หลังรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต มาวางแผนการเงินง่าย ๆ ช่วยปลดหนี้ให้เร็วขึ้น | Refinn
สมัครรีไฟแนนซ์บัตร ผ่าน Refinn
สมัครฟรี ไม่มีค่าบริการ ดอกเบี้ยต่ำ อนุมัติง่าย
วางแผนการเงิน

หลังรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต มาวางแผนการเงินง่าย ๆ ช่วยปลดหนี้ให้เร็วขึ้น

บัตรเครดิตนับว่าเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่แสนจะสะดวก เพราะช่วยทำให้เราไม่ต้องพกเงินติดตัวไว้เยอะๆ ก็สามารถซื้อสินค้าหรือบริการต่าง ๆ ได้ หรือการผ่อนชำระสินค้าต่าง ๆ ก็ทำได้แบบไม่ยากเย็น นอกจากนั้นยังทำให้เราได้รับโปรโมชั่นดี ๆ อีกมากมายจากร้านค้าที่ร่วมรายการ ตลอดจนถึงสิทธิประโยชน์ในการสะสมแต้มมากมาย ซึ่งจากข้อดีแบบนี้ก็คงจะไม่แปลกอะไรที่หลาย ๆ คนจะมีบัตรเครดิตติดตัวไว้

แต่ในบางครั้ง ด้วยความสะดวกของบัตรเครดิตนี้เองก็อาจจะเผลอทำให้เราใช้จ่ายเกินตัว จนเกิดหนี้สินต่าง ๆ ตามมาได้ ซึ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมา หนึ่งในทางออกที่พอช่วยได้ก็คือการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตที่จะช่วยปรับสภาพทางการเงินให้มีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น 



และหลังจากรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตไปแล้วก็ใช่ว่าเรื่องของหนี้สินจะจบเลย เพราะเราก็ยังต้องผ่อนชำระหนี้ที่มีอยู่ดี เนื่องจากการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตจะเป็นแค่การขอสินเชื่อจากธนาคารแห่งใหม่มารวมหนี้บัตรเครดิตที่เรามีอยู่ และทำให้ยอดผ่อนต่อเดือนลงลง เรามีสภาพคล่องมากขึ้น และหากเราทำการรีไฟแนนซ์แล้วรวมกับการวางแผนการเงินที่ดี ก็จะยิ่งช่วยทำให้เราปลดหนี้ได้เร็วยิ่งขึ้น โดยในวันนี้ Refinn ก็จะพาเพื่อน ๆ ไปวางแผนการเงินแบบที่ทุกคนทำกันได้ รับรองว่าถ้าทำตามแล้วจะปลดหนี้ได้เร็วขึ้นอย่างแน่นอน

1. ทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย แบบง่าย ๆ

หลายคนอ่านหัวข้อนี้ก็รู้สึกอยากจะเบนหน้าหนี้แล้วใช่ไหมครับ แต่อย่าพึ่งปิดไม่อ่านเลยนะครับข้อนี้มันสำคัญจริง ๆ แล้วเราก็มีทริคที่จะทำให้การบัญชีรายรับ รายจ่ายเป็นเรื่องที่ง่าย และสะดวกขึ้น ไม่ต้องมาพกสมุดคอยจดแล้วครับ 

การทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย นั้นจะช่วยให้เราจะสามารถวางแผนการเงินได้อย่างเป็นระบบหลังจากได้เห็นตัวเลขรายได้ที่เข้ามาและรายจ่ายที่ออกไป แต่ละเดือนเราหมดเงินไปกับอะไร รายการไหนที่เราสามารถลดได้บ้าง 

โดยเราแนะนำให้ใช้บัญชีรายรับรายจ่ายผ่านมือถือครับไม่ต้องจดลงบนสมุดเหมือนเมื่อก่อนแล้ว และบางแอพบันทึกด้วยเสียงได้ด้วย ไม่ต้องมานั้งพิมพ์สบายสุด ๆ เลยครับ วันนี้ผมยกตัวอย่างหนึ่งแอพพลิเคชั่นที่น่าใช้ สามารถโหลดได้ทั้งมึงถือ Android และ IOS เลยครับ นั้นก็คือ แอพพลิเคชั่น Metang (มีตังค์) ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายของไทยที่สามารถใช้งานได้ง่าย โดยมีจุดที่ผมมองว่าน่าสนใจคือ

  • มีเมนูภาษาไทย
  • สามารถทำการบันทึกข้อมูลด้วยเสียงได้ 
  • แบ่งบัญชีออกเป็นหลายๆ บัญชีได้ ทำให้เพื่อนๆ สามารถบริการจัดการเงินแต่ละส่วนได้อย่างเป็นระบบ 
  • มีกราฟสรุปผลแบบละเอียดที่สามารถดูได้ง่าย โดยแบ่งตามหมวดหมู่ต่างๆ ที่สามารถดูย้อนหลังไปได้ถึงระดับปีเลยครับ
  • Export ข้อมูลออกเป็นเป็นไฟล์ Excel เพื่อเอามาวิเคราะห์แบบละเอียดได้อีกที

บัญชีรายรับรายจ่าย

Android : ดาวน์โหลดคลิ๊ก MeTang I iOS : ดาวน์โหลดคลิ๊ก MeTang

2. จัดการระบบเงินในกระเป๋า

พอเราทราบแล้วว่าในแต่ละเดือนเงินที่เราได้มานั้นถูกใช้จ่ายไปกับค่าอะไรบ้าง ถ้าจะให้ดีขึ้นอีกเราต้องทำการจัดสรรเงินที่เรามีอยู่เกิดประสิทธิภาพสูงที่สุด โดยผมอยากจะนำเสนออีกหนึ่งวิธีที่มีประสิทธิภาพเหมือนกัน แต่ยังทำให้คุณพอจะใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติสุขอีกด้วย โดยวิธีนั้นก็คือ 'เทคนิคการจัดสรรเงินแบบลีกาชิง'

เทคนิคการเก็บเงินของลีกาชิงเป็นเทคนิคการจัดการเงินของมหาเศรษฐีชาวฮ่องกงท่านหนึ่งที่มีชื่อว่า ลีกาชิง ที่มีทรัพย์สินมากติดอันดับโลกและอยู่ในอันดับต้น ๆ ของเอเชีย ทั้งยังถูกจัดให้เป็นบุคคลที่มีอิทธิพลมากที่สุดในเอเชีย 

ซึ่งเทคนิคของลีกาชิงนั้นก็ไม่ได้ซับซ้อนเลย โดยเขาแนะนำว่าเราไม่ควรเก็บเงินไว้ก้อน เดียวแต่ควรแบ่งเงินออกเป็นหลาย ๆ ก้อน เพื่อใช้จ่ายตามจุดประสงค์ของเงินก้อนนั้นๆ เพราะหากเรารวมค่าใช้จ่ายทุกอย่างไว้ก่อนเดียวเราก็จะใช้เรื่อย ๆ ใช้จนเพลิน รู้ตัวอีกทีเงินหมดไปทั้งก้อนแล้ว โดยเขาได้แนะนำให้เราแบ่งเงินออกเป็น 5 กองจากเงินที่เรามี ดังนี้

  • เงินกองที่ 1 สำหรับใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน 30%
  • เงินกองที่ 2 สำหรับสร้างความสัมพันธ์ ออกสังคม 20%
  • เงินกองที่ 3 สำหรับการศึกษา 15%
  • เงินกองที่ 4 สำหรับการท่องเที่ยว 10%
  • เงินกองที่ 5 สำหรับการออมและการลงทุน 25%

โดยเทคนิคนี้เพื่อน ๆ สามารถเอาไปประยุกต์ใช้กับตัวเองได้ทันที และอาจจะปรับเปลี่ยนสัดส่วนและวัตถุประสงค์ของเงินแต่ละก้อนไปตามความเหมาะสมของตัวเองได้ ยกตัวอย่าง เช่น หากเพื่อน ๆ ยังมีหนี้อยู่ที่ต้องใช้อยู่จะให้ทำตามแบบลีกาชิงคงไม่ได้ เราก็อาจจะปรับเงินแต่ละก้อนเป็นแบบนี้ก็ได้ครับ 

  • เงินกองที่ 1 สำหรับใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน 30%
  • เงินกองที่ 2 สำหรับสร้างความสัมพันธ์ ออกสังคม 10%
  • เงินกองที่ 3 สำหรับการศึกษา 5%
  • เงินกองที่ 4 สำหรับการท่องเที่ยว 5%
  • เงินกองที่ 5 สำหรับการออมและการลงทุน 10%
  • เหลือเงินไว้สำหรับใช้หนี้อีก 40%

อย่างที่ผมลองจัดใหม่ก็เรียกว่าเป็นแนวทางนะครับ เพราะมันขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลเลยครับ แต่แค่อยากให้คุณทำการแบ่งการเงินสำหรับใช้ในแต่ละเดือนของเรา จะได้รู้ลิมิตในการใช้เงิน มีความยับยั้งชั่งใจก่อนใช้เงินครับ

3. หารายได้เพิ่มเติมให้กับตัวเอง

แม้ว่าการรีไฟแนนซ์จะทำให้เราเหลือเงินต่อเดือนมากยิ่งขึ้นจากค่างวดที่ลดลง แต่การหารายได้อื่นเข้ามาเพิ่มเติมก็ยังช่วยให้เรามีสภาพคล่องทางการเงินเพิ่มขึ้นไปอีกและสามารถนำไปโป๊ะหนี้ได้ด้วยครับ

หลายคนก็อาจจะรู้สึกว่าเราจะไปทำไรได้ ถ้าจะทำอาชีพเสริมก็ต้องมีเวลา ไม่ก็ต้องมีเงินลงทุน ผมอยากแนะนำว่าอย่างพึ่งถอดใจครับ เพราะถ้าคุณสามารถใช้อินเตอร์เน็ตเข้ามาอ่านบทความนี้ได้ คุณสามารถทำงานเสริมแน่นอนครับ เพราะอาชีพในปัจจุบันตอนนี้มันจะมีหลากหลายจนเราคาดไม่ถึง เช่น ดูดวง โค้ชสอนเล่นเกมส์ ที่ปรึกษา หรืออาจจะหยิบมือถือมาถ่ายภาพรีวิวเป็น Influenc ก็ยังสามารถทำได้ครับ โดยผมได้รวมเว็บมาที่รวมงานมาให้สามารถไปดูงานได้เลยครับ

Fastwork.co

อาชีพเสริม

แหล่งรวมฟรีแลนซ์ชั้นนำของประเทศไทยที่เปิดโอกาสให้เรานำทักษะหรือความสามารถที่มีอยู่มาสร้างรายได้ให้กับตัวเอง มีตั้งแต่ สอนหนังสือ ให้คำปรึกษาการตลาด ถ่ายภาพ สอนดนตรี ดูดวง สอนเล่นเกมส์ ฯลฯ ลองเข้าไปดูครับเพื่อจะมีแนวทางที่เราสามารถทำได้

Shutterstock.com

หาเงิน

ส่วนใครที่ปกติเป็นคนที่ไปไหนก็ชอบถ่ายอาหาร ถ่ายรูปวิว มาอัพโหลดใน Faceboo IG อยู่แล้วเราก็ลองนำไปอัพเพื่อขายใน Shutterstock ดูก็ได้นะครับ เราแทบไม่ต้องทำไรเลย เรียกว่าขายได้ก็กำไร หากยังขายไม่ได้ก็ไม่ได้เสียอะไรเพราะมันก็เป็นรูปที่เราถ่ายปกติอยู่แล้วครับ

4. ลดโอกาสเกิดหนี้ใหม่

หลังจากเราทำตาม 3 ขั้นตอนข้างต้นแล้ว คิดว่าน่าจะจัดสรรการเงินได้ดีขึ้น หนี้ของคุณก็คงจะหมดเร็วขึ้น ซึ่งขั้นตอนสุดท้ายที่เราอยากจะเสริมเข้าไปอีกก็คือการทำประกันลดโอกาสที่จะเกิดหนี้อีก เพราะหากคุณทำตามขั้นตอนข้างต้นได้แล้ว แต่ดันเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้นมา มันก็อาจจะทำให้เรามีหนี้ก่อนใหม่แบบไม่เต็มใจได้อีก



ยกตัวอย่าง เช่น คุณรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตร่วมกับการบริหารจัดการเงินผ่านมาแล้ว 1 ปี เริ่มมีเงินเก็บบ้าง อยู่ ๆ ป่วยเข้าโรงพยาบาล สวัสดิการที่มีอยู่ก็ไม่ครอบคุมค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด จนต้องนำเงินเก็บออกมารักษาตัว แบบนี้จะทำให้เราต้องนับหนึ่งใหม่หรืออาจจะติดลบเลยครับ เราอาจจะแบ่งเงินออกมาสักหน่อยเพื่อมาจ่ายกับค่าความเสียงตรงนี้ครับ

และทั้งหมดนี้ก็เป็นคำแนะนำดีๆ จากทาง refinn ที่จะทำให้คุณจัดการกับหนี้สินได้ดียิ่งขึ้น และหากคุณเองกำลังมีปัญหาเรื่องหนี้สินจนต้องรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต อย่าพึ่งกังวลใจหรือคิดมากไปนะครับ ให้ลองคลิกเข้ามาที่ www.refinn.com/รีไฟแนนซ์บัตรเครดิต เราพร้อมช่วยในด้านต่าง ๆ อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะให้คำปรึกษาหรือขั้นตอนต่าง ๆ ในการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต ด้วยทีมงานมืออาชีพ จะช่วยให้การทำสินเชื่อของคุณเป็นเรื่องง่าย ไม่ต้องกังวลใจกับปัญหาหนี้สินที่เกิดขึ้น



เผยแพร่เมื่อวันที่ 08 ส.ค. 2563
Refinn Writer
ช่วยเปรียบเทียบโปรโมชั่นที่ประหยัดดอกเบี้ยที่สุด ฟรี ไม่มีค่าบริการเพิ่มเติม