มีเงินก้อนเหลือเก็บจะ ‘โปะรถ’ หรือ ‘โปะบ้าน’ แบบไหนดี | Refinn
pay a bonus for house or car

มีเงินก้อนเหลือเก็บจะ ‘โปะรถ’ หรือ ‘โปะบ้าน’ แบบไหนดี | Refinn

อ่านพาดหัวแล้วต้องคลิกเลยใช่มั้ยล่ะบทความนี้ เพราะอย่างที่เรารู้ๆ กันดีว่า คนไทยส่วนใหญ่นั้นให้ความสำคัญกับเรื่องบ้าน และเรื่องรถเอามากๆ แทบทุกบ้านต้องมี 2 สิ่งนี้อยู่เสมอ ซึ่งทั้งรถและบ้านนั้นก็ไม่ใช่ทรัพย์สินที่ราคาถูกๆ ด้วย แต่ละอย่างต้องอาศัยการผ่อนชำระในระยะเวลาหลายปี ทำให้เป็นหนี้มากมาย ดังนั้นวันนี้เราจึงจะพาทุกคนไปหาคำตอบกันเองว่า ถ้าต้องผ่อนทั้งรถ และบ้าน จะเลือกโปะส่วนไหนให้หมดไปก่อนดี

ดอกเบี้ยบ้าน

ดอกเบี้ยบ้านนั้นจะคิดแบบลดต้นลดดอกไปเรื่อยๆ จนเราจ่ายหมด ทำให้ยิ่งจ่าย ยิ่งผ่อนถูกลง เช่น เราขอกู้บ้านในราคา 3 ล้าน 1 ปีผ่านไป เราผ่อนจนเงินต้นลดเหลือ 2.8 ล้าน แล้วเราบังเอิญถูกหวย ก็เอาเงินมาโปะบ้านไปอีก 1 แสนบาท ตรงนี้จะทำให้ค่าดอกเบี้ยในระยะยาวของเราลดลงมาเกือบ 5 แสนบาทเลยทีเดียว แถมทำให้ระยะเวลาผ่อนบ้านลดลงไป 2 ปี 3 เดือนเลย เพราะอะไรน่ะหรือ? ก็เพราะว่า ดอกเบี้ยบ้านเป็นดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอกยังไงล่ะครับ หมายความว่าทุกๆเดือน ดอกเบี้ยจะถูกคิดคำนวณใหม่ จากเงินต้นคงเหลือของเรา ถ้าเงินต้นหายไป 100,000 บาท แสดงว่า ค่างวดในอีกหลายๆ ปีที่เหลือ ก็จะถูกลงทุกเดือนนั่นเองครับ

ดอกเบี้ยรถ

สำหรับดอกเบี้ยรถนั้นจะคำนวณแบบคงที่ตลอดระยะเวลาการผ่อน เช่น เราซื้อรถมา 1 ล้านบาท ต้องผ่อน 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 3% ต่อปี เท่ากับต้องจ่ายดอกเบี้ยทั้งหมด 150,000 บาท รวมกับเงินต้นด้วยก็จะได้ 1,150,000 บาท จากนั้นเอามาหาร 60 เดือน เท่ากับเราต้องจ่ายหนี้รถยนต์เดือนละ 19,166.67 บาท ซึ่งการคิดดอกเบี้ยแบบคงที่นั้นทำให้ต่อให้ผ่อนไปมากน้อยแค่ไหน ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายก็จะเท่าเดิม ไม่มีเปลี่ยนแปลง เพราะว่าค่างวดเดือนละ 19,166.67 บาทนั้น ถูก fix ไว้แล้ว นั่นเองครับ

สรุปแล้วถ้ามีเงินก้อนต้องผ่อนอะไรก่อน

หลังจากรู้วิธีคิดดอกเบี้ยของทั้งการผ่อนรถ และการผ่อนบ้านกันไปเรียบร้อยแล้ว ก็ขอฟันธงเลยนะครับว่า ถ้ามีเงินก้อนอยู่ในมือ ให้เลือกผ่อนบ้านเลยดีที่สุด เพราะยิ่งเราจ่ายไปมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งช่วยประหยัดค่าดอกเบี้ยที่จะตามมาในแต่ละเดือนมากเท่านั้น แต่ถ้าเพื่อนๆ คนไหนที่ผ่อนบ้านอยู่และยังไม่รู้ว่า การประหยัดดอกเบี้ยบ้าน นอกจากหาเงินมาโปะแล้ว ยังมีอีกวิธีที่ดีมากๆ นั่นก็คือการ “รีไฟแนนซ์” เพราะว่าถ้าเราผ่อนบ้านอยู่ เราจะรู้ว่า 3 ปีแรกดอกเบี้ยถูก แต่หลังจากนั้นดอกเบี้ยแพงขึ้นมาทันที การรีไฟแนนซ์บ้าน หรือ รีไฟแนนซ์คอนโด ก็คือการย้ายไปผ่อนกับอีกธนาคารที่ดอกเบี้ยถูกกว่า และนักวางแผนการเงินแนะนำให้รีไฟแนนซ์บ้านทุก 3 ปี เพื่อผลประโยชน์ที่คุ้มค่าที่สุดด้วยครับ

ถ้าอยากรู้ว่ารีไฟแนนซ์บ้าน หรือรีไฟแนนซ์คอนโด กับธนาคารไหนดีที่สุด เราสามารถเข้าไปเช็คง่ายๆได้ที่ www.refinn.com/รีไฟแนนซ์บ้าน ได้เลยครับ มีโปรโมชั่นจาก 15 ธนาคารชั้นนำมาให้เลือก ฟรี ไม่มีค่าบริการ

เผยแพร่เมื่อวันที่ 04 มิ.ย. 2561
พงศธร ธนบดีภัทร
CEO & Co-Founder ที่ช่วยคนไทยรีไฟแนนซ์ไปแล้วกว่าพันล้านบาท