สิ่งที่ต้องพึงระวังอยู่เสมอก่อนคิดรีไฟแนนซ์บ้าน
จริงอยู่ที่การรีไฟแนนซ์บ้านช่วยให้การผ่อนชำระหนี้ของเราง่ายขึ้น ง่ายในที่นี้คือเงื่อนไขดอกเบี้ยที่ถูกลงกว่าเดิมนั่นเอง จึงทำให้คนจำนวนไม่น้อยตัดสินใจรีไฟแนนซ์บ้านกัน แต่ทั้งนี้เราก็ควรสำรวจความต้องการของเราในหลายๆ ด้านก่อน ดังนั้น เพื่อให้การรีไฟแนนซ์บ้านตอบโจทย์และคุ้มค่ากับเรามากที่สุด วันนี้เราจึงมี “สิ่งที่ต้องพึงระวังอยู่เสมอก่อนคิดรีไฟแนนซ์บ้าน” มาฝากสำหรับผู้ที่ลังเล หรือกำลังจะตัดสินใจรีไฟแนนซ์บ้านได้ลองศึกษากัน
เรื่องที่ต้องระวังก่อนรีไฟแนนซ์บ้าน
1. เราอยากรีไฟแนนซ์บ้านเพราะ?
สิ่งแรกที่ต้องพึงระวังคือ เราอยากรีไฟแนนซ์บ้านเพราะอะไร เพราะเราอยากได้วงเงินกู้เพิ่มอเนกประสงค์เพิ่มเติม เพราะเราอยากได้ดอกเบี้ยถูกลง หรือเพราะเรามีความจำเป็นต้องยืดเวลาการผ่อนให้นานขึ้น ฯลฯ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะเป็นตัวกำหนดรูปแบบการขอรีไฟแนนซ์บ้าน จะผ่อนมากขึ้น ผ่อนน้อยลง ผ่อนนานขึ้น ฯลฯ นั่นเอง
2. การรีไฟแนนซ์บ้านก็มีค่าใช้จ่ายนะ
ค่าใช้จ่ายที่ว่าก็ได้แก่ ค่าใช้จ่ายขอสินเชื่อใหม่ ไม่ว่าจะ ค่าธรรมเนียมอัคคีภัย ค่าประเมินราคาบ้าน ค่าประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (กรณีที่ธนาคารบังคับทำ) ฯลฯ และสุดท้ายค่าใช้จ่ายกรมที่ดิน หรือค่าจดจำนองที่ดิน ซึ่งเราที่คิดจะรีไฟแนนซ์ก็ต้องมีเงินในส่วนที่ว่าเหล่านี้ด้วยรวมๆ กันอาจถึงหลักหมื่นกว่าบาทเลยทีเดียว แต่ทางธนาคารเองก็มักจะออกโปรโมชั่นที่ช่วยเหลือลูกค้าที่มีประวัติการชำระชั้นดี เช่น ออกค่าประเมินราคาให้ฟรี หรือค่าจดจำนองให้ฟรีเช่นกัน รวมถึงยังไงก็คุ้มค่ากับค่าใช้จ่ายที่เสียไป เพราะสิ่งที่ได้กลับคืนมาจากการรีไฟแนนซ์คือ อัตราดอกเบี้ยถูกลงนั่นเอง
อ่านรายการค่าใช้จ่ายสำหรับการรีไฟแนนซ์บ้านอย่างละเอียดได้ทางบทความค่าใช้จ่ายรีไฟแนนซ์มีอะไรบ้าง?
3. ในอนาคตจะขายบ้านหรือเปล่า
ถ้าลึกๆ เรารู้อยู่แล้วว่าอาจจะต้องขายบ้านไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ไม่เกิน 2-3 ปีนี้ ก็ไม่ควรรีไฟแนนซ์บ้านใดๆ เพราะมันเหมือนว่าเราปิดหนี้ไวกว่ากำหนดซึ่งธนาคารจะคิดค่าปรับร้อยละ 2-3 ของยอดหนี้ที่เหลือ จึงเหมือนเริ่มเป็นหนี้ใหม่ เริ่มรับระยะเวลาเป็นหนี้ใหม่
4. รีไฟแนนซ์บ้านกับความคุ้มค่า
การรีไฟแนนซ์อย่างที่บอกว่ามันมีค่าใช้จ่ายเล็กๆ น้อยๆ เยอะ ซึ่งเราก็ต้องคิดถึงความคุ้มค่าโดยเฉพาะดอกเบี้ยที่เราต้องคิดคำนวณตลอดระยะเวลาที่ตกลงทำสัญญาด้วย ว่ารวมๆ แล้วแพงขึ้น หรือเท่าเดิม เพราะถ้าแพงขึ้นหรือเท่าเดิมก็ไม่เรียกว่านี่คือความคุ้มค่า
5. ระยะเวลา และยอดหนี้ของบ้าน
ถ้าระยะเวลาและยอดหนี้ที่เหลือของบ้านมีน้อย แบบไม่เกิน 1-2 ปีก็หมด เราก็ไม่ควรรีไฟแนนซ์บ้าน เพราะรีไฟแนนซ์ไปก็ได้ไม่คุ้มเสีย (เสียค่าใช้จ่ายตามที่กล่าวไปข้างต้นนั่นเอง)
รีไฟแนนซ์บ้านที่ไหนปลอดภัยสุด?
และนี่ก็คือสิ่งที่ต้องพึงระวังอยู่เสมอ ก่อนคิดรีไฟแนนซ์บ้านที่เราควรให้ความสำคัญก่อนตัดสินใจ ซึ่งหากใครต้องการรีไฟแนนซ์ หรือทำความเข้าใจเรื่องรีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มเติม ก็สามารถคลิกมาได้ที่ https://www.refinn.com/ ให้บริการฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง