสดงข้อมูลส่วนบุคคล เอกสารแสดงรายได้ รวมถึงเอกสารเกี่ยวกับหลักประกัน และการดำเนินการก็จะมีหลายขั้นตอนมากกว่า เอกสารทั้งหมดของรีไฟแนนซ์บ้านใช้เอกสารอะไรบ้าง สามารถดูข้อมูลอย่างละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง เอกสารสำหรับรีไฟแนนซ์บ้าน
สำหรับผู้ที่ต้องการลดดอกเบี้ย แล้วกำลังหาว่าจะรีไฟแนนซ์บ้านไปธนาคารไหนดี สิ่งแรกที่ต้องมาดูกันก่อนคือ ตัวผู้กู้เองต้องการอะไรจากการรีไฟแนนซ์บ้านในครั้งนี้ เช่น ต้องการดอกเบี้ยช่วงปีแรกๆ ถูก ต้องการดอกเบี้ยคงที่ ต้องการผ่อนชำระถูกลง ต้องการความประหยัดดอกเบี้ยบ้าน 3 ปีสูงสุด ต้องการประหยัดดอกเบี้ยบ้านตลอดอายุสัญญาถูกที่สุด ฯลฯ แล้วเราถึงมาทำการเลือกโปรโมชั่นรีไฟแนนซ์บ้าน หรือข้อเสนอจากธนาคารในช่วงเวลานั้นที่เหมาะสมกับความต้องการของเราอีกครั้ง และเมื่อวัตถุประสงค์ในการรีไฟแนนซ์บ้านของแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน จึงเป็นเรื่องความต้องการเฉพาะของบุคคลที่จะบอกว่าธนาคารไหนเป็นธนาคารดีที่สุด

สิ่งที่ต้องเตรียมก่อน
รีไฟแนนซ์บ้าน

คุณสมบัติของอาชีพที่จะรีไฟแนนซ์บ้าน

พนักงานบริษัท/ข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ

• สัญชาติไทย อายุ 20 ปีขึ้นไป แต่ไม่เกิน 65 ปี
• รายได้รวมตั้งแต่ 15,000 บาทต่อเดือน ขึ้นไป
• อายุงานในบริษัทปัจจุบันต้องไม่น้อยกว่า 3 เดือน และต้องผ่านช่วงทดลองงานแล้ว

เจ้าของกิจการ/ธุรกิจส่วนตัว

• สัญชาติไทย อายุ 20 ปีขึ้นไป แต่ไม่เกิน 65 ปี
• รายได้รวมตั้งแต่ 30,000 บาทต่อเดือน ขึ้นไป
• มีการจดทะเบียนบริษัท และประกอบธุรกิจมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี

ผู้ประกอบอาชีพอิสระ (ฟรีแลนซ์)

• สัญชาติไทย อายุ 20 ปีขึ้นไป แต่ไม่เกิน 65 ปี
• รายได้รวมตั้งแต่ 30,000 บาทต่อเดือน ขึ้นไป
• มีเอกสารแสดงแหล่งที่มาของรายได้
• ประกอบอาชีพมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี

พนักงานบริษัท/ข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ

• สัญชาติไทย อายุ 20 ปีขึ้นไป แต่ไม่เกิน 65 ปี
• รายได้รวมตั้งแต่ 15,000 บาทต่อเดือน ขึ้นไป
• อายุงานในบริษัทปัจจุบันต้องไม่น้อยกว่า 3 เดือน และต้องผ่านช่วงทดลองงานแล้ว

เจ้าของกิจการ/ธุรกิจส่วนตัว

• สัญชาติไทย อายุ 20 ปีขึ้นไป แต่ไม่เกิน 65 ปี
• รายได้รวมตั้งแต่ 30,000 บาทต่อเดือน ขึ้นไป
• มีการจดทะเบียนบริษัท และประกอบธุรกิจมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี

ผู้ประกอบอาชีพอิสระ (ฟรีแลนซ์)

• สัญชาติไทย อายุ 20 ปีขึ้นไป แต่ไม่เกิน 65 ปี
• รายได้รวมตั้งแต่ 30,000 บาทต่อเดือน ขึ้นไป
• มีเอกสารแสดงแหล่งที่มาของรายได้
• ประกอบอาชีพมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี

ค่าใช้จ่ายสำหรับการรีไฟแนนซ์บ้านเบื้องต้น

ค่าสำรวจและประเมินราคาหลักประกัน

ประมาณ 2-3 พันบาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับที่ตั้งของหลักประกัน

ค่าธรรมเนียมจดทะเบียนจำนอง

จดทะเบียนจำนอง 1% ของวงเงินกู้ ชำระให้กรมที่ดิน (ค่าจดจำนองใหม่)

ค่าธรรมเนียมอื่นๆ

เช่น ค่าอากรแสตมป์สัญญาเงินกู้ 0.05% ของวงเงิน

ค่าประกันอัคคีภัย

เป็นไปตามมูลค่าบ้าน ประกันอัคคีภัยเป็นประกันภาคบังคับ ที่ผู้กู้ซื้อบ้านทุกคนต้องทำ โดยราคาประกันอัคคีภัยจะราคาไม่สูง ประมาณ 1 - 3 พันบาท หรืออาจมากกว่าขึ้นอยู่กับมูลค่าหลักประกัน

หมายเหตุ

ทั้งนี้ค่าใช้จ่ายทั้งหมดขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของโปรโมชั่นของแต่ละธนาคารกำหนด โดยปัจจุบันบางธนาคารมีการนำเสนอฟรีค่าใช้จ่ายที่กล่าวมาทั้งหมด หรือบางธนาคารมีฟรีบางค่าใช้จ่าย เช่น ฟรีค่าประเมินราคาหลักประกัน ฟรีค่าอากรสแตมป์ และฟรีประกันอัคคีภัยอ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์บ้าน คุ้มกับดอกเบี้ยที่ลดไหม

เอกสารประกอบการสมัครรีไฟแนนซ์บ้าน

เอกสารแสดงข้อมูลส่วนบุคคล

เอกสารประเภทนี้จะเป็นเอกสารเกี่ยวกับผู้ขอกู้ เพื่อให้ธนาคารสามารถตรวจสอบและยืนยันตัวตนได้ว่า เป็นตัวผู้กู้จริงๆ ไม่ใช่บุคคลอื่นมาแอบอ้าง

เอกสารด้านการเงิน (แสดงรายได้)

เอกสารประเภทนี้จะเป็นสิ่งที่ธนาคารใช้พิจารณาตามเงื่อนไขของธนาคาร ความสามารถในการผ่อนชำระสินเชื่อ สภาพคล่องทางการเงิน รายได้ และประวัติการชำระที่ผ่านมา

เอกสารด้านหลักประกัน

เอกสารประเภทนี้จะใช้เพื่อยืนยันความเป็นเจ้าของของหลักประกันที่จะนำมารีไฟแนนซ์กับธนาคาร

หมายเหตุ

หากมีผู้กู้ร่วมด้วย ต้องให้ผู้กู้ร่วมเตรียมเอกสารในแต่ละประเภทเช่นเดียวกัน พร้อมทั้งเซ็นสำเนาถูกต้องในทุกๆ เอกสารโดยสามารถดูข้อมูลอย่างละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เอกสารสำหรับรีไฟแนนซ์บ้าน

รีวิวประสบการณ์
รีไฟแนนซ์บ้านผ่าน Refinn

รีวิวผู้ที่มา รีไฟแนนซ์บ้าน กับ Refinn
“การรีไฟแนนซ์บ้านจะไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกต่อไป ถ้าเปลี่ยนมุมองใหม่ คุณจะมีเงินเก็บมากขึ้น เพื่อแลก บ้านที่คุณรักกลับคืนมาเร็วที่สุดค่ะ”

จากเดิมผ่อนบ้าน 17,500 บาท/เดือน
หลังรีไฟแนนซ์แล้วเหลือผ่อน 7,500 บาท/เดือน
ประหยัดได้ 10,000 บาท/เดือน

คุณลักษมี

ผู้ใช้บริการผ่าน Refinn

“รีไฟแนนซ์บ้านทำให้เราประหยัดเงินได้เป็นล้าน แล้วเอาเงินล้านตรงนี้ไปลงทุนต่อได้”

ก่อนหน้านี้คิดว่าต้องศึกษาการรีไฟแนนซ์บ้านค่อนข้างเยอะเลยครับ แต่เนื่องจากว่าเราทำงานค่อนข้างยุ่งแล้วก็ไม่ได้มีเวลาเยอะมากมายที่ต้องมานั่งศึกษาว่าธนาคารไหนให้ดอกเบี้ยเท่าไร รายละเอียดยังไง แบบไหนจะตอบโจทย์เรา

พอลองมาทำรีไฟแนนซ์กับรีฟินน์กลายเป็นไม่ยุ่งยากเลยครับ กรอกข้อมูลนิดเดียวแล้วก็ขึ่นโปรโมชั่นธนาคารที่เหมาะกับเรา ไม่ต้องวิ่งหาธนาคารเองให้วุ่นวายเลยครับ

คุณณรงค์ชัย

ผู้ใช้บริการผ่าน Refinn

รีวิวผู้ที่มา รีไฟแนนซ์บ้าน กับ Refinn
รีวิวผู้ที่มา รีไฟแนนซ์บ้าน กับ Refinn
“การรีไฟแนนซ์บ้านจะไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกต่อไป ถ้าเปลี่ยนมุมองใหม่ คุณจะมีเงินเก็บมากขึ้น เพื่อแลก บ้านที่คุณรักกลับคืนมาเร็วที่สุดค่ะ”

จากเดิมผ่อนบ้าน 17,500 บาท/เดือน
หลังรีไฟแนนซ์แล้วเหลือผ่อน 7,500 บาท/เดือน
ประหยัดได้ 10,000 บาท/เดือน

คุณลักษมี

ผู้ใช้บริการผ่าน Refinn

รีวิวผู้ที่มา รีไฟแนนซ์บ้าน กับ Refinn
“รีไฟแนนซ์ทำให้เราประหยัดเงินได้เป็นล้าน แล้วเอาเงินล้านตรงนี้ไปลงทุนต่อได้”

ก่อนหน้านี้คิดว่าต้องศึกษาการีไฟแนนซ์ค่อนข้างเยอะเลยครับ แต่เนื่องจากว่าเราทำงานค่อนข้างยุ่งแล้วก็ไม่ได้มีเวลาเยอะมากมายที่ต้องมานั่งศึกษาว่าธนาคารไหนให้ดอกเบี้ยเท่าไร รายละเอียดยังไง แบบไหนจะตอบโจทย์เรา

พอลองมาทำรีไฟแนนซ์กับรีฟินน์กลายเป็นไม่ยุ่งยากเลยครับ กรอกข้อมูลนิดเดียวแล้วก็ขึ่นโปรโมชั่นธนาคารที่เหมาะกับเรา ไม่ต้องวิ่งหาธนาคารเองให้วุ่นวายเลยครับ

คุณณรงค์ชัย

ผู้ใช้บริการผ่าน Refinn

รีวิวผู้ที่มา รีไฟแนนซ์บ้าน กับ Refinn
“การรีไฟแนนซ์บ้านจะไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกต่อไป ถ้าเปลี่ยนมุมองใหม่ คุณจะมีเงินเก็บมากขึ้น เพื่อแลก บ้านที่คุณรักกลับคืนมาเร็วที่สุดค่ะ”

จากเดิมผ่อนบ้าน 17,500 บาท/เดือน
หลังรีไฟแนนซ์แล้วเหลือผ่อน 7,500 บาท/เดือน
ประหยัดได้ 10,000 บาท/เดือน

คุณลักษมี

ผู้ใช้บริการผ่าน Refinn

รีวิวผู้ที่มา รีไฟแนนซ์บ้าน กับ Refinn
“รีไฟแนนซ์ทำให้เราประหยัดเงินได้เป็นล้าน แล้วเอาเงินล้านตรงนี้ไปลงทุนต่อได้”

ก่อนหน้านี้คิดว่าต้องศึกษาการีไฟแนนซ์ค่อนข้างเยอะเลยครับ แต่เนื่องจากว่าเราทำงานค่อนข้างยุ่งแล้วก็ไม่ได้มีเวลาเยอะมากมายที่ต้องมานั่งศึกษาว่าธนาคารไหนให้ดอกเบี้ยเท่าไร รายละเอียดยังไง แบบไหนจะตอบโจทย์เรา

พอลองมาทำรีไฟแนนซ์กับรีฟินน์กลายเป็นไม่ยุ่งยากเลยครับ กรอกข้อมูลนิดเดียวแล้วก็ขึ่นโปรโมชั่นธนาคารที่เหมาะกับเรา ไม่ต้องวิ่งหาธนาคารเองให้วุ่นวายเลยครับ

คุณณรงค์ชัย

ผู้ใช้บริการผ่าน Refinn

ข้อสรุปเรื่องรีไฟแนนซ์บ้าน

สรุปการรีไฟแนนซ์บ้านสามารถลดดอกเบี้ยได้ ทำให้ประหยัดเงินได้เป็นล้านบาท แต่ก่อนจะยื่นขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน ทุกครั้งอย่าลืมที่จะเช็ครายละเอียดต่างๆ ของแต่ละธนาคารให้ดีก่อน ไม่ว่าจะเป็นโปรโมชั่นรีไฟแนนซ์บ้านปี คุณสมบัติของผู้ขอสินเชื่อ และเอกสารที่ต้องใช้ เพราะแต่ละที่ก็จะมีการปรับเปลี่ยนโปรโมชั่นอยู่ตลอด หากเราไม่เช็คก่อนยื่นเรื่องทุกครั้งก็อาจจะพลาดโปรโมชั่นรีไฟแนนซ์บ้านลดดอกเบี้ยดีๆ โดนๆ ไปได้ และที่สำคัญเพื่อความง่าย สะดวกในการเช็คอย่าลืมใช้บริการ Refinn ที่รวมข้อเสนอรีไฟแนนซ์บ้านจากธนาคารชั้นน้ำไว้ให้เช็ค และเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยได้ ไม่ต้องไปเข้าหลายเว็บเลย

บริษัทที่ไว้ใจให้เรา
เข้าไปช่วยรีไฟแนนซ์

ศึกษารีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มเติม

สื่อที่พูดถึงเรา