Refinn Premium
สำหรับผู้ที่ต้องการรีไฟแนนซ์บ้าน และรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ พร้อมอำนวยความสะดวก เสมือนมีผู้ช่วยส่วนตัว
รีไฟแนนซ์บ้าน (สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย) คือ การย้ายสินเชื่อบ้านที่เรากู้อยู่กับธนาคารเดิม ไปธนาคารใหม่ โดยจะต้องผ่อนมามากกว่า 3 ปี ถึงสามารถรีไฟแนนซ์ได้ โดย
ธนาคารใหม่จะเสนอดอกเบี้ยบ้านที่ถูกกว่าธนาคารเดิม เพื่อดึงดูดให้เราย้ายไปอยู่กับธนาคารใหม่ ซึ่งดอกเบี้ยที่ลดลงและยอดหนี้คงเหลือน้อยลงกว่าสัญญาเดิม ส่งผลให้ยอดผ่อนชำระต่อเดือนถูกลง การผ่อนบ้านก็จะหมดเร็วขึ้นด้วย
รวมถึงเรายังสามารถนำบ้าน ที่กำลังผ่อนกับสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร หรือติดขายฝาก มาทำการรีไฟแนนซ์บ้านเพื่อผ่อนกับธนาคารที่ให้ดอกเบี้ยบ้านถูกกว่าได้เช่นกัน
หรือ ผ่อนบ้านต่อเดือนถูกลง
ทำให้ผ่อนบ้านหมดเร็วขึ้น 5 - 10 ปี*
(*ขึ้นอยู่กับดอกเบี้ยและวงเงิน)
เพื่อนำไปรีโนเวทบ้าน หรือปิดหนี้บัตรเครดิต
หรือ ผ่อนบ้านต่อเดือนถูกลง
ทำให้ผ่อนบ้านหมดเร็วขึ้น 5 - 10 ปี*
(*ขึ้นอยู่กับดอกเบี้ยและวงเงิน)
เพื่อนำไปรีโนเวทบ้าน หรือปิดหนี้บัตรเครดิต
เนื่องจากโปรโมชั่นรีไฟแนนซ์บ้านธนาคารบางธนาคารมีมากกว่า 10 โปรโมชั่น แตกต่างกันไปตามคุณสมบัติผู้กู้และประเภทหลักทรัพย์ แต่หากคุณใช้บริการผ่านรีฟินน์โดยกรอกข้อมูลเพียงเล็กน้อย ก็จะขึ้นโปรโมชั่นที่คุณสามารถสมัครได้ รวมถึงเปรียบเทียบดอกเบี้ย และยอดประหยัดกับโปรโมชั่นอื่นๆ ทำให้ง่ายต่อการนำไปพิจารณาตัดสินใจ
หากคุณทำด้วยวิธีการแบบเดิมคือไปยื่นด้วยตัวเอง คุณจะต้องกรอกข้อมูลการสมัครทุก ๆ ธนาคารที่คุณสมัคร แต่หากคุณเลือกสมัครผ่านรีฟินน์กรอกข้อมูลแค่ครั้งเดียวคุณสามารถยื่นสมัครได้ทุกธนาคารพันธมิตร
หลายครั้งที่ผู้ดำเนินการรีไฟแนนซ์บ้านด้วยตัวเองแล้วพบปัญหาการดำเนินเรื่องช้า บางคนต้องใช้เวลาเดินเรื่อง 3 เดือน ติดต่อธนาคารก็ลำบาก ต้องรอสายนาน สมัครหลายที่ก็ต้องโทรเองทุกที่ หรือมีปัญหาไม่รู้จะปรึกษาใคร แต่หากคุณสมัครผ่านรีฟินน์ เราจะมีทีมงานที่มากประสบการณ์คอยติดตามผล และให้คำปรึกษาตลอดระยะเวลาที่ทำเรื่อง ทำให้การรีไฟแนนซ์บ้านของคุณทำได้ไวขึ้นด้วย
เนื่องจากรีฟินน์เป็น Fintech Startup ที่ได้รับค่าสนับสนุนทางการตลาดจากหลายธนาคารชั้นนำในประเทศไทย จึงทำให้ไม่มีการคิดค่าบริการจากทางผู้รับบริการ
โดยทั่วไปหลังจากที่เราทำสัญญากู้ซื้อบ้าน ธนาคารจะให้โปรโมชั่นดอกเบี้ยบ้านถูกพิเศษ เพื่อเป็นการดึงดูดลูกค้าให้มาใช้บริการ โดยจะมีสัญญาผูกมัดกับผู้ซื้อบ้านว่าจะต้องอยู่กับธนาคาร ห้ามย้ายไปธนาคารอื่นภายในระยะเวลา 3 ปี ซึ่งเมื่อหลังครบสัญญาดอกเบี้ยบ้านจะปรับลอยตัวสูงขึ้น เช่น จากเดิมดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 2.5% ก็ปรับเป็น 6% ต่อปี ทำให้เงินที่เราผ่อนจ่ายไปทุกเดือนเป็นเป็นดอกเบี้ยมากกว่าเงินต้น ดังนั้น เราจึงควรทำการรีไฟแนนซ์บ้านเพื่อให้ได้ดอกเบี้ยบ้านจากโปรโมชั่นธนาคารใหม่ที่ถูกลง
ปกติแล้วการรีไฟแนนซ์ธนาคารจะให้วงเงินสูงสุดที่ 95% ของราคาประเมินยกดูตัวอย่าง เช่น
เรากู้ซื้อบ้านมา 3,000,000 บาท เมื่อผ่านไป 3 ปียอดหนี้เหลือ 2,500,000 บาท เมื่อยื่นรีไฟแนนซ์บ้าน ธนาคารประเมินบ้านได้ 3,300,000 บาท
โดยธนาคารให้วงเงินกู้ที่ 90% ของราคาประเมินบ้าน
เราจึงสามารถรีไฟแนนซ์บ้านได้วงเงินสูงสุดได้ที่ 2,970,000 บาท
ซึ่งคุณสามารถรีไฟแนนซ์บ้านที่ 2,500,000 บาท ตามยอดหนี้คงเหลือได้
หรือหากต้องการรับเงินก้อนเพื่อไปใช้ต่อเติมบ้าน นำไปปิดหนี้อื่นๆ ที่มีดอกเบี้ยสูงกว่า คุณก็สามารถทำการรีไฟแนนซ์และขอวงเงินกู้เพิ่มได้ โดยจะเป็นยอดรีไฟแนนซ์บ้าน 2,500,000 บาท และวงเงินกู้เพิ่ม 497,000 บาท รวมเป็น 2,970,000 บาท ตามวงเงินกู้สูงสุด 90%
รีไฟแนนซ์บ้านธนาคารที่ไหนดีที่สุด ในปี 2566 เป็นคำถามที่ถูกถามมากที่สุด โดยโปรโมชั่นรีไฟแนนซ์บ้าน ธนาคารหนึ่งอาจจะมีถึง 10 โปรโมชั่น แตกต่างไปตามคุณสมับัติของผู้กู้ รวมถึงการออกโปรโมชั่นมาแต่ละช่วง เพื่อแข่งขันเพื่อดึงดูดลูกค้ากัน ดังนั้น จึงไม่สามารถที่จะบอกได้อย่างชัดเจนว่า รีไฟแนนซ์บ้าน 2566 ที่ไหนดีที่สุด แต่เราควรเช็กว่าในช่วงเวลาที่เราจะทำเรื่องนั้น แต่ละธนาคารมีโปรโมชั่น หรือข้อเสนออะไรออกมาบ้าง แล้วนำมาคัดเลือกตามความเหมาะสมของตัวเองอีกครั้ง ซึ่งเรื่องนี้ Refinn สามารถช่วยคุณได้
• สัญชาติไทย อายุ 20 ปีขึ้นไป แต่ไม่เกิน 65 ปี
• รายได้รวมตั้งแต่ 15,000 บาทต่อเดือน ขึ้นไป
• อายุงานในบริษัทปัจจุบันต้องไม่น้อยกว่า 3 เดือน และต้องผ่านช่วงทดลองงานแล้ว
• สัญชาติไทย อายุ 20 ปีขึ้นไป แต่ไม่เกิน 65 ปี
• รายได้รวมตั้งแต่ 30,000 บาทต่อเดือน ขึ้นไป
• มีการจดทะเบียนบริษัท และประกอบธุรกิจมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี
• สัญชาติไทย อายุ 20 ปีขึ้นไป แต่ไม่เกิน 65 ปี
• รายได้รวมตั้งแต่ 30,000 บาทต่อเดือน ขึ้นไป
• มีเอกสารแสดงแหล่งที่มาของรายได้
• ประกอบอาชีพมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี
• สัญชาติไทย อายุ 20 ปีขึ้นไป แต่ไม่เกิน 65 ปี
• รายได้รวมตั้งแต่ 15,000 บาทต่อเดือน ขึ้นไป
• อายุงานในบริษัทปัจจุบันต้องไม่น้อยกว่า 3 เดือน และต้องผ่านช่วงทดลองงานแล้ว
• สัญชาติไทย อายุ 20 ปีขึ้นไป แต่ไม่เกิน 65 ปี
• รายได้รวมตั้งแต่ 30,000 บาทต่อเดือน ขึ้นไป
• มีการจดทะเบียนบริษัท และประกอบธุรกิจมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี
• สัญชาติไทย อายุ 20 ปีขึ้นไป แต่ไม่เกิน 65 ปี
• รายได้รวมตั้งแต่ 30,000 บาทต่อเดือน ขึ้นไป
• มีเอกสารแสดงแหล่งที่มาของรายได้
• ประกอบอาชีพมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี
ประมาณ 2-3 พันบาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับที่ตั้งของหลักประกัน
จดทะเบียนจำนอง 1% ของวงเงินกู้ ชำระให้กรมที่ดิน (ค่าจดจำนองใหม่)
เช่น ค่าอากรแสตมป์สัญญาเงินกู้ 0.05% ของวงเงิน
เป็นไปตามมูลค่าบ้าน ประกันอัคคีภัยเป็นประกันภาคบังคับ ที่ผู้กู้ซื้อบ้านทุกคนต้องทำ โดยราคาประกันอัคคีภัยจะราคาไม่สูง ประมาณ 1 - 3 พันบาท หรืออาจมากกว่าขึ้นอยู่กับมูลค่าหลักประกัน
ทั้งนี้ค่าใช้จ่ายทั้งหมดขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของโปรโมชั่นของแต่ละธนาคารกำหนด โดยปัจจุบันบางธนาคารมีการนำเสนอฟรีค่าใช้จ่ายที่กล่าวมาทั้งหมด หรือบางธนาคารมีฟรีบางค่าใช้จ่าย เช่น ฟรีค่าประเมินราคาหลักประกัน ฟรีค่าอากรสแตมป์ และฟรีประกันอัคคีภัยอ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์บ้าน คุ้มกับดอกเบี้ยที่ลดไหม
เอกสารประเภทนี้จะเป็นเอกสารเกี่ยวกับผู้ขอกู้ เพื่อให้ธนาคารสามารถตรวจสอบและยืนยันตัวตนได้ว่า เป็นตัวผู้กู้จริงๆ ไม่ใช่บุคคลอื่นมาแอบอ้าง
เอกสารประเภทนี้จะเป็นสิ่งที่ธนาคารใช้พิจารณาตามเงื่อนไขของธนาคาร ความสามารถในการผ่อนชำระสินเชื่อ สภาพคล่องทางการเงิน รายได้ และประวัติการชำระที่ผ่านมา
เอกสารประเภทนี้จะใช้เพื่อยืนยันความเป็นเจ้าของของหลักประกันที่จะนำมารีไฟแนนซ์กับธนาคาร
หากมีผู้กู้ร่วมด้วย ต้องให้ผู้กู้ร่วมเตรียมเอกสารในแต่ละประเภทเช่นเดียวกัน พร้อมทั้งเซ็นสำเนาถูกต้องในทุกๆ เอกสารโดยสามารถดูข้อมูลอย่างละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เอกสารสำหรับรีไฟแนนซ์บ้าน
จากเดิมผ่อนบ้าน 17,500 บาท/เดือน
หลังรีไฟแนนซ์แล้วเหลือผ่อน 7,500 บาท/เดือน
ประหยัดได้ 10,000 บาท/เดือน
ผู้ใช้บริการผ่าน Refinn
ก่อนหน้านี้คิดว่าต้องศึกษาการรีไฟแนนซ์บ้านค่อนข้างเยอะเลยครับ
แต่เนื่องจากว่าเราทำงานค่อนข้างยุ่งแล้วก็ไม่ได้มีเวลาเยอะมากมายที่ต้องมานั่งศึกษาว่าธนาคารไหนให้ดอกเบี้ยเท่าไร รายละเอียดยังไง แบบไหนจะตอบโจทย์เรา
พอลองมาทำรีไฟแนนซ์กับรีฟินน์กลายเป็นไม่ยุ่งยากเลยครับ กรอกข้อมูลนิดเดียวแล้วก็ขึ่นโปรโมชั่นธนาคารที่เหมาะกับเรา ไม่ต้องวิ่งหาธนาคารเองให้วุ่นวายเลยครับ
ผู้ใช้บริการผ่าน Refinn
จากเดิมผ่อนบ้าน 17,500 บาท/เดือน
หลังรีไฟแนนซ์แล้วเหลือผ่อน 7,500 บาท/เดือน
ประหยัดได้ 10,000 บาท/เดือน
ผู้ใช้บริการผ่าน Refinn
ก่อนหน้านี้คิดว่าต้องศึกษาการีไฟแนนซ์ค่อนข้างเยอะเลยครับ
แต่เนื่องจากว่าเราทำงานค่อนข้างยุ่งแล้วก็ไม่ได้มีเวลาเยอะมากมายที่ต้องมานั่งศึกษาว่าธนาคารไหนให้ดอกเบี้ยเท่าไร รายละเอียดยังไง แบบไหนจะตอบโจทย์เรา
พอลองมาทำรีไฟแนนซ์กับรีฟินน์กลายเป็นไม่ยุ่งยากเลยครับ กรอกข้อมูลนิดเดียวแล้วก็ขึ่นโปรโมชั่นธนาคารที่เหมาะกับเรา ไม่ต้องวิ่งหาธนาคารเองให้วุ่นวายเลยครับ
ผู้ใช้บริการผ่าน Refinn
จากเดิมผ่อนบ้าน 17,500 บาท/เดือน
หลังรีไฟแนนซ์แล้วเหลือผ่อน 7,500 บาท/เดือน
ประหยัดได้ 10,000 บาท/เดือน
ผู้ใช้บริการผ่าน Refinn
ก่อนหน้านี้คิดว่าต้องศึกษาการีไฟแนนซ์ค่อนข้างเยอะเลยครับ
แต่เนื่องจากว่าเราทำงานค่อนข้างยุ่งแล้วก็ไม่ได้มีเวลาเยอะมากมายที่ต้องมานั่งศึกษาว่าธนาคารไหนให้ดอกเบี้ยเท่าไร รายละเอียดยังไง แบบไหนจะตอบโจทย์เรา
พอลองมาทำรีไฟแนนซ์กับรีฟินน์กลายเป็นไม่ยุ่งยากเลยครับ กรอกข้อมูลนิดเดียวแล้วก็ขึ่นโปรโมชั่นธนาคารที่เหมาะกับเรา ไม่ต้องวิ่งหาธนาคารเองให้วุ่นวายเลยครับ
ผู้ใช้บริการผ่าน Refinn
สรุปการรีไฟแนนซ์บ้านสามารถลดดอกเบี้ยได้ ทำให้ประหยัดเงินได้เป็นล้านบาท แต่ก่อนจะยื่นขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน ทุกครั้งอย่าลืมที่จะเช็ครายละเอียดต่างๆ ของแต่ละธนาคารให้ดีก่อน ไม่ว่าจะเป็นโปรโมชั่นรีไฟแนนซ์บ้านปี คุณสมบัติของผู้ขอสินเชื่อ และเอกสารที่ต้องใช้ เพราะแต่ละที่ก็จะมีการปรับเปลี่ยนโปรโมชั่นอยู่ตลอด หากเราไม่เช็คก่อนยื่นเรื่องทุกครั้งก็อาจจะพลาดโปรโมชั่นรีไฟแนนซ์บ้านลดดอกเบี้ยดีๆ โดนๆ ไปได้ และที่สำคัญเพื่อความง่าย สะดวกในการเช็คอย่าลืมใช้บริการ Refinn ที่รวมข้อเสนอรีไฟแนนซ์บ้านจากธนาคารชั้นน้ำไว้ให้เช็ค และเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยได้ ไม่ต้องไปเข้าหลายเว็บเลย