แก้ปัญหาหนี้บัตรเครดิตหลายใบแบบเพื่อนคุยกัน
สมัครรีไฟแนนซ์บัตร ผ่าน Refinn
สมัครฟรี ไม่มีค่าบริการ ดอกเบี้ยต่ำ อนุมัติง่าย
วิธีแก้ปัญหาหนี้บัตรเครดิตจ่ายไม่ไหว

แก้ปัญหาหนี้บัตรเครดิตหลายใบแบบเพื่อนคุยกัน

ต้องบอกก่อนว่าจริงๆแล้ว “บัตรเครดิต” เป็นตัวช่วยให้การเงินของผู้ใช้ดีขึ้นได้หลายด้าน ได้ทั้งคะแนนสะสม เงินคืนจากการใช้บัตรเครดิต รวมไปถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นของฟรี หรือส่วนลดจากห้างสรรพสินค้าหรือร้านอาหารชื่อดังหลายแบรนด์หลายสาขา เรียกได้ว่าทำให้เราได้ซื้อของที่ถูกลงกว่าการใช้เงินสดได้มากพอสมควร แต่! 

ก็มีหลายครั้งไม่น้อยที่เพื่อนๆหลายคนอาจจะหลงกับคำว่าใช้ง่ายของบัตรเครดิตและใช้เงินเกินตัวไปบ้างพอสมควร กว่าจะมารู้ตัวอีกทีก็กลายเป็นคนที่มีหนี้บัตรเครดิตหลายใบเข้าไปแล้ว เมื่อมีหนี้มากขึ้น สภาพคล่องใช้จ่ายต่อเดือนน้อยลง เงินเดือนใช้จ่ายเดือนชนเดือนจนเริ่มไม่พอใช้ จ่ายค่าเช่า ค่าบัตรเครดิต ค่ากินอยู่ไม่ค่อยไหว 

4 สัญญาณอันตรายหนี้บัตรเครดิตเกินตัว

ปัญหาส่วนใหญ่ที่พบของการจ่ายหนี้บัตรเครดิตไม่ไหว

ปัญหาที่เจอหลายๆกรณีเมื่อจ่ายหนี้บัตรเครดิตไม่ไหว คือเกิดปัญหาทางการเงินแล้วแก้ปัญหาผิดทาง หลายคนมักจะเลือกไปเปิดบัตรเครดิตหรือบัตรกดเงินสดใบที่ 2-3-4 ในการใช้บัตรเพื่อวนมาจ่ายบัตรเครดิตใบเดิมที่เป็นหนี้อยู่ การทำแบบนี้จะทำให้เพื่อนๆโดนดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมเพิ่มทุกครั้งไปเรื่อยๆ จริงๆแล้วผมว่าการที่ขาดผ่อนชำระหนี้บัตรเครดิตจนเสียประวัติการเงินและโดนฟ้องจนมีหมายศาลมาหาเรานั้น เป็นเรื่องที่ไม่น่าจะดีเลยไม่ว่าจะสำหรับใครก็ตาม



แต่แม้ว่าเราจะเลือกผ่อนจ่ายขั้นต่ำไปเรื่อยๆก็อาจจะไม่ไหวเพราะหนี้บัตรเครดิตมันมีหลายใบมากเกินไปจนไม่เหลือเงินไปใช้ชีวิตให้อยู่รอดได้ ดังนั้นวิธีจัดการเรื่องนี้ทำได้ง่ายๆโดยการคุยและเจรจาเรื่องระยะเวลาและกรอบการจ่ายหนี้ที่ชัดเจนด้วยการ “รีไฟแนนซ์บัตรเครดิต”

รีไฟแนนซ์บัตรเครดิต คืออะไร

รีไฟแนนซ์บัตรเครดิต คือการรวมหนี้บัตรเครดิตหรือบัตรกดเงินสดทุกใบที่มีอยู่แล้วไปขอสินเชื่อกู้จากธนาคารใหม่มาจ่ายปิดหนี้บัตรเครดิตเก่าทั้งหมดและมีหนี้เหลือเป็นก้อนเดียว แบบมีการคิดดอกเบี้ยและระยะเวลาผ่อนจ่ายชัดเจนโดยจะมีให้เลือกตั้งแต่ 12 - 60 เดือน เมื่อระยะเวลาผ่อนนานขึ้น ดอกเบี้ยถูกกว่าเดิมจะส่งผลให้สามารถผ่อนชำระหนี้บัตรเครดิตต่อเดือนถูกลงได้ ช่วยให้เราสามารถมีสภาพคล่องเงินเหลือไปใช้จ่ายต่อเดือนมากขึ้น ใครสนอยากอยากรู้จักมากขึ้นอ่านได้เพิ่มเน้นๆได้ที่ รีไฟแนนซ์บัตรเครดิต ครับ

รีไฟแนนซ์บัตรเครดิตช่วยลดภาระผ่อนต่อเดือนให้น้อยลงโดยการรวมหนี้บัตรเครดิตหลายใบไว้ที่เดียวและผ่อนจ่ายระยะยาว ทำให้ยอดผ่อนตัวเดือนน้อยลง

รีไฟแนนซ์บัตรเครดิตจะช่วยอะไรเราได้บ้าง

สรุปให้ฟังแบบเพื่อนคุยกันและเข้าใจง่ายคือ จากเดิมที่เราผ่อนจ่ายบัตรเครดิต 3-5 ใบเดือนละหลายหมื่นบาท การที่เราเจรจาและรู้จักการ รีไฟแนนซ์บัตรเครดิต จะช่วยให้การผ่อนต่อเดือนอาจจะลดได้เยอะมาก เราสามารถเลือกระยะเวลาผ่อนที่นานขึ้นกว่าเดิมตั้งแต่ 12 - 60 เดือน เพื่อให้ยอดผ่อนจ่ายธนาคารจากหลายหมื่นบาทลดมาเหลือเพียงแค่หลักพันบาทเท่านั้น

ส่งผลให้การรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตช่วยทำให้มีสภาพคล่องในแต่ละเดือนที่ดีขึ้น มีเงินเหลือไปใช้จ่ายในการใช้ชีวิตประจำวัน สามารถดูแลตัวเองและครอบครัวต่อโดยไม่ต้องไปกดใช้จ่ายเงินเพิ่มจากบัตรเครดิตหรือบัตรกดเงินสด รวมถึงยังมีกำหนดการระยะปลดหนี้ที่ชัดเจน สร้างกำลังใจที่ดีในการหาเงินมาจ่ายหนี้คืน หากใครอ่านมาถึงตรงนี้แล้วสนใจอยากรู้ว่าทำไมผมถึงสรุปมาเป็นแบบนี้ ลองมาอ่านบทความนี้กันต่อเลยครับ

ตัวอย่างการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตแล้วผ่อนจ่ายชำระให้ธนาคารต่อเดือนน้อยลง

หนี้บัตรเครดิตจ่ายขั้นต่ำคืออะไร?

ทุกบัตรเครดิตจะมีการแจ้งเตือนยอดใช้จ่ายมาให้เราทราบเสมอ รวมไปถึงช่วงสิ้นเดือนก็จะมีใบแจ้งยอดการใช้จ่ายมาให้ทั้งในรูปแบบทางจดหมายและอีเมลล์ เราจะสั่งเกตุได้ว่ายอดบัตรเครดิตมักจะมีการคำนวณยอดชำระมาให้ 2 แบบคือการจ่ายเต็มจำนวน และมียอดการจ่ายขั้นต่ำมาให้ด้วย 

การจ่ายชำระหนี้บัตรเครดิตเต็มจำนวนนั้นจริงๆแล้วไม่ใช่ปัญหาใดๆ เราใช้เงินไปเท่าไหร่ ก็หามาคืนธนาคารเท่านั้นเป็นเรื่องปกติที่เราจะไม่เสียดอกเบี้ยใดๆเพิ่มเติม แต่การจ่ายขั้นต่ำของยอดหนี้บัตรเครดิตส่วนใหญ่มักจะมีปัญหาตามมาคือการคิดดอกเบี้ย

มารู้จักการจ่ายขั้นต่ำของหนี้บัตรเครดิตกันก่อนนะครับ ยอดชำระขั้นต่ำมักจะอยู่ที่ 10% ของการใช้จ่ายที่เรารูดชำระไป เช่น สมมุติเรารูดเต็มวงเงินที่ 50,000 บาท ยอดชำระขั้นต่ำก็จะอยู่ที่ 10% คือ 5,000 บาท มันก็ฟังดูไม่แย่ใช่ไหมครับ แต่รู้หรือไม่ครับ จริงๆแล้วการจ่ายขั้นต่ำเป็นเพียงการรักษาประวัติการเงินไว้ไม่ให้ขึ้นค้างชำระ จ่ายขั้นต่ำจะช่วยให้ประวัติการเงินของเรายังคงเป็นปกติ อาจจะดูเหมือนว่าเป็นการช่วยลดภาระการใช้จ่ายเงิน แต่จริงๆแล้วก็ถือว่าเป็นการชำระเงินไม่ครบตามกำหนด ทำให้เกิดการคิดดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมขึ้นมาตามที่แต่ละธนาคารหรือสถาบันเจ้าของบัตรกำหนด ซึ่งก็มักจะอยู่ในเรทอัตราดอกเบี้ยที่สูงมากพอสมควร

แล้วการจ่ายหนี้บัตรเครดิตขั้นต่ำดีไหม?

จริงๆแล้วมันก็ดีนะ การที่เราได้ชำระยอดหนี้ถูกลงแบบไม่เสียเครดิตทางการเงิน แต่ถ้าจะให้ดีกว่าผมว่าคือการจ่ายเต็มจำนวนไม่ใช่การจ่ายเงินขั้นต่ำ ปัญหาตรงนี้แก้ได้ทางเดียวคือการวางแผนทางการเงินที่เหมาะสมและไม่ใช้เงินจนเกินไป แต่อ้าว!! คนที่เข้ามาอ่านบทความของผมอันนี้น่าจะอยากได้คำตอบอีกด้านมากกว่าว่า ถ้าเราวางแผนการเงินไม่ทันแล้วละ ตอนนี้เริ่มจำเป็นต้องจ่ายขั้นต่ำแล้ว จะมีวิธีแก้ยังไงบ้าง?

ตัวอย่างคิดดอกเบี้ยเมื่อจ่ายขั้นต่ำยอดบัตรเครดิต

การจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิตจะทำให้เราเสียดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมในอัตราที่สูงคือช่วงประมาณ 20% ต่อปี ตัวอย่างเช่น กำหนดให้ นาย A รูดซื้อสินค้าเมื่อวันที่ 1 เมษายน จำนวน 30,000 บาท กำหนดให้การใช้บัตรเครดิตใบนี้สรุปยอดค่าใช้จ่ายทุกวันที่ 25 ของเดือน และครบกำหนดชำระในวันที่ 10 ของเดือนถัดไป 

เมื่อถึงกำหนดชำระเงิน 10 พฤษภาคม จากปกติต้องจ่ายเต็มจำนวนเงินที่ 30,000 บาท นาย A ตัดสินใจจ่ายขั้นต่ำเพียง 10% ของยอดคือ 3,000 บาท ในรอบบิลถัดไป 25 พฤษภาคม นาย A จะถูกคิดดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมในการใช้วงเงินบัตรเครดิต

  1. ถูกคิดดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมจากยอดทั้งหมดตั้งแต่วันที่รูดคือ 30,000 บาท x 20% x 25 วัน / 365 = 410.95 บาท 
  2. ถูกคิดดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมจากยอดคงค้างที่เหลือคือ 27,000 x 20% x 16 วัน / 365 = 236.71 บาท 

ดังนั้นสรุปยอดเงินที่จะถูกเรียกเก็บในงวดถัดไปคือ 27,000 + 410.95 + 236.71 = 27,647.66 บาท

ถ้าเราจ่ายขั้นต่ำไปเรื่อยๆ ก็จะกลายเป็นว่าเราจะเป็นหนี้ทบหนี้ไปเรื่อยๆเช่นกัน ส่งผลให้เมื่อเราเริ่มชำระหนี้ขั้นต่ำแล้วก็จะยิ่งมีความยากในกลับมาชำระยอดเต็มนวน ระยะเวลาผ่อนจ่ายก็จะนานมากขึ้นไปเรื่อยๆ 

ปัญหาหนี้บัตรเครดิตหนี้ใบทำให้ขาดสภาพคล่องทางการเงิน

ในกรณีของใครหลายๆคนมักจะมีปัญหาหนี้บัตรเครดิตหลายใบทำให้เงินเดือนที่หามาได้ในแต่ละเดือนมักจะไม่พอใช้จ่ายใช่ไหมครับ ตัวอย่างเช่นคนที่มีรายได้ 30,000 บาท แต่กลับเป็นหนี้บัตรเครดิตหลายใบ ยอดรวมๆกันแล้วอาจจะจบที่มากกว่า 200,000 บาทก็เป็นได้ หากเราจะจ่ายขั้นต่ำของยอดหนี้แต่เครดิตแต่ละใบที่ 10% กลายเป็นว่าเราต้องจ่ายหนี้บัตรเครดิตสูงมากถึง 20,000 บาทต่อเดือน เหลือเงินอีกแค่ 10,000 บาท ในการจ่ายค่าใช้จ่ายอื่นๆที่ต้องรับผิดชอบเช่น ค่าโทรศัพท์ ค่าไฟ ค่าน้ำ ค่าเช่าห้อง ค่ารถ ค่าเดินทาง รวมไปถึงยังมีค่ากินรายวันที่ต้องใช้ชีวิตอีกด้วย 

เมื่อเป็นแบบนี้แล้วคนที่กำลังเป็นหนี้อยู่มักจะไม่มีความสุขและเกิดความกังวลในการใช้ชีวิต การทำงานก็อาจจะกระทบส่งผลให้งานออกมาแย่ลง ไม่สามารถใช้ชีวิตทำงานหารายได้ที่มากขึ้นได้ จึงก็มักจะไม่หลุดจากวงจรหนี้นี้ออกไปได้

ตัวอย่างการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตจาก Refinn

Refinn เรามีบริการที่จะช่วยค้นหาเปรียบเทียบโปรโมชั่นรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตที่ดีและเหมาะสมให้กับเพื่อนๆครับ รวมถึงเป็นบริการฟรีที่เราร่วมมือกับธนาคารชั้นนำของประเทศไทย สามารถให้เพื่อนๆกรอกข้อมูลและดูผลลัพธ์โปรโมชั่นที่ดีที่สุดได้เลย ตัวอย่างเช่น 

นาย A มีรายได้จากการทำงานอยู่ที่ 30,000 บาท แต่มีหนี้บัตรเครดิต 5 ใบ รวมยอดแล้ว 150,000 บาท การชำระขั้นต่ำ 10% จึงต้องจ่ายค่าบัตรเครดิตเดือนละ 15,000 บาท เท่ากับว่านาย A จะเหลือเงินเพียง 15,000 บาท สำหรับใช้ชีวิตในเดือนนี้ ซึ่งจริงๆแล้วยังมี ค่าบ้าน/คอนโด ค่าเช่า ค่ารถ ค่าเดินทาง ค่าโทรศัพท์ รวมไปถึงค่าน้ำ ค่าไฟและค่าใช้จ่ายในการกินแต่ละวัน 

ซึ่งการจ่ายขั้นต่ำ 15,000 ของนาย A แทบจะเป็นการจ่ายเงินระยะยาว เพราะปกติแล้วยอดหนี้ประมาณนี้ จะใช้เวลามากถึงประมาณ 2-3 ปี ในการชำระขั้นต่ำไปเรื่อยๆจนหนี้บัตรเครดิตหมด เสมือนนาย A จะต้องกินอยู่ใช้จ่ายอย่างประหยัดมากๆจนแทบไม่พอใช้ จนเกิดความเครียดและไม่มีความสุขในการหาเงินทำงานได้เลยครับ ดังนั้นวิธีการแก้ไขปัญหาด้านนนี้มันคือการเพิ่มสภาพคล่องให้แต่ละเดือนให้ดีขึ้น มีเงินใช้จ่ายมากขึ้น ใช้ชีวิตต่อได้โดยไม่เครียดมากเกินไป รู้ระยะเวลาผ่อนชำระคืนที่ชัดเจน ในอัตราจ่ายที่น้อยลง 

ตัวอย่างรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต

นี่คือตัวอย่างหน้าเปรียบเทียบการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตจากบริการของ Refinn ครับ จะเห็นได้ว่า นาย A สามารถขอรีไฟแนนซ์ยอด 150,000 บาท เพื่อปิดหนี้บัตรเครดิตทั้งหมด และสามารถผ่อนจ่ายคืนต่อเดือนเพียงแค่ 3,860 บาทเท่านั้น จากเดิมที่ปกติแล้วแม้จะเงินเดือน 30,000 บาท จะมีเงินเหลือในการใช้ชีวิต 15,000 บาท ตอนนี้จะกลายเป็น 26,140 บาท ซึ่งมันก็น่าจะทำให้การใช้ชีวิตในแต่ละเดือนผ่านไปได้ด้วยดีกว่านั่นเอง

สรุปแล้วรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตดีอย่างไรบ้าง

วิธีการรวมหนี้บัตรเครดิตด้วยการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต เป็นวิธีการแก้ที่ดีมากๆสำหรับใครที่กำลังอยู่ในสภาวะเดือนชนเดือน วิธีการนี้จะช่วยให้เพื่อนๆลดภาระที่ต้องจ่ายหนี้บัตรเครดิตต่อเดือนลงได้มากหลายเท่าตัว แต่ทั้งนี้เพื่อนๆทุกคนก็ควรมีสติและเริ่มทำความเข้าใจถึงวิธีการใช้เงินอย่างเหมาะสมด้วยนะครับ เราอย่าหลวมตัวใช้บัตรเครดิตผิดวิธีจนเกิดปัญหาขึ้นมากันอีกเลยจะดีกว่า ยังไงวันนี้ Refinn ต้องขอตัวไปก่อนนะครับ ใครที่สนใจบริการเช็คหาโปรโมชั่นที่ดีที่สุดจากธนาคารชั้นนำ ก็สามารถใช้บริการได้เลยนะครับที่ www.refinn.com เราจะมีสุขภาพการเงินที่ดีมากยิ่งขึ้นๆไปด้วยกันนะครับ 



เผยแพร่เมื่อวันที่ 30 พ.ค. 2566
Refinn Writer
ช่วยเปรียบเทียบโปรโมชั่นที่ประหยัดดอกเบี้ยที่สุด ฟรี ไม่มีค่าบริการเพิ่มเติม