เศรษฐกิจแบบนี้จ่ายเบี้ยประกันชีวิตต่อไม่ไหว ทำอย่างไรดี?
ประกันชีวิต ถือเป็นผลิตภัฑณ์ทางการเงินที่ดีนะครับ ช่วยลดความเสี่ยงด้านการเงินให้กับเรา แต่ก็ต้องใช้ระยะเวลาในการจ่ายเงินอย่างต่อเนื่อง และยาวนาน บางเล่มกรมธรรม์ 20 ปี, 30 ปี หรือมากกว่านั้น
และถึงแม้ว่าเบี้ยประกันที่เราจ่ายทุกปี จะเท่ากันและคาดการเงินที่ต้องใช้จ่ายในทุกปีได้ แต่บางครั้งชีวิตเราก็อาจจะมีสะดุดได้บ้าง อย่างเช่น ช่วงนี้ที่โควิดเข้ามาก็อาจทำให้หลายคนกระทบถูกลดเงินเดือน หรือถึงขั้นออกจากงาน ทำให้ไม่สะดวกที่จะจ่ายเบี้ยประกันชีวิตต่อไหว
พอเริ่มจ่ายไม่ไหว บางคนเลือกที่จะเงียบแล้วพยายามหลบหน้าตัวแทนประกัน เพราะไม่อยากจะคุยด้วยกลัวตัวแทนประกันจะมาคอยตื้อให้จ่าย ซึ่งผมบอกเลยว่าวิธีนี้ไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง เพราะเราจะเป็นคนที่เสียประโยชน์ที่สุดครับ ดังนั้นเพื่อรักษาผลประโยชน์ของเราให้ได้มากที่สุดวันนี้ผมจะมาแชร์ว่า ถ้า “เศรษฐกิจแบบนี้จ่ายเบี้ยประกันชีวิตต่อไม่ไหว ทำอย่างไรดี?”
4 วิธีจัดการ เมื่อจ่ายเบี้ยประกันชีวิตต่อไม่ไหว
ก่อนไปดูทั้ง 4 วิธี หากใครมีกรมะรรม์อยู่ใกล้มือผมอยากจะให้หยิบขึ้นมาดูแล้วลองอ่านไปพร้อมกันเลยนะครับ
1. ขอแบ่งจ่ายเป็นรายเดือน
วิธีแรกเลยคือ ถ้าเรายังรู้สึกอยากเก็บประกันกรมธรรม์นี้ไว้ และเราอาจจะสะดุดแค่ช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น ก็ให้ลองคุยกับทางตัวแทนประกันดูได้เลยครับว่า จากที่เคยจ่ายเป็นรายปี สามารถขอจ่ายเป็นรายเดือนแทนได้ไหม แม้ว่าการจ่ายเป็นรายเดือนอาจทำให้เบี้ยประกันสูงขึ้นอีกเล็กน้อย แต่เราจะยังได้รับความคุ้มครองอยู่ และช่วงแบ่งเบาภาระในช่วงที่เราสะดุด ไม่ต้องหาเงินเป็นก้อนมาจ่ายครับ
2. เวนคืนกรมธรรม์
การเวรคืนกรมธรรม์เราจะใช้ในกรณีที่เราต้องการปิดกรรมธรรมก่อนกำหนด และต้องการเงินคืนบ้างส่วน โดยที่ความคุ้มครองจะสิ้นสุดลงทุนที ซึ่งส่วนใหญ่แล้วถ้าเราจ่ายมาได้ไม่นานเงินส่วนนี้ก็จะน้อยมาก ๆ ครับ
ตัวอย่าง ตารางมูลค่ากรมธรรม์ประกันภัยต่อจำนวนเอาเงินประกันภัย 1,000 บาท
จากตารางตัวอย่าง ถ้าผมปิดกรมธรรมในสิ้นปีที่ 5 เงินค่าเวนคืนกรมธรรม์ที่ผมได้จะเท่ากับ 36 บาท ต่อเงินเอาประกันภัย 1,000 บาท ซึ่งถ้าผมทำประกันเอาจำนวนเงินประกันไว้ 100,000 บาท ก็จะได้ = ( 100,000 ÷ 1,000) x 36 = 3,600 บาท คือเงินเวนคืนที่ผมจะได้ครับ
3. ใช้เงินสำเร็จ
ถ้าเราปิดกรมธรรมก่อนกำหนด และเลือกใช้วิธีการใช้เงินสำเร็จ นั้นหมายความว่าเราไม่ต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันต่ออีกแล้ว ความคุ้มครองลดลง แต่เราจะยังได้รับระยะเวลาความคุ้มครองเท่าเดิมครับ
ตัวอย่าง ตารางมูลค่ากรมธรรม์ประกันภัยต่อจำนวนเอาเงินประกันภัย 1,000 บาท
จากตารางตัวอย่าง สมมุติถ้าผมอยู่ครบสัญญาผมจะได้จำนวนเงินเอาประกัน 100,000 บาท แต่ผมเลือกปิดกรมธรรม์ก่อนตอนสิ้นปีที่ 4 จำนวนเงินเอาประกันของผมจะละเหลือ = (175 ÷ 1,000) x 100,000 = 17,500 บาทครับ
4. ขยายระยะเวลา
หากเราปิดกรมธรรมก่อนกำหนดด้วยการเลือกวิธีการ ขยายระยะเวลา สิ่งที่เราจะได้ คือ เราจะไม่ต้องจ่ายเบี้ยประกันต่อแล้วและความคุ้มครองเท่าเดิม แต่ระยะเวลาในการคุ้มครองจะลดลงครับ
ตัวอย่าง ตารางมูลค่ากรมธรรม์ประกันภัยต่อจำนวนเอาเงินประกันภัย 1,000 บาท
จากภาพตารางตัวอย่าง สมมุติเราหยุดจ่ายในสิ้นปีที่กรมธรรม์ที่ 3 เราจะยังคงได้ความคุ้มครองเท่าเดิม ต่อไปอีก 7 ปี 146 วัน
จบไปแล้วครับกับ 4 วิธีที่เราเอามาแชร์ ซึ่งจริง ๆ แล้วน่าจะยังมีวิธีอื่นอีกนะครับในการจัดการปัญหานี้ ซึ่งง่ายที่สุดเลยคือเมื่อรู้ว่าเริ่มจ่ายไม่ไหวผมแนะนำว่าปรึกษาตัวแทนประกันที่ดูแลเราเลยครับ
เพราะกรมธรรม์ที่เรามีอยู่นั้นจะมีรายละเอียดหยุบหยิบ ตัวแทนประกันเขาจะรู้รายละเอียดมากที่สุด และหาทางออกให้เราได้ดีที่สุดครับ และผมเชื่อว่าด้วยสถานการณ์แบบนี้ทุกคนเข้าใจแล้วพร้อมช่วยกันเต็มที่ครับ
สำหรับวันนี้ผมก็ขอลาไปก่อนนะ ขอบคุณที่ติดตามอ่านครับทุกคน