เช็คเครดิตบูโรด้วยตัวเองง่าย ๆ รู้ผลไว ที่ไหนก็ทำได้ ไม่ยากอย่างที่คิด
สำหรับการใช้ชีวิตของผู้คนในยุคนี้ การทำสินเชื่อต่าง ๆ คือสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อรถแลกเงิน สินเชื่อบ้าน เป็นต้น แต่เมื่อเราผ่อนสินเชื่อไปนาน ๆ อาจทำให้เกิดปัญหา เช่น การผิดงวดชำระ หรือข้อมูลเครดิตบูโรที่ผิดพลาด ดังนั้นการเช็คเครดิตบูโรด้วยตัวเอง จึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อเป็นการรีเช็คประวัติและจัดการประวัติทางการเงินของตัวเราเอง เพื่อเพิ่มความมั่นใจก่อนขอสินเชื่อต่าง ๆ ในอนาคต
ในบทความนี้เราจะมาเจาะลึกถึงการเช็คเครดิตบูโรด้วยตัวเอง ว่าสามารถทำที่ไหนบ้าง และทำไมเครดิตบูโรที่เป็นสิ่งสำคัญ ทำไมคนขอสินเชื่อจำเป็นต้องเช็ค รวมถึงสถานะเครดิตบูโรดูยังไง พิจารณาจากเงื่อนไขอะไรบ้าง ถ้าพร้อมแล้วไปติดตามอ่านกันได้เลย
เครดิตบูโร คืออะไร?
เครดิตบูโรคือ ประวัติข้อมูลการทำธุรกรรมทางการเงินของลูกค้า จากบริษัทข้อมูลบัตรเครดิตแห่งชาติ จำกัด ซึ่งถือว่าเป็นฐานข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับข้อมูลเครดิตจากแต่ละสถาบันการเงิน เครดิตบูโร เช็คอะไรบ้าง นั้น ก็ต้องบอกเลยว่าเป็นข้อมูลด้านสินเชื่อ และการเงินของแต่ละคน เช่น ชื่อ เลขบัตรประชาชน รวมถึงข้อมูลการใช้บัตรเครดิต เป็นต้น โดยหน้าที่ของเครดิตบูโร คือจะช่วยให้สถาบันการเงินสามารถดำเนินการตรวจเครดิตบูโรของลูกค้า ก่อนที่จะอนุมัติสินเชื่อต่าง ๆ ซึ่งทุกวันนี้เราสามารถเช็คเครดิตบูโรด้วยตัวเอง เพื่อเพิ่มความสะดวกรวดเร็วสำหรับคนที่วางแผนสมัครสินเชื่อ หรืออยากตรวจประวัติการเงิน
สถานะเครดิตบูโร มีอะไรบ้าง?
หลังจากทำความเข้าใจว่า เครดิตบูโรคืออะไรแล้ว อีกสิ่งสำคัญก่อนเช็คเครดิตบูโรด้วยตัวเองต้องรู้คือสถานะเครดิตบูโร โดยจะมีการแบ่งสถานะออกเป็นตามตัวเลขและตัวหนังสือ โดยจะมีตั้งแต่ 0 - F ซึ่งมีความหมายต่าง ๆ ดังนี้
- สถานะ 0 หมายถึง ไม่มีประวัติการค้างชำระ หรือค้างชำระหนี้ไม่เกินกว่า 30 วัน
- สถานะ 1 หมายถึง ค้างชำระหนี้ตั้งแต่ 31 - 60 วัน
- สถานะ 2 หมายถึง ค้างชำระหนี้ตั้งแต่ 61 - 90 วัน
- สถานะ 3 หมายถึง ค้างชำระหนี้ตั้งแต่ 91 - 120 วัน
- สถานะ 9 หมายถึง ค้างชำระหนี้ตั้งแต่ 271 - 300 วัน
- สถานะ F หมายถึง ค้างชำระหนี้มากกว่า 300 วัน
ควรเช็คเครดิตบูโรเมื่อไหร่?
การเช็คเครดิตบูโรด้วยตัวเองนั้น ทางที่ดีนั้นควรเช็คเครดิตตัวเอง อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เนื่องจากการหมั่นเช็คเครดิตบูโร จะช่วยให้เราสามารถเข้าใจสถานะทางการเงินของตัวเอง ว่ามีส่วนที่บกพร่อง ไม่ถูกต้อง เสี่ยงต่อการติดเครดิตบูโร หรือมีความเสี่ยงที่จะผิดชำระจนแบล็คลิสหรือไม่
ทำไมถึงต้องเช็คเครดิตบูโร?
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า การเช็คเครดิตบูโรคือสิ่งสำคัญที่ควรทำเป็นประจำอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ถึงแม้ว่าจะมีสินเชื่อส่วนบุคคลไม่เช็คบูโร หรือ สินเชื่อรถแลกเงินไม่เช็คบูโร แต่การเช็คเครดิตบูโรก็มีความจำเป็นต่อด้านการเงิน ดังนี้
- เพื่อวางแผนการเงินระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคนที่มีหนี้สินเยอะ ต้องจ่ายหนี้หลายก้อนในแต่ละเดือน การตรวจเช็คเครดิตบูโรจะช่วยให้เราเห็นได้ว่า หนี้ของเรามียอดค้างชำระเท่าไหร่บ้าง เพื่อวางแผนทางการเงินได้อย่างแม่นยำ
- เพื่อตรวจสอบโอกาสในการขอสินเชื่อ หลายคนอาจสงสัยว่า ติดบูโรรีไฟแนนซ์บ้านได้ไหม หรือติดบูโรจะทำธุรกรรมอะไรได้บ้าง ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการตรวจเครดิตบูโรเพราะการที่เราจะไปดำเนินการขอสินเชื่อก้อนใหม่ ดำเนินการรีไฟแนนซ์ หรือสมัครบัตรเครดิต สมัครบัตรกดเงินสดใด ๆ ก็ตาม ประวัติทางการเงินคือปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้เรากู้สินเชื่อผ่าน ซึ่งการเช็คบูโร จะช่วยให้เราเห็นว่าสถานะบูโรของเรานั้น มีคุณสมบัติเหมาะสมต่อการได้อนุมัติสินเชื่อหรือไม่
- ป้องกันมิจฉาชีพ ทุกวันนี้เต็มไปด้วยภัยทางไซเบอร์มากมาย ซึ่งบางคนอาจหลอกลวงว่าเรานั้นมีประวัติติดเครดิตบูโร จนสร้างความไม่มั่นใจ ดังนั้นการเช็คเครดิตบูโรด้วยตัวเองเพื่อตรวจสอบความถูกต้อง จึงช่วยให้เราไม่เผลอตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ
- ตรวจสอบความถูกต้องของสินเชื่อ มีโอกาสที่บางครั้งข้อมูลประวัติเครดิตบูโรของเรา อาจไม่ตรงกับความเป็นจริง เนื่องจากเจ้าหน้าที่สถาบันการเงินกรอกข้อมูลผิดพลาด หรือความผิดพลาดของระบบ ดังนั้นการเช็คเครดิตบูโรจึงเป็นการรีเช็คความถูกต้อง หากพบข้อมูลเครดิตบูโรที่ไม่ตรงสามารถแจ้งต่อเจ้าหน้าที่โดยทันที
เช็คเครดิตบูโรด้วยตัวเองที่ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร และตู้ Kiosk รอผลไม่นาน
สำหรับใครที่ต้องการเช็คเครดิตบูโรด้วยตัวเอง ทุกวันนี้ได้มีการเพิ่มความสะดวกมากขึ้น ด้วยจุดให้บริการตรวจที่ครอบคลุมหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยสามารถดำเนินการได้ผ่านวิธีเช็คเครดิตบูโรที่ศูนย์ตรวจเครดิตบูโรและตู้ Kiosk ทั่วประเทศ ดังนี้
- ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร อาคารเดอะไนน์ ทาวเวอร์ แกรนด์พระรามเก้าชั้น 2
- โดยจะเปิดทำการตั้งแต่วันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 09.00 - 16.30 น. (หยุดวันนักขัตฤกษ์)
- เครดิตบูโรคาเฟ่ อาคารเพิร์ล แบงก์ค็อก ชั้น 3
- เปิดให้บริการวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 09.00 - 18.00 น. (หยุดวันนักขัตฤกษ์)
- ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร สถานีรถไฟฟ้า BTS ศาลาแดง
- เปิดทำการรวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 09.00 - 18.00 น. (หยุดวันนักขัตฤกษ์)
- ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร สถานีรถไฟฟ้า BTS อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
- เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 09.00 - 18.00 น.
- ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร สถานีรถไฟฟ้า BTS หมอชิต
- เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 09.00 - 18.00 น.
- ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร ศูนย์การค้าเจ-เวนิว (นวนคร)
- เปิดทำการทุกวัน เวลา 09.00 - 18.00 น.
- ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ (สถานีกลางบางซื่อ)
- ให้บริการทุกวัน เวลา 08.30 - 23.00 น.
- ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร อาคารสาธรนครทาวเวอร์ ชั้น 1
- โดยจะให้บริการวันจันทร์ - เสาร์ เวลา 08.00 - 17.30 น.
- ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร-ท่าวังหลัง บริเวณทางเข้า-ออกท่าเรือ และใกล้ประตู 8 ของโรงพยาบาลศิริราช
- เปิดทำการทุกวัน เวลา 09.00 - 18.00 น.
- ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร ศูนย์การเรียนรู้ธนาคารแห่งประเทศไทย (อาคาร A) ชั้น 2
- เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 08.30 - 20.00 น.
- ยื่นเช็คเครดิตบูโรผ่านเจ้าหน้าที่เคาน์เตอร์ธนาคาร กรุงศรี (ทุกสาขา)
- ให้บริการวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 08.30 - 15.30 น.
- หรือผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารในห้างสรรพสินค้า ให้บริการทุกวัน เวลา 10.00 -18.30 น.
- ใช้บัตร ATM ทำรายการผ่านหน้าจอของธนาคารที่รับเช็คเครดิตบูโร
- สามารถดำเนินการได้ตลอด 24 ชั่วโมง
- ยื่นเช็คเครดิตบูโรที่ทำการไปรษณีย์ เฉพาะสาขาที่ให้บริการ
- โดยวันเวลาทำการจะยึดตามเวลาเปิด - ปิด ของที่ทำการไปรษณีย์สาขานั้น ๆ
เช็คเครดิตบูโรออนไลน์ ช่องทางไหนได้บ้าง?
หากใครที่ไม่สะดวกที่จะเดินทางไปดำเนินการเช็คเครดิตบูโรด้วยตัวเอง ตอนนี้ก็ได้มีการเช็คเครดิตบูโรในรูปแบบออนไลน์ ที่มีวิธีเช็คเครดิตบูโร รู้ผลทันที สะดวกกว่า รวดเร็วกว่า และไม่ต้องเดินทาง โดยสามารถดำเนินการผ่านแอปพลิเคชันต่าง ๆ ดังนี้
- ยื่นคำร้องผ่านโมบายแอปพลิเคชันทางรัฐ
- ระยะเวลาตรวจสอบ: 15 นาที
- ยื่นคำร้องผ่านโมบายแอปพลิเคชัน Bureau OK
- ระยะเวลาตรวจสอบ: 15 นาที
- ยื่นคำร้องผ่านโมบายแอปพลิเคชัน Flash Express
- ระยะเวลาตรวจสอบ: 24 ชั่วโมงทำการสำหรับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ และ 7 วันสำหรับรายงานรูปแบบไปรษณีย์
- ทำรายการผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันธนาคารออนไลน์ต่าง ๆ
- แอปพลิเคชัน เป๋าตังค์
- เว็บไซต์ธนาคารออนไลน์ กรุงศรี
- Krungthai Next ธนาคารกรุงไทย
- Bualuang mBanking ธนาคารกรุงเทพ
- MyMo ธนาคารออมสิน
- KKP Mobile ธนาคารเกียรตินาคิน
- TTB Touch
เอกสารที่ต้องใช้ในเช็คเครดิตบูโรด้วยตัวเอง มีอะไรบ้าง?
การดำเนินการเช็คเครดิตบูโรด้วยตัวเอง นั้น เพื่อให้ได้ทราบผลที่รวดเร็ว จะต้องเตรียมเอกสารที่เป็นข้อมูลส่วนบุคคล หรือเอกสารรับรองในกรณีนิติบุคคล โดยแบ่งเป็นกรณีของการดำเนินการด้วยตนเอง และมอบหมายตัวแทน ในการยื่นเช็คเครดิตบูโร ซึ่งจะมีเอกสารที่ต้องใช้ ดังนี้
1.กรณียื่นเช็คเครดิตบูโรด้วยตนเอง
- บัตรประชาชนตัวจริง หรือหนังสือเดินทาง
- (กรณีนิติบุคคล) สำเนาหนังสือรับรองของนิติบุคคล โดยจะต้องมีอายุไม่เกิน 3 เดือน พร้อมลงนามรับรองความถูกต้อง
- (กรณีนิติบุคคล) สำเนาบัตรประชาชน หรือหนังสือเดินทาง พร้อมลงนามรับรองความถูกต้อง
2.กรณีมอบหมายตัวแทนเช็คเครดิตบูโร
- สำเนาบัตรประชาชนของผู้มอบอำนาจ พร้อมเซ็นสำเนาถูกต้อง
- สำเนาบัตรประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ พร้อมเซ็นสำเนาถูกต้อง
- หนังสือมอบอำนาจ พร้อมกรอกรายละเอียด มีการลงนามถูกต้องครบถ้วน
สรุป
การเช็คเครดิตบูโรน้ัน คือสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับใครที่กู้สินเชื่อหรือกำลังผ่อนสินเชื่อ หรือใครที่ทำธุรกรรมทางการเงิน เพราะการเช็คเครดิตบูโรด้วยตัวเอง จะถือว่าเป็นการตรวจประวัติทางการเงิน รักษาประวัติเครดิตบูโรที่ดี ป้องกันมิจฉาชีพ ช่วยให้วางแผนการทางการเงินได้ดี รวมถึงเป็นการเตรียมพร้อมก่อนไปขอสินเชื่อต่าง ๆ
ส่วนใครที่ต้องการสินเชื่อเพื่อไปสร้างสภาพคล่องให้ตัวเอง หรือต่อยอดธุรกิจ แล้วไม่รู้ว่าจะขอสินเชื่อกับสถาบันการเงินไหนดี ขอแนะนำ Refinn ที่มีบริการเปรียบเทียบโปรโมชันสินเชื่อทุกประเภท ในรูปแบบออนไลน์ เพื่อให้คุณได้วงเงินและอัตราการผ่อนที่เหมาะสมที่สุด