เช็คเครดิตบูโรด้วยตัวเอง สะดวก รู้ผลไว ที่ไหนก็ทำได้ง่าย ๆ
สมัครสินเชื่อส่วนบุคคล
ดอกเบี้ยต่ำ ผ่อนสูงสุด 60 งวด
เช็คเครดิตบูโรด้วยตัวเอง สะดวก รู้ผลไว ที่ไหนก็ทำได้ง่าย ๆ

เช็คเครดิตบูโรด้วยตัวเองง่าย ๆ รู้ผลไว ที่ไหนก็ทำได้ ไม่ยากอย่างที่คิด

เช็คเครดิตบูโรด้วยตัวเองง่าย ๆ รู้ผลไว ที่ไหนก็ทำได้ ไม่ยากอย่างที่คิด

สำหรับการใช้ชีวิตของผู้คนในยุคนี้ การทำสินเชื่อต่าง ๆ คือสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อรถแลกเงิน สินเชื่อบ้าน เป็นต้น แต่เมื่อเราผ่อนสินเชื่อไปนาน ๆ อาจทำให้เกิดปัญหา เช่น การผิดงวดชำระ หรือข้อมูลเครดิตบูโรที่ผิดพลาด ดังนั้นการเช็คเครดิตบูโรด้วยตัวเอง จึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อเป็นการรีเช็คประวัติและจัดการประวัติทางการเงินของตัวเราเอง เพื่อเพิ่มความมั่นใจก่อนขอสินเชื่อต่าง ๆ ในอนาคต

ในบทความนี้เราจะมาเจาะลึกถึงการเช็คเครดิตบูโรด้วยตัวเอง ว่าสามารถทำที่ไหนบ้าง และทำไมเครดิตบูโรที่เป็นสิ่งสำคัญ ทำไมคนขอสินเชื่อจำเป็นต้องเช็ค รวมถึงสถานะเครดิตบูโรดูยังไง พิจารณาจากเงื่อนไขอะไรบ้าง ถ้าพร้อมแล้วไปติดตามอ่านกันได้เลย

เครดิตบูโร คืออะไร?

เครดิตบูโรคือ ประวัติข้อมูลการทำธุรกรรมทางการเงินของลูกค้า จากบริษัทข้อมูลบัตรเครดิตแห่งชาติ จำกัด ซึ่งถือว่าเป็นฐานข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับข้อมูลเครดิตจากแต่ละสถาบันการเงิน เครดิตบูโร เช็คอะไรบ้าง นั้น ก็ต้องบอกเลยว่าเป็นข้อมูลด้านสินเชื่อ และการเงินของแต่ละคน เช่น ชื่อ เลขบัตรประชาชน รวมถึงข้อมูลการใช้บัตรเครดิต เป็นต้น โดยหน้าที่ของเครดิตบูโร คือจะช่วยให้สถาบันการเงินสามารถดำเนินการตรวจเครดิตบูโรของลูกค้า ก่อนที่จะอนุมัติสินเชื่อต่าง ๆ ซึ่งทุกวันนี้เราสามารถเช็คเครดิตบูโรด้วยตัวเอง เพื่อเพิ่มความสะดวกรวดเร็วสำหรับคนที่วางแผนสมัครสินเชื่อ หรืออยากตรวจประวัติการเงิน

สถานะเครดิตบูโร มีอะไรบ้าง?

สถานะเครดิตบูโร มีอะไรบ้าง

หลังจากทำความเข้าใจว่า เครดิตบูโรคืออะไรแล้ว อีกสิ่งสำคัญก่อนเช็คเครดิตบูโรด้วยตัวเองต้องรู้คือสถานะเครดิตบูโร โดยจะมีการแบ่งสถานะออกเป็นตามตัวเลขและตัวหนังสือ โดยจะมีตั้งแต่ 0 - F ซึ่งมีความหมายต่าง ๆ ดังนี้

  • สถานะ 0 หมายถึง ไม่มีประวัติการค้างชำระ หรือค้างชำระหนี้ไม่เกินกว่า 30 วัน
  • สถานะ 1 หมายถึง ค้างชำระหนี้ตั้งแต่ 31 - 60 วัน
  • สถานะ 2 หมายถึง ค้างชำระหนี้ตั้งแต่ 61 - 90 วัน
  • สถานะ 3 หมายถึง ค้างชำระหนี้ตั้งแต่ 91 - 120 วัน
  • สถานะ 9 หมายถึง ค้างชำระหนี้ตั้งแต่ 271 - 300 วัน 
  • สถานะ F หมายถึง ค้างชำระหนี้มากกว่า 300 วัน

ควรเช็คเครดิตบูโรเมื่อไหร่?

การเช็คเครดิตบูโรด้วยตัวเองนั้น ทางที่ดีนั้นควรเช็คเครดิตตัวเอง อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เนื่องจากการหมั่นเช็คเครดิตบูโร จะช่วยให้เราสามารถเข้าใจสถานะทางการเงินของตัวเอง ว่ามีส่วนที่บกพร่อง ไม่ถูกต้อง เสี่ยงต่อการติดเครดิตบูโร หรือมีความเสี่ยงที่จะผิดชำระจนแบล็คลิสหรือไม่

ทำไมถึงต้องเช็คเครดิตบูโร?

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า การเช็คเครดิตบูโรคือสิ่งสำคัญที่ควรทำเป็นประจำอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ถึงแม้ว่าจะมีสินเชื่อส่วนบุคคลไม่เช็คบูโร หรือ สินเชื่อรถแลกเงินไม่เช็คบูโร แต่การเช็คเครดิตบูโรก็มีความจำเป็นต่อด้านการเงิน ดังนี้

  • เพื่อวางแผนการเงินระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคนที่มีหนี้สินเยอะ ต้องจ่ายหนี้หลายก้อนในแต่ละเดือน การตรวจเช็คเครดิตบูโรจะช่วยให้เราเห็นได้ว่า หนี้ของเรามียอดค้างชำระเท่าไหร่บ้าง เพื่อวางแผนทางการเงินได้อย่างแม่นยำ 
  • เพื่อตรวจสอบโอกาสในการขอสินเชื่อ หลายคนอาจสงสัยว่า ติดบูโรรีไฟแนนซ์บ้านได้ไหม หรือติดบูโรจะทำธุรกรรมอะไรได้บ้าง ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการตรวจเครดิตบูโรเพราะการที่เราจะไปดำเนินการขอสินเชื่อก้อนใหม่ ดำเนินการรีไฟแนนซ์ หรือสมัครบัตรเครดิต สมัครบัตรกดเงินสดใด ๆ ก็ตาม ประวัติทางการเงินคือปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้เรากู้สินเชื่อผ่าน ซึ่งการเช็คบูโร จะช่วยให้เราเห็นว่าสถานะบูโรของเรานั้น มีคุณสมบัติเหมาะสมต่อการได้อนุมัติสินเชื่อหรือไม่ 
  • ป้องกันมิจฉาชีพ ทุกวันนี้เต็มไปด้วยภัยทางไซเบอร์มากมาย ซึ่งบางคนอาจหลอกลวงว่าเรานั้นมีประวัติติดเครดิตบูโร จนสร้างความไม่มั่นใจ ดังนั้นการเช็คเครดิตบูโรด้วยตัวเองเพื่อตรวจสอบความถูกต้อง จึงช่วยให้เราไม่เผลอตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ
  • ตรวจสอบความถูกต้องของสินเชื่อ มีโอกาสที่บางครั้งข้อมูลประวัติเครดิตบูโรของเรา อาจไม่ตรงกับความเป็นจริง เนื่องจากเจ้าหน้าที่สถาบันการเงินกรอกข้อมูลผิดพลาด หรือความผิดพลาดของระบบ ดังนั้นการเช็คเครดิตบูโรจึงเป็นการรีเช็คความถูกต้อง หากพบข้อมูลเครดิตบูโรที่ไม่ตรงสามารถแจ้งต่อเจ้าหน้าที่โดยทันที

เช็คเครดิตบูโรด้วยตัวเองที่ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร และตู้ Kiosk รอผลไม่นาน

เช็คเครดิตบูโรด้วยตัวเองที่ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร และตู้ Kiosk รอผลไม่นาน

สำหรับใครที่ต้องการเช็คเครดิตบูโรด้วยตัวเอง ทุกวันนี้ได้มีการเพิ่มความสะดวกมากขึ้น ด้วยจุดให้บริการตรวจที่ครอบคลุมหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยสามารถดำเนินการได้ผ่านวิธีเช็คเครดิตบูโรที่ศูนย์ตรวจเครดิตบูโรและตู้ Kiosk ทั่วประเทศ ดังนี้

  • ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร อาคารเดอะไนน์ ทาวเวอร์ แกรนด์พระรามเก้าชั้น 2
  • โดยจะเปิดทำการตั้งแต่วันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 09.00 - 16.30 น. (หยุดวันนักขัตฤกษ์)
  • เครดิตบูโรคาเฟ่ อาคารเพิร์ล แบงก์ค็อก ชั้น 3
  • เปิดให้บริการวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 09.00 - 18.00 น. (หยุดวันนักขัตฤกษ์)
  • ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร สถานีรถไฟฟ้า BTS ศาลาแดง
  • เปิดทำการรวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 09.00 - 18.00 น. (หยุดวันนักขัตฤกษ์)
  • ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร สถานีรถไฟฟ้า BTS อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
  • เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 09.00 - 18.00 น. 
  • ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร สถานีรถไฟฟ้า BTS หมอชิต
  • เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 09.00 - 18.00 น. 
  • ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร ศูนย์การค้าเจ-เวนิว (นวนคร)
  • เปิดทำการทุกวัน เวลา 09.00 - 18.00 น.
  • ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ (สถานีกลางบางซื่อ)
  • ให้บริการทุกวัน เวลา 08.30 - 23.00 น.
  • ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร อาคารสาธรนครทาวเวอร์ ชั้น 1
  • โดยจะให้บริการวันจันทร์ - เสาร์ เวลา 08.00 - 17.30 น. 
  • ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร-ท่าวังหลัง บริเวณทางเข้า-ออกท่าเรือ และใกล้ประตู 8 ของโรงพยาบาลศิริราช
  • เปิดทำการทุกวัน เวลา 09.00 - 18.00 น.
  • ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร ศูนย์การเรียนรู้ธนาคารแห่งประเทศไทย (อาคาร A) ชั้น 2
  • เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 08.30 - 20.00 น.
  • ยื่นเช็คเครดิตบูโรผ่านเจ้าหน้าที่เคาน์เตอร์ธนาคาร กรุงศรี (ทุกสาขา)
  • ให้บริการวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 08.30 - 15.30 น.
  • หรือผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารในห้างสรรพสินค้า ให้บริการทุกวัน เวลา 10.00 -18.30 น.
  • ใช้บัตร ATM ทำรายการผ่านหน้าจอของธนาคารที่รับเช็คเครดิตบูโร
  • สามารถดำเนินการได้ตลอด 24 ชั่วโมง
  • ยื่นเช็คเครดิตบูโรที่ทำการไปรษณีย์ เฉพาะสาขาที่ให้บริการ
  • โดยวันเวลาทำการจะยึดตามเวลาเปิด - ปิด ของที่ทำการไปรษณีย์สาขานั้น ๆ

เช็คเครดิตบูโรออนไลน์ ช่องทางไหนได้บ้าง?

หากใครที่ไม่สะดวกที่จะเดินทางไปดำเนินการเช็คเครดิตบูโรด้วยตัวเอง ตอนนี้ก็ได้มีการเช็คเครดิตบูโรในรูปแบบออนไลน์ ที่มีวิธีเช็คเครดิตบูโร รู้ผลทันที สะดวกกว่า รวดเร็วกว่า และไม่ต้องเดินทาง โดยสามารถดำเนินการผ่านแอปพลิเคชันต่าง ๆ ดังนี้ 

  • ยื่นคำร้องผ่านโมบายแอปพลิเคชันทางรัฐ
  • ระยะเวลาตรวจสอบ: 15 นาที
  • ยื่นคำร้องผ่านโมบายแอปพลิเคชัน Bureau OK
  • ระยะเวลาตรวจสอบ: 15 นาที
  • ยื่นคำร้องผ่านโมบายแอปพลิเคชัน Flash Express
  • ระยะเวลาตรวจสอบ: 24 ชั่วโมงทำการสำหรับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ และ 7 วันสำหรับรายงานรูปแบบไปรษณีย์
  • ทำรายการผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันธนาคารออนไลน์ต่าง ๆ 
  • แอปพลิเคชัน เป๋าตังค์ 
  • เว็บไซต์ธนาคารออนไลน์ กรุงศรี
  • Krungthai Next ธนาคารกรุงไทย
  • Bualuang mBanking ธนาคารกรุงเทพ
  • MyMo ธนาคารออมสิน
  • KKP Mobile ธนาคารเกียรตินาคิน
  • TTB Touch

เอกสารที่ต้องใช้ในเช็คเครดิตบูโรด้วยตัวเอง มีอะไรบ้าง?

การดำเนินการเช็คเครดิตบูโรด้วยตัวเอง นั้น เพื่อให้ได้ทราบผลที่รวดเร็ว จะต้องเตรียมเอกสารที่เป็นข้อมูลส่วนบุคคล หรือเอกสารรับรองในกรณีนิติบุคคล โดยแบ่งเป็นกรณีของการดำเนินการด้วยตนเอง และมอบหมายตัวแทน  ในการยื่นเช็คเครดิตบูโร ​ซึ่งจะมีเอกสารที่ต้องใช้ ดังนี้

1.กรณียื่นเช็คเครดิตบูโรด้วยตนเอง

  • บัตรประชาชนตัวจริง หรือหนังสือเดินทาง 
  • (กรณีนิติบุคคล) สำเนาหนังสือรับรองของนิติบุคคล โดยจะต้องมีอายุไม่เกิน 3 เดือน พร้อมลงนามรับรองความถูกต้อง
  • (กรณีนิติบุคคล) สำเนาบัตรประชาชน หรือหนังสือเดินทาง พร้อมลงนามรับรองความถูกต้อง

2.กรณีมอบหมายตัวแทนเช็คเครดิตบูโร

  • สำเนาบัตรประชาชนของผู้มอบอำนาจ พร้อมเซ็นสำเนาถูกต้อง
  • สำเนาบัตรประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ พร้อมเซ็นสำเนาถูกต้อง
  • หนังสือมอบอำนาจ พร้อมกรอกรายละเอียด มีการลงนามถูกต้องครบถ้วน

สรุป

การเช็คเครดิตบูโรน้ัน คือสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับใครที่กู้สินเชื่อหรือกำลังผ่อนสินเชื่อ หรือใครที่ทำธุรกรรมทางการเงิน เพราะการเช็คเครดิตบูโรด้วยตัวเอง จะถือว่าเป็นการตรวจประวัติทางการเงิน รักษาประวัติเครดิตบูโรที่ดี ป้องกันมิจฉาชีพ ช่วยให้วางแผนการทางการเงินได้ดี รวมถึงเป็นการเตรียมพร้อมก่อนไปขอสินเชื่อต่าง ๆ 

ส่วนใครที่ต้องการสินเชื่อเพื่อไปสร้างสภาพคล่องให้ตัวเอง หรือต่อยอดธุรกิจ แล้วไม่รู้ว่าจะขอสินเชื่อกับสถาบันการเงินไหนดี ขอแนะนำ Refinn ที่มีบริการเปรียบเทียบโปรโมชันสินเชื่อทุกประเภท ในรูปแบบออนไลน์ เพื่อให้คุณได้วงเงินและอัตราการผ่อนที่เหมาะสมที่สุด

เผยแพร่เมื่อวันที่ 04 มิ.ย. 2568
Refinn Writer
ช่วยเปรียบเทียบโปรโมชั่นที่ประหยัดดอกเบี้ยที่สุด ฟรี ไม่มีค่าบริการเพิ่มเติม