บัตรเครดิต กับ บัตรเดบิต บัตรไหนดี เหมาะกับตัวเรา
บัตรเครดิต กับ บัตรเดบิต บัตรไหนดี เหมาะกับตัวเรา

บัตรเดบิตต่างกับบัตรเครดิตยังไง เดี๋ยวเล่าให้ฟัง

ใครที่มีบัตรเครดิต หรือ บัตรเดบิต อาจจะพอเข้าใจบ้างว่าระหว่างบัตรเครดิตกับบัตรเดบิต บัตร 2 ใบนี้แตกต่างกันอย่างไร แต่สำหรับคนที่ไม่เคยมีทั้งบัตรเครดิต และ บัตรเดบิต หรือ มีแค่บัตรใดบัตรหนึ่งอาจจะยังไม่รู้ว่า 2 บัตรนี้ถึงแม้ว่าชื่อนั้นจะคล้ายกัน แต่วิธีใช้ และเป้าหมายในการใช้แตกต่างกันนะครับ

ซึ่งในบทความนี้ผมจะพาทุกคนมารู้จักบัตรเครดิตและบัตรเดบิตกันว่าบัตร 2 ใบนี้คืออะไร และแตกต่างกันอย่างไร เพื่อเป็นข้อมูลไว้สำหรับประกอบการตัดสินใจสมัคร มาอ่านไปพร้อม ๆ กันเลยครับ

แต่ก่อนไปอ่าน สำหรับใครที่สนใจสมัครบัตรเครดิตแต่ไม่รู้จะเลือกบัตรไหนดีหรือ กลัวใช้แล้วไม่คุ้ม ผมขอแนะนำให้เลือกสมัครบัตรเครดิตผ่าน Refinn ซึ่งข้อดีของ Refinn ก็คือ เพื่อน ๆ จะสามารถเลือกบัตรเครดิตตามไลฟ์สไตล์การใช้จ่ายในชีวิตประวันของเพื่อน ๆ ได้ครับ ในหนึ่งวันเพื่อน ๆ หมดเงินไปกับอะไรก็เลือกสมัครบัตรเครดิตตรงตามไลฟ์สไตล์ของเพื่อน ๆ ได้เลย

รู้หรือไม่ บัตรเครดิต กับ บัตรเดบิต ใช้งานต่างกัน แม้ชื่อจะคล้ายกัน

บัตรเดบิต คืออะไร

บัตรเดบิตถ้าจะให้อธิบายแบบง่าย ๆ ให้เห็นภาพนะครับ ก็คือบัตรที่ผูกกับบัญชีธนาคาร โดยบัตรเดบิตจะแตกต่างจากบัตรเครดิตตรงที่วิธีใช้บัตรเดบิต คือถ้าจะกดเงินออกมาใช้ได้ต้องมีเงินอยู่ในบัญชีครับ เช่น สมมุติว่าเรามีเงินในบัญชี 10,000 บาท เราจะสามารถใช้บัตรเดบิตกดเงิน 10,000 บาทออกมาได้โดยไม่เสียดอกเบี้ยแม้แต่บาทเดียว

แตกต่างจากบัตรเครดิตที่เราไม่จำเป็นต้องมีเงินในบัญชีก็ได้ แต่สามารถใช้บัตรเครดิตรูดเงินมาใช้ก่อนค่อยจ่ายคืนทีหลังครับ แต่บัตรเครดิตนั้นจะมีการคิดดอกเบี้ยด้วย

หรือจะให้อธิบายง่ายกว่านั้นอีกก็คือ บัตรเดบิตเป็นบัตรที่ใช้ในการกดเงินออกจากบัญชีโดยจะใช้วิธีสอดบัตรและกดจากตู้ ATM อีกทีครับ

ข้อดีของบัตรเดบิต

สำหรับบัตรเดบิตนั้นจะมีข้อดีมากมาย ยิ่งใครที่คิดว่าวินัยทางการเงินตัวเองไม่ค่อยดี หรือ ไม่ชอบการเป็นหนี้ การใช้บัตรเดบิตถือว่าตอบโจทย์มาก ๆ เลย ซึ่งข้อดีของบัตรเดบิตจะมีอะไรบ้างนั้นเรามาดูไปพร้อม ๆ กันเลย

1.ไม่เป็นหนี้

ข้อดีข้อแรกเลยของบัตรเดบิตนั่นก็คือ ช่วยให้เราไม่เป็นหนี้ครับ เนื่องจากบัตรเดบิตถ้าจะเกิดเงินออกมาใช้จะต้องมีเงินอยู่ในบัญชีของเราก่อนครับ จะไม่สามารถยืมก่อนจ่ายทีหลังได้ บัตรเดบิตจึงเป็นตัวช่วยที่ทำให้เราไม่เป็นหนี้ อย่างมากก็แค่กดเงินจนหมดบัญชีครับ ดังนั้นใครที่กังวลว่าตนเองจะพลาดพลั้งใช้เงินเกินตัวแล้วเป็นหนี้ ก็หมดกังวลไปได้เลยครับ เพราะบัตรเดบิตจะช่วยให้คุณไม่เป็นหนี้

2.ไม่มีดอกเบี้ย

ข้อดีข้อที่ 2 ของบัตรเดบิตก็อย่างที่ผมบอกไปครับว่าบัตรเดบิตไม่สามารถยืมก่อนใช้ทีหลังได้ และที่สำคัญบัตรเดบิตจะต้องมีเงินอยู่ในบัญชีเท่านั้นถึงจะกดเงินออกมาได้ ดังนั้นสิ่งที่จะไม่มีแน่ ๆ ในบัตรเดบิตนั่นก็คือ ดอกเบี้ย เพราะฉะนั้นเพื่อน ๆ หมดห่วงได้เลยครับว่าการกดเงินผ่านบัตรเดบิตจะมีดอกเบี้ย เพราะไม่มีอย่างแน่นอน

3.ควบคุมการใช้ได้ง่ายกว่า

ด้วยกับบัตรเดบิตที่ผมเน้นไปบ่อย ๆ ว่าจะมีเงินในบัญชีก่อนถึงจะสามารถกดเงินออกมาได้ ดังนั้นเพื่อน ๆ จะสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ได้ง่ายกว่าบัตรเครดิต เพราะพอกดเงินออกมาเรื่อย ๆ เงินในบัญชีก็จะลดลงเรื่อย ๆ ตามจำนวนเงินที่เรากดออกมา ดังนั้นเราก็จะรู้ได้ทันทีมาตอนนี้เงินในบัญชีกำลังจะหมดแล้วนะ เราก็จะสามารถหยุดการใช้เงินของเราได้ครับ

บัตรเครดิต คืออะไร

มาถึงบัตรสำคัญที่เราจะพูดถึงกันในบทความนี้แล้วนะครับนั่นก็คือ บัตรเครดิต ซึ่งบัตรเครดิตจะเป็นหนึ่งในสินเชื่อส่วนบุคคลครับ ก็คือเราจะสามารถกดเงินจากบัตรเครดิตออกมาได้ก่อน แล้วค่อยผ่อนคืนทีหลัง แต่บัตรเครดิตก็ใช่ว่าจะรูดเท่าไหร่ก็ได้นะครับ เพราะบัตรเครดิตเองก็มีวงเงินจำกัดที่ผู้ออกบัตรออกให้แก่ผู้ถือบัตรเหมือนกัน 

โดยบัตรเครดิตจะมีข้อแตกต่างจากบัตรเดบิตตรงที่บัตรเครดิตนั้นไม่จำเป็นต้องมีเงินอยู่ในบัญชีก็สามารถนำไปใช้รูดใช้จ่ายสินค้าและบริการได้ครับ ซึ่งบัตรเครดิตจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ที่คนส่วนมากนิยมใช้กันก็คือ สะสมพ้อยท์ กับ เครดิตเงินคืน โดยทั้ง 2 ประเภทก็จะมีวิธีใช้และสิทธิประโยชน์ที่แตกต่างกัน

ข้อดีของบัตรเครดิต

สำหรับบัตรเครดิตก็จะมีข้อดีต่าง ๆ มากมาย ซึ่งผมจะมาแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้เห็นถึงข้อดีของบัตรเครดิตกัน โดยบัตรเครดิตจะมีประโยชน์อย่างมากถ้าเราเลือกสมัครบัตรเครดิตที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของเราให้มากที่สุด

1.สิทธิประโยชน์ที่มากกว่าเงินสด

อย่างที่ผมเกริ่นไปก่อนหน้าครับว่าบัตรเครดิตจะมีประโยชน์มาก ๆ ถ้าเราเลือกให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ของเรา ยังไง? ก็คือ เพื่อน ๆ ลองสังเกตตัวเองครับว่าใน 1  วัน หรือ ในชีวิตประจำวันของเพื่อน ๆ เงินส่วนมากหมดไปกับอะไร เช่น ยกตัวอย่างจากผมนะครับ ผมเป็นคนที่ชอบกิน เงินส่วนมากของผมมักจะหมดไปกับของกิน ไม่ว่าจะมื้อหนัก มื้อย่อย ผมก็จะซื้อกินเสมอ

ดังนั้นผมจึงเลือกสมัครบัตรเครดิตที่มีสิทธิประโยชน์ที่เกี่ยวกับการกิน เช่น ส่วนลดอาหาร เครื่องดื่มฟรี หรือ ส่วนลดเซ็ทอาหารและเครื่องดื่มเป็นต้น

2.รูดก่อนค่อยจ่ายคืนทีหลังได้

ข้อนี้ตรงกับเป้าหมายหลักของบัตรเครดิตเลยครับ เพราะคนส่วนมากที่สมัครบัตรเครดิตก็จะมีเป้าหมายในการรูดใช้ก่อนแล้วค่อยผ่อนคืนทีหลัง เพราะมนุษย์เงินเดือนอย่างเรากว่าเงินเดือนจะออกก็สิ้นเดือนใช่ไหมครับ 

บางทีเงินเดือนออกมาจ่ายค่านู่นค่านี่ต้นเดือนก็แทบจะหมดแล้ว ดังนั้นถ้ามีเรื่องจำเป็นต้องใช้เงินกะทันหันเงินก็อาจจะไม่พอให้ใช้ เช่น เจอของที่อยากได้มานานลดราคา แต่ตอนนั้นเงินไม่พอ ดังนั้นการมีบัตรเครดิตก็จะทำให้เราไม่ต้องพลาดเมื่อเจอเหตุการณ์แบบนี้ครับ

3.มีให้เลือกมากมายตามไลฟ์สไตล์

ข้อนี้ถือเป็นข้อดีของบัตรเครดิตที่แตกต่างจากบัตรเครดิตเลยนั่นก็คือ บัตรเครดิตเราจะสามารถเลือกบัตรที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของเราได้ เช่น ชอบกิน ชอบช้อป ชอบเที่ยว สามารถเลือกได้หมดเลย และถ้าใครขี้เกียจหาบัตรเครดิตมาเปรียบเทียบเองก็สามารถเปรียบเทียบบัตรเครดิตไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ จากธนาคารชั้นนำผ่าน Refinn ได้เลยครับ

บัตรเดบิตต่างกับบัตรเครดิตอย่างไรทำไมชื่อคล้ายกัน

หลายคนที่อ่านมาถึงตรงนี้ถ้าอ่านแบบละเอียดก็คงพอจะเข้าใจถึงความแตกต่างของบัตรเดบิตกับบัตรเครดิตแล้วใช่ไหมครับ แต่ถ้าใครยังงง ๆ อยู่ก็ไม่เป็นไรครับ เพราะเดี๋ยวผมจะมาอธิบายให้อีกครั้งในย่อหน้านี้

ข้อแตกต่างของบัตรเดบิตและบัตรเครดิตนั่นก็คือ บัตรเดบิตถ้าจะกดเงินออกมาจะต้องมีเงินอยู่ในบัญชีก่อน แต่บัตรเครดิตไม่ต้อง บัตรเครดิตจะสามารถรูดก่อนแล้วใช้คืนทีหลังได้, ข้อแตกต่างอีกข้อก็คือ บัตรเครดิตเราสามารถเลือกสมัครตามไลฟ์สไตล์ได้ซึ่งจะทำให้เราได้ประโยชน์มากมายจากการใช้บัตรเครดิต แตกต่างจากบัตรเดบิตที่ไม่ได้ต่างจากการใช้เงินสด

บัตรเดบิตกับบัตรเครดิตเลือกสมัครใบไหนดี

สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าระหว่างบัตรเดบิตกับบัตรเครดิตจะสมัครบัตรไหนดี ผมขอสรุปให้เลยนะครับว่า ถ้าต้องการบัตรที่ไว้ใช้กดเงินออกจากบัญชีเฉย ๆ โดยไม่ต้องการสิทธิประโยชน์อะไรก็แนะนำให้สมัครบัตรเดบิต แต่ถ้าใครที่ต้องการใช้เงินก่อนค่อยจ่ายคืนทีหลัง และต้องการสิทธิประโยชน์มากมายจากการใช้จ่ายทุกครั้ง ก็แนะนำให้สมัครบัตรเครดิตครับ

เผยแพร่เมื่อวันที่ 28 ก.พ. 2567
Refinn Writer
ช่วยเปรียบเทียบโปรโมชั่นที่ประหยัดดอกเบี้ยที่สุด ฟรี ไม่มีค่าบริการเพิ่มเติม