“รีไฟแนนซ์บ้าน” ก็เหมือนเปลี่ยนใจไปหาคนที่ใช่กว่า
“รีไฟแนนซ์บ้าน” ก็เหมือนเปลี่ยนใจไปหาคนที่ใช่กว่า


“รีไฟแนนซ์บ้าน” ก็เหมือนเปลี่ยนใจไปหาคนที่ใช่กว่า

หลายคนอาจจะพอรู้ประโยชน์ของการรีไฟแนนซ์บ้านกันบ้างแล้ว ว่าสามารถประหยัดเงินให้เราได้ขนาดไหน แต่สำหรับคนที่ยังไม่เข้าใจ ผมอธิบายง่ายๆแบบนี้ครับ นึกถึงตอนเราใช้เครือข่ายโทรศัพท์ อาจจะคุ้นเคยกับคำว่า “ย้ายค่ายเบอร์เดิม” คือการที่เราใช้ค่ายโทรศัพท์เจ้านึงอยู่ แล้วอีกเจ้ายื่นข้อเสนอที่ถูกกว่า ดีกว่า คุ้มกว่า เพื่อให้เราย้ายเบอร์เดิมของเราไปอยู่ด้วย

แบบนี้ในฐานะผู้บริโภค เรามีแต่ได้กับได้ครับ เพราะยังมีโทรศัพท์เบอร์เดิมใช้ ไม่ต้องเปลี่ยนเบอร์ใหม่ แถมได้โปรโมชั่นดีๆ ที่ค่ายเก่าไม่มี และยังราคาถูกกว่าด้วย

เรื่องแบบนี้ไม่ได้มีเฉพาะวงการโทรศัพท์ครับ แต่เรื่องใกล้ตัวเราอย่าง “หนี้บ้าน” ที่ผ่อนๆอยู่ นี่ก็สามารถทำได้เหมือนกัน คล้ายๆกับหลักการ “ย้ายค่ายเบอร์เดิม” แต่เราจะเรียกว่า “รีไฟแนนซ์บ้าน” (ย้ายแบงค์ บ้านเดิม)

เหตุผลที่การรีไฟแนนซ์บ้าน น่าสนใจก็เพราะว่า ปกติแล้วธนาคารที่เราไปขอสินเชื่อบ้าน จะกำหนดอัตราดอกเบี้ยแบบถูกๆไว้ในช่วง 3 ปีแรก (ถ้าเป็นแฟนกัน ก็เรียกว่าช่วงโปรโมชั่น) แต่พอหมดช่วงโปรโมชั่น ดอกเบี้ยจะลอยตัวขึ้นไป แพงขึ้นเป็นเท่าตัว ยกตัวอย่างของบ้านผม ลอยจาก 3% ขึ้นไปเป็น 7% จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราจะคิดเปลี่ยนใจไปหาคนที่ใช่กว่า ตอบโจทย์เราได้ดีกว่า (ผมหมายถึงเรื่องบ้านนะครับ)

ซึ่งตรงนี้เอง หลายๆคนคิดว่า ดอกเบี้ยแพงขึ้น 4% เอง มันจะมากขนาดไหนกัน..แบบนี้ผิดนะครับ เพราะ 4% นี่ต่อปี นะครับ และสินเชื่อบ้านปกติเราผ่อนกัน 30 ปี! นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมเราควรรีไฟแนนซ์บ้าน ถ้าผ่อนมาครบ 3 ปีแล้ว นั่นเองครับ

ตารางเปรียบเทียบดอกเบี้ย รีไฟแนนซ์ vs ไม่รีไฟแนนซ์

รีไฟแนนซ์บ้าน มีค่าใช้จ่ายอะไรไหม?

การรีไฟแนนซ์บ้าน จะมีค่าใช้จ่ายหลักๆ ดังนี้ครับ

  • ค่าจดจำนอง จ่ายให้กรมที่ดิน 1% ของวงเงินกู้ (ไม่เกิน 200,000 บาท)
  • ค่าประเมินหลักทรัพย์ 
  • ค่าอากรแสตมป์ 0.05% ของวงเงินขอกู้ใหม่
  • ค่าธรรมเนียมอื่นๆ ของธนาคารเล็กน้อย

ซึ่งหลายๆคน ไม่คิดรีไฟแนนซ์บ้าน เพราะคิดว่ามีค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์เยอะซึ่งอาจจะได้ไม่คุ้มเสีย แต่รู้หรือไม่ว่าการรีไฟแนนซ์เป็นทางเลือกที่ดีที่ทำให้สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้เป็นจำนวนมาก และยังทำให้การผ่อนบ้านหมดเร็วอีกด้วย 

วันนี้ผมไปเจอแคมเปญที่น่าสนใจตัวนึง จากธนาคารกสิกรไทย สุขยกบ้าน รีไฟแนนซ์บ้านกับสินเชื่อบ้านกสิกรไทย ฟรีค่าจดจำนอง และจุดที่น่าสนใจอีกหลายอย่าง

จุดเด่นของแคมเปญนี้มีอะไรบ้าง?

  1. ดอกเบี้ยต่ำ ปีที่ 1-3 MRR-3.22% หลังจากนั้นจนตลอดอายุสัญญา MRR-1.50%
  2. ฟรีค่าจดจำนองสูงสุด 200,000 บาท
  3. กู้เพิ่มได้อีกจากยอดรีไฟแนนซ์เดิม โดยใช้อัตราดอกเบี้ยต่ำเท่าวงเงินสินเชื่อบ้าน 
  4. ผ่อนได้นาน 30 ปี โดยสามารถผ่อนได้ยาวนานถึงอายุ 70 ปี
  5. อนุมัติผลภายใน 3 วัน เฉพาะการอนุมัติเบื้องต้น กรณีที่ยื่นเอกสารครบถ้วน


ส่วนตัวผมคิดว่ามีเรื่องน่าสนใจอยู่ 3 ประเด็นคือ

  • ฟรีค่าจดจำนอง เพราะมันแทบจะเรียกว่า เราไม่เสียอะไรเลยจากการรีไฟแนนซ์ครั้งนี้ มีแต่ได้กับได้ และเป็นธนาคารฯ ที่จริงใจในการฟรีค่าจดจำนอง สูงสุด 200,000 บาท (ซึ่งปกติถ้าบ้าน 3 ล้านบาท ค่าจดจำนอง 1% ของวงเงินกู้ จะต้องจ่ายถึง 30,000 บาท แต่ทางธนาคารฯ จะออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมดรวมถึงวงเงินที่กู้เพิ่ม เช่น วงเงินตกแต่งสินเชื่อบ้านกสิกรไทย หรือวงเงินประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้าน แต่ธนาคารบางแห่งฟรีค่าจดจำนองเฉพาะวงเงินสินเชื่อบ้านหรือหรือจ่ายให้แค่ครึ่งเดียว)
  • วงเงินกู้เพิ่มได้ดอกเบี้ยเท่าดอกเบี้ยบ้าน เพราะปกติเวลาเราขอกู้เพิ่ม ธนาคารหลายๆแห่ง เขาจะมองว่า นี่เป็นวงเงินสินเชื่ออเนกประสงค์ ไม่ได้กู้เพื่อไปซื้อบ้าน จะโดยคิดดอกเบี้ยแพงขึ้นหลายเท่าเลยล่ะครับ
  • อนุมัติเร็ว คือต้องเข้าใจก่อนว่า ปกติสินเชื่อบ้านนี่ใช้เวลารออนุมัตินานที่สุดแล้วครับ การที่แคมเปญนี้ชูจุดเด่นเรื่อง รู้ผลอนุมัติเร็ว นี่น่าสนใจทีเดียว ยิ่งถ้ามีบัญชีเงินเดือนผ่านธนาคารกสิกรไทย หรือมีประวัติการผ่อนชำระที่ดีในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา สามารถยื่นแค่เอกสารใบเสร็จการชำระเงินกู้เดือนล่าสุด ก็สามารถขออนุมัติผลเบื้องต้นได้ โดยใช้เวลารออนุมัติเพียงแค่ 3 วันทำการเท่านั้น

ใครที่ผ่อนบ้านมาครบ 3 ปี และกำลังคิดจะรีไฟแนนซ์บ้าน ทำเลยครับ เพราะจะช่วยคุณประหยัดเงินได้มาก และถ้าอ่านแล้วสนใจข้อดีของแคมเปญรีไฟแนนซ์บ้านกสิกรไทย ก็ตามลิ้งค์นี้ ไปดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://bit.ly/2T6i0Z9 แล้วลองตัดสินใจดูครับ 

รีไฟแนนซ์กับสินเชื่อกสิกร

เผยแพร่เมื่อวันที่ 29 มี.ค. 2562
พงศธร ธนบดีภัทร
CEO & Co-Founder ที่ช่วยคนไทยรีไฟแนนซ์ไปแล้วกว่าพันล้านบาท