ปี 2566 อยากขอเงินกู้ ต้องรู้อะไรบ้าง
กู้เงิน สินเชื่อส่วนบุคคล และสินเชื่ออื่น ๆ

ปี 2566 นี้ถ้าอยากได้เงินกู้ต้องทำอย่างไร

ในปีที่แล้วกระแสการขอเงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงินชั้นนำมีขึ้นอย่างต่อเนื่องเลยนะครับ เหตุผลหนึ่งก็เป็นเพราะว่า เศรษฐกิจที่อาจจะไม่ค่อยสู้ดีนัก ทำให้หลายคนขาดสภาพคล่องทางการเงินจนต้องหยิบยืมกู้เงินจากธนาคารหรือสถาบันการเงิน ซึ่งเราจะเห็นได้ว่า มีอัตราความต้องการสินเชื่อเงินกู้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อส่วนบุคคล หรือ สินเชื่อรีไฟแนนซ์รถ และ รถแลกเงิน จนไปถึงสินเชื่อบ้านแลกเงินที่ต้องนำสินทรัพย์มาค้ำประกัน ไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือคอนโด ไม่เว้นแม้กระทั่งรถยนต์หรือรถกระบะครับ แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนมากขึ้นก็คือมีบริษัทที่จดทะเบียนเป็นสถาบันการเงิน เพื่อมาปล่อยเงินกู้เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ซึ่งก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดีเพราะทำให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินกู้ที่ถูกกฎหมายได้มากขึ้น วันนี้เราจะมาคุยกันว่าถ้าอยากหาเงินกู้ศากรหนึ่งมีอะไรที่ต้องเตรียมตัวบ้างครับ คนที่กำลังมีแผนจะหาเงินด่วนจะได้เตรียมตัวได้ทัน และมีทางเลือกมากขึ้น

ทำความเข้าใจประเภทของสินเชื่อเงินกู้กันก่อน

ปกติแล้วถ้าเราอยากจะหาเงินกู้เพื่อเอาเงินสดมาใช้จ่ายอเนกประสงค์สักก้อนหนึ่ง เราต้องเข้าใจเสียก่อนว่าเงินกู้ที่ธนาคารจะให้เรานั้นจะแบ่งเป็นประเภทต่างๆตามความเสี่ยงของธนาคาร หรือสถาบันการเงินนั้น  ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราไปขอเงินกู้แบบไม่มีหลักทรัพย์อะไรไปค้ำประกันเลย ธนาคารก็มีความเสี่ยงสูงขึ้นที่จะสูญเสียเงินกู้ในก้อนนี้

เพราะคุณมีโอกาสเบี้ยวหนี้ธนาคาร หรือสถาบันการเงินแห่งนั้น ทำให้คุณอาจจะต้องนำสลิปเงินเดือน หรือ ธนาคารสถาบันการเงินแห่งนั้นอาจจะขอหลักฐานว่าคุณมีรายได้จากบริษัทจริง เช่นหนังสือรับรองเงินเดือน หรือรายการเดินบัญชีธนาคารย้อนหลังหกเดือน เพื่อให้มั่นใจว่าคุณมีรายได้ที่มาจากเงินเดือนประจำอย่างต่อเนื่องเพื่อมากู้เงินจริง แต่ก็ต้องยอมรับว่าสินเชื่อประเภทนี้ จะเรียกกันว่าสินเชื่อส่วนบุคคล เพราะไม่มีอะไรมาค้ำประกันเลยซึ่งจะทำให้ดอกเบี้ยแพงกว่าสินเชื่อที่มีหลักทรัพย์มาค้ำประกันเช่น บ้าน คอนโด หรือรถยนต์

นอกจากสินเชื่อส่วนบุคคลแล้ว มีเงินกู้แบบอื่นหรือไม่ 

แน่นอนว่ามีครับ เพราะถ้าคุณมีหลักทรัพย์มาค้ำประกันให้ธนาคาร ธนาคารก็จะมั่นใจในการปล่อยเงินกู้ครั้งนี้มากขึ้นและให้ดอกเบี้ยคุณถูกลงครับ ยกตัวอย่างเช่นถ้าคุณมีบ้านที่ผ่อนหมดแล้วคุณสามารถเอามากู้เงิน โดยขอสินเชื่อบ้านแลกเงินกับธนาคารได้เลย โดยธนาคารจะให้คุณจำนองบ้านหลังนี้แต่คุณก็ยังสามารถอยู่บ้านได้ปกตินะครับ และคุณก็จะได้รับดอกเบี้ยที่ถูกมากด้วยเพราะธนาคารมั่นใจว่าถ้าคุณเบี้ยวหนี้ก็ยังมีหลักทรัพย์ที่เป็นบ้านค้ำประกันอยู่

หรือบางคนมีรถ ก็สามารถใช้รถมาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเพื่อขอสินเชื่อรถแลกเงินและรีไฟแนนซ์รถได้ด้วย โดยธนาคารจะแบ่งการกู้เงินโดยสินเชื่อรถโดยดูจากสถานะการผ่อนชำระของรถที่คุณจะเอามาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเช่นรถยนต์ที่ผ่อนหมดแล้วก็จะให้เอามาใช้สินเชื่อรถแลกเงิน ในขณะที่เราที่ยังผ่อนไม่หมดก็จะเป็นสินเชื่อรีไฟแนนซ์รถแทน

ถ้าคุณสนใจจากขอสินเชื่อเงินกู้ก็สามารถเข้ามาหาได้ที่เว็บไซต์ www.refinn.com ที่รวบรวมดอกเบี้ยเงินกู้ประเภทต่างๆไว้อย่างครบถ้วน คุณสามารถหาดอกเบี้ยที่ถูกที่สุดและข้อเสนอที่ดีที่สุดได้ทันที

เผยแพร่เมื่อวันที่ 26 ส.ค. 2566
พงศธร ธนบดีภัทร
CEO & Co-Founder ที่ช่วยคนไทยรีไฟแนนซ์ไปแล้วกว่าพันล้านบาท