สรุปวิธีคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ปี 2568 ครบทุกขั้นตอนในที่เดียว

สิ้นปีใกล้เข้ามาอีกครั้ง หลายคนคงเริ่มกังวลเกี่ยวกับวิธีคิดภาษีและสงสัยว่าจะต้องเตรียมตัวกับการยื่นภาษียังไงบ้าง เป็นเรื่องปกติที่หลายคนจะรู้สึกสับสนและมีคำถามมากมายเกี่ยวกับขั้นตอนการยื่นภาษี ไม่ว่าจะเป็นวิธีคำนวณภาษีหรือวิธีคํานวณภาษีบุคคลธรรมดาต้องทำยังไง เราจะพาทุกคนมาไขข้อข้องใจ เพื่อให้คุณสามารถยื่นเอกสารได้อย่างมั่นใจและไม่ต้องกังวลเรื่องการถูกตรวจสอบอีกต่อไป
ใครบ้างที่ต้องยื่นภาษีบุคคลธรรมดา?

การยื่นภาษีเป็นหน้าที่ของประชาชนทุกคนที่มีรายได้เข้าเงื่อนไขที่กฎหมายได้มีการกำหนดไว้ แต่ถึงแม้จะมีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนด เราก็ต้องมีการคํานวณภาษี และส่งเข้าระบบสรรพากรเป็นหลักฐานว่ารายได้ต่อปีรวมทั้งหมดเป็นจำนวนเท่าไหร่ เพื่อไม่ให้ถูกกรมสรรพากรตรวจสอบย้อนหลัง
ซึ่งก่อนหน้าที่จะจ่ายภาษี เราต้องมีการคํานวณภาษีตามจำนวนรายรับที่เข้ามาในทุก ๆ เดือนตลอดทั้งปี ด้วยโปรแกรมคำณวนภาษีที่สามารถใช้งานได้ผ่านเว็บไซต์ของกรมสรรพากรนั่นเองครับ แต่แน่นอนว่ามีหลายคนที่ไม่ทราบว่าวิธีคำนวณภาษีควรทำยังไง แล้วเราจะต้องยื่นแบบไหน
ผมขอตอบให้ตรงนี้เลยครับว่าเราต้องยื่นภาษีบุคคลธรรมดา เมื่อผ่านวิธีคิดภาษีจากการคำนวณรายได้รวมตลอดทั้งปีเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะมีทั้งคนที่ต้องจ่ายภาษีและคนที่ไม่ต้องจ่าย ขึ้นอยู่กับรายได้รวมต่อปี และการลดหย่อนภาษีของแต่ละบุคคลนั่นเอง เพราะสรรพากรจะมีการคิดภาษีบุคคลธรรมดาในรูปแบบของขั้นบันไดครับ
โดยเงื่อนไขคือผู้ที่มีรายได้ตั้งแต่ 1 บาทถึง 150,000 บาท หลังคํานวณภาษีบุคคลธรรมดาออกมาแล้วจะได้รับการยกเว้นอย่างแน่นอน แต่หากมีรายได้มากกว่านั้นก็อยู่ที่แต่ละคนว่ามีภาระค่าใช้จ่ายอะไรบ้างตลอดทั้งปี เพื่อเอามาคํานวณเสียภาษีและสามารถนำมาลดหย่อนภาษีที่ต้องชำระได้นั่นเองครับ
บุคคลธรรมดาต้องยื่นแบบภาษีเมื่อไหร่?
ผมเชื่อว่ายังมีหลายคนที่ไม่ทราบครับว่าเราต้องยื่นภาษีเมื่อไหร่ คิดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดายังไง แล้วมีเงื่อนไขอย่างไรบ้าง จะได้เตรียมวิธีคำนวณภาษีได้อย่างถูกต้อง โดยเฉพาะคนที่สามารถลดหย่อนภาษีได้เยอะอย่างคนที่มีประวัติการบริจาคเงิน หรือมีการลดหย่อนภาษี บ้านหลังแรกครับ
โดยทั่วไปแล้ว บุคคลธรรมดาที่มีเงินได้พึงประเมินเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด จะต้องมีหน้าที่คิดภาษีเพื่อยื่นแบบแสดงรายการ ซึ่งเงินได้พึงประเมินนี้รวมถึง เงินเดือน ค่าจ้าง เงินที่ได้จากการค้าขาย เงินปันผล ดอกเบี้ย และเงินได้อื่น ๆ ที่กฎหมายกำหนดด้วยนั่นเอง
ระยะเวลาในการยื่นภาษี 2569
- ครึ่งปี สำหรับผู้ที่มีเงินได้พึงประเมินประเภทที่ 5, 6, 7 หรือ 8 (เช่น ค่าเช่า ค่าวิชาชีพอิสระ) ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงมิถุนายน จะต้องมีการคิดภาษีและยื่นแบบภายในเดือนกันยายนของปีนั้น
- สิ้นปี สำหรับผู้ที่มีเงินได้พึงประเมินตลอดทั้งปี จะต้องคำนวณภาษีบุคคลและยื่นแบบภายในเดือนมีนาคมของปีถัดไป หรือในเดือนมีนาคม 2569 นั่นเอง
เงื่อนไขการยื่นแบบ
- มีเงินได้พึงประเมินเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด เช่น เงินเดือนรวมตลอดปีเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด หรือหลังการคํานวณภาษีบุคคลธรรมดาที่มีรายรับอื่น ๆ รวมกับเงินเดือนแล้วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด
- เป็นผู้มีถิ่นที่อยู่หรือมีกิจการในราชอาณาจักรไทย หมายถึงคนที่มีสัญชาติไทยหรือชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในไทยเป็นเวลาเกิน 180 วันในรอบ 12 เดือน ก็ถือเป็นผู้ที่ต้องมีการคํานวณภาษีออนไลน์ และยื่นแบบตามกฎหมาย
- มีหน้าที่ตามกฎหมาย เช่น บุคคลธรรมดาที่ประกอบกิจการ ค้าขาย เป็นลูกจ้าง หรือมีรายรับจากการลงทุน เรียกได้ว่าครอบคลุมทุกอาชีพ จึงเป็นเหตุผลที่เราควรวางแผนการเงินให้ดีตลอดทั้งปี เพื่อรับมือกับการยื่นแบบครับ ซึ่งสามารถคำนวณได้ง่าย ๆ ผ่านเว็บคํานวณภาษีนั่นเอง
วิธีคิดภาษีแต่ละแบบพร้อมตัวอย่างเข้าใจง่าย
วิธีคำนวณภาษี หนึ่งในขั้นตอนที่หลายคนมองว่าเป็นเรื่องยุ่งยากที่สุด เพราะทางกรมสรรพากรจะไม่มีการคํานวณภาษีหัก ณ ที่จ่ายให้กับเราทุกคน แต่ถ้าเราเข้าใจหลักการและรู้วิธีการใช้โปรแกรมคํานวณภาษี สรรพากรก็จะช่วยให้การคำนวณภาษีของเรามีประสิทธิภาพสูงสุดครับ ซึ่งสำหรับในประเทศไทยของเราจะมีวิธีการคํานวณภาษีได้ 2 แบบ ประกอบไปด้วย
วิธีคิดภาษีแบบขั้นบันได
เป็นวิธีที่ได้รับความนิยม โดยเฉพาะวิธีคํานวณภาษี 408 ซึ่งจะใช้สำหรับคนที่มีรายได้อื่น ๆ ไม่ใช่เงินได้ประเภท 40(1) - 40(7) เหมาะสำหรับคนที่มีรายรับไม่สูง เพราะอัตราเงินที่เราต้องชำระจะแปรผันไปตามรายรับที่เราได้ในปีนั้น ยิ่งรายรับต่ำ เงินที่ต้องชำระก็ยิ่งต่ำ และยังเหมาะสำหรับมนุษย์เงินเดือน หรือผู้ที่มีรายได้ประจำด้วย
สามารถคิดภาษีแบบขั้นบันไดได้ผ่านโปรแกรมคํานวณภาษีบุคคลธรรมดา ในเว็บไซต์ของกรมสรรพากรได้เลยครับ
วิธีคํานวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จะแบ่งช่วงของเงินได้สุทธิออกเป็นหลายขั้น และกำหนดอัตราเงินที่ต้องจ่ายที่แตกต่างกันสำหรับแต่ละขั้น เพื่อการคำนวณอัตราเสียภาษีได้อย่างแม่นยำครับ
ตัวอย่างการคํานวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแบบขั้นบันไดสำหรับคนที่มีเงินได้สุทธิตลอดปี 500,000 บาท วิธีคิดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจะมีรูปแบบดังต่อไปนี้
- ขั้นตอนที่ 1 : หาเงินได้พึงประเมิน 8 ประเภท หักค่าใช้จ่าย
- 150,000 บาทแรก (อัตรา 0%)
- 150,001 - 300,000 บาท (อัตรา 5%)
- 300,001 - 500,000 บาท (อัตรา 10%)
- ขั้นตอนที่ 2 : เริ่มใช้โปรแกรมคํานวณภาษี
- ช่วงที่ 1 : 150,000 บาท x 0% = 0 บาท
- ช่วงที่ 2 : 150,000 บาท x 5% = 7,500 บาท
- ช่วงที่ 3 : 200,000 บาท x 10% = 20,000 บาท
- ขั้นตอนที่ 3 : นำภาษีจากการคำนวณภาษีออนไลน์ในแต่ละช่วงมารวมกัน 0 + 7,500 + 20,000 = 27,500 บาท ดังนั้น เงินที่ต้องจ่ายทั้งหมดคือ 27,500 บาท
วิธีคิดภาษีแบบเหมา
นอกจากการคิดภาษีแบบขั้นบันได เรายังสามารถใช้ itax คํานวณภาษีในรูปแบบเหมาได้เช่นกัน ซึ่งจะเหมาะกับคนที่มีรายรับนอกเหนือจากเงินเดือน หรือพูดง่าย ๆ ก็คือคนที่มีรายรับหลายช่องทางนั่นเองครับ รวมไปถึงคนที่มีรายรับต่อปีค่อนข้างเยอะ หลังการคิดภาษีหัก ณ ที่จ่าย ตามกฎหมายจะมีการกำหนดให้เสียเงินไม่ต่ำกว่า 5,000 บาทขึ้นไป ซึ่งข้อดีคือไม่ต้องคอยมานั่งกังวล และไม่ต้องมานั่งกังวลเรื่องการใช้โปรแกรมคำนวณภาษีหัก ณ ที่จ่ายเงินเดือนที่ผิดพลาด เพราะเราสามารถคำนวณแบบเหมาได้ง่าย ๆ และยังช่วยให้เราวางแผนการเงินได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมมากเลยทีเดียวครับ
วิธีคำนวณภาษี สูตรคำนวณภาษีแบบเหมาจะใช้อัตราคงที่ 0.5 เปอร์เซ็นต์ คูณกับเงินได้สุทธิที่เหลือหลังจากหักค่าลดหย่อนต่าง ๆ
ตัวอย่างการคำนวณ ตามตารางคำนวณภาษีแบบเหมา ยกตัวอย่างเช่น รายได้ของเราทุกทางยกเว้นเงินเดือนอยู่ที่ 1 ล้านบาท ก็จะเท่ากับ 1,000,000 x 0.005 = 5,000 บาท ดังนั้น เงินที่เราต้องจ่ายตามตารางเสียภาษีทั้งหมดคือ 5,000 บาท
ทำอย่างไรถึงจะได้สิทธิลดหย่อนภาษีเต็มที่?
ทราบกันไปแล้วกับวิธีคำนวณภาษีทั้ง 2 รูปแบบในประเทศไทย ซึ่งผมเชื่อว่าคนรุ่นใหม่ใคร ๆ ก็ต้องเสียแบบเหมาใช่ไหมล่ะครับ จากการมีรายได้หลายช่องทางที่ไม่ได้มีเพียงแต่งานประจำ แต่คำถามต่อมาคือแล้วเราควรจะทำอย่างไรถึงจะได้สิทธิลดหย่อนภาษีได้อย่างเต็มที่ ซึ่งมีทั้งแบบที่สามารถหักได้เป็นประจำทุกปี และบางส่วนที่ขึ้นอยู่กับนโยบายภาครัฐว่า ต้องการจะกระตุ้นเศรษฐกิจแบบไหน โดยทั่วไปแล้วจะประกอบไปด้วย
กลุ่มค่าลดหย่อนพื้นฐาน
เป็นส่วนที่ช่วยให้รายรับของเราในการคำนวณน้อยลงกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด หลังจากนั้นยังเอาจำนวนเงินที่เราใช้วิธีคํานวณภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% มาหักลบออกไปได้อีก โดยสิ่งที่สามารถหักลบได้ประกอบไปด้วย
- ค่าใช้จ่ายส่วนตัว เป็นเงินหักลบขั้นพื้นฐานที่ทุกคนมีสิทธิ์ได้รับ เอาไว้ใช้เพื่อดำรงชีพ
- คู่สมรส ใครที่คู่สมรสไม่มีเงินได้ หรือเงินได้ที่มีไม่เกินกฎเกณฑ์ที่กำหนด เราสามารถนำเอารายรับมาหักลบเพื่อใช้เป็นค่าดูแลคู่สมรสได้ด้วยครับ
- บุตร สำหรับใครที่มีลูกที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ และมีคุณสมบัติตรงตามที่กฎหมายกำหนด สามารถนำเอารายรับมาหักลบเพื่อใช้เป็นเงินในการดูแลลูกได้
- บิดามารดา สำหรับคนที่มีบิดามารดาอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป มีเงินได้ไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนดเอาไว้ สามารถหักลบเงินสำหรับใช้ในการดูแลบิดามารดาได้เช่นกันครับ
- ผู้พิการ สำหรับใครที่รับดูแลผู้พิการหรือทุพพลภาพ สามารถแสดงหลักฐานการรับดูแลเพื่อขอหักลบเงินค่าภาษีในส่วนนี้ได้ครับ
กลุ่มค่าลดหย่อนจากนโยบายภาครัฐ
ในเมื่อการเสียภาษีเป็นสิ่งที่ทุกคนกังวล รัฐบาลจึงออกนโยบายเพื่อส่งเสริมกิจกรรมต่างๆ อย่างเช่น การซื้อรถยนต์ไฟฟ้า ภาษีบ้านหลังแรก การจับจ่ายใช้สอยทั่วไป หรือแม้แต่การท่องเที่ยว ให้เราสามารถนำเอาเงินที่ใช้ในกิจกรรมหรือนโยบายเหล่านี้ มาหักลบจากรายได้ที่เราต้องใช้ในการคำนวณได้ เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้คนออกมาใช้จ่ายมากขึ้น
กลุ่มค่าลดหย่อนด้านการออมและการลงทุน
ใครกังวลเรื่องอัตราภาษีเพราะมีรายรับในแต่ละปีเยอะ หักทุกอย่างแล้วก็ยังมีอัตราภาษีก้าวหน้าที่สูงอยู่ดี เราขอแนะนำให้เอาเงินที่มีไปออมหรือลงทุนเลย เพราะเงินที่เราไปออมหรือลงทุนสามารถนำเอามาหักลบจากรายรับในการคำนวณได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น
- กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เป็นการออมเงินสำหรับใช้เมื่อเกษียณอายุ
- กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) เป็นการลงทุนระยะยาวเพื่อการเกษียณอายุ
- กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เป็นโครงการออมเพื่ออนาคต
กลุ่มค่าลดหย่อนเพื่อบริจาค
สำหรับคนที่กังวลว่าหลังจากใช้วิธีคํานวณเงินบริจาคนิติบุคคลแล้วปรากฏว่าต้องเสียเงินค่อนข้างเยอะ เราสามารถนำเอาเงินไปบริจาคเพื่อนำเอามาหักลบกับรายได้ได้ด้วย อย่างเช่น การบริจาคเพื่อพรรคการเมือง การบริจาคให้กับโรงเรียน วัด หรือโรงพยาบาล แต่ต้องมีเอกสารยืนยันการบริจาคเป็นใบเสร็จรับเงินที่ถูกต้อง เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการยื่นแบบเพื่อลดหย่อนภาษีนั่นเองครับ
กลุ่มค่าลดหย่อนจากประกัน
ใครยังไม่มีประกันให้รีบทำด่วนเลย เพราะเราสามารถนำเอาเบี้ยประกันมาหักลบได้ ไม่ว่าจะเป็นเบี้ยประกันชีวิต ทั้งแบบประกันออมเงินและประกันบำนาญ ขอเพียงแค่กรมธรรม์มีระยะเวลาคุ้มครอง 10 ปีขึ้นไป ก็สามารถนำเอาเบี้ยประกันมาหักได้ รวมไปถึงเบี้ยประกันสุขภาพของทั้งตัวเองและบิดามารดา ก็สามารถนำเอามาหักได้ด้วยเหมือนกัน
กลุ่มค่าลดหย่อนจากอสังหาริมทรัพย์
ใครที่กำลังสนใจอยากมีบ้านหลังแรกและอยากประหยัดเงินไปด้วย รู้หรือไม่ ว่าดอกเบี้ยบ้านลดหย่อนภาษีได้ ซึ่งช่วยให้รายรับของเราที่ต้องนำเอาไปคำนวณก็จะน้อยลงกว่าเดิม เป็นการกระตุ้นให้คนอยากซื้อบ้านเป็นของตัวเอง คล้ายกับการกระตุ้นเศรษฐกิจเลยครับ
วิธีคำนวณภาษี ที่ไม่ว่าใครก็ทำได้ง่าย ๆ
โดยรวมแล้ววิธีคำนวณภาษีไม่ได้ยากอย่างที่คิดครับ ขอเพียงแค่ใช้เวลาทำความเข้าใจและลองคำนวณตามตัวอย่างที่ผมได้หยิบยกไว้ให้ในบทความนี้ เพื่อน ๆ ก็จะสามารถคำนวณภาษี และยื่นแบบได้อย่างมั่นใจโดยที่ไม่ต้องกังวลว่าจะคำนวณผิดพลาด รวมถึงยังเป็นตัวช่วยให้เรามีการจัดการ และวางแผนการเงินได้อย่างเป็นระบบมากยิ่งขึ้นในทุก ๆ ปีครับ
สำหรับเพื่อน ๆ ที่ยังมีความกังวล หรือยังไม่มั่นใจในวิธีคำนวณภาษีของตัวเอง ก็สามารถติดต่อเข้ามาใช้บริการ Refinn ได้ครับ เพราะเราเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ช่วยบริการสภาพความคล่องการเงินของทุกคนเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นกว่าเดิม จากการมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำทุกปัญหาการเงิน ไม่ว่าจะเป็นภาษี ขอสินเชื่อ รีไฟแนนซ์ สมัครบัตรเครดิต เปิดบัญชี และซื้อประกัน เพราะเราพร้อมให้บริการทางการเงินแบบครอบคลุม ให้คุณสามารถจัดการการเงินได้ด้วยการคลิกแค่ปลายนิ้วเท่านั้น


