วิธี รีไฟแนนซ์บ้านจาก 2 คนเป็นคนเดียว ทำอย่างไร ทำได้ไหม มาดูเลย
รีไฟแนนซ์บ้านจาก 2 คนเป็นคนเดียว

วิธี รีไฟแนนซ์บ้านจาก 2 คนเป็นคนเดียว ทำอย่างไร ทำได้ไหม มาดูเลย

หากต้องการเปลี่ยนจำนวนบุคคลที่กู้ร่วมบ้าน หรือการรีไฟแนนซ์บ้านจาก 2 คนเป็นคนเดียว สิ่งนี้เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ แต่จะมีขั้นตอนแบบไหนและรายละเอียดอย่างไรที่ต้องศึกษาเอาไว้ก่อน ถึงจะสามารถลดจำนวนคนกู้ร่วม ให้เหลือกู้คนเดียวได้ วันนี้ Refinn จะมาทำความเข้าใจให้คุณรู้กันว่า กรรมสิทธิ์การกู้ร่วมสามารถเปลี่ยนแปลงได้จริงหรือไม่ ธนาคารจำเป็นต้องใช้เกณฑ์พิจารณาพิเศษอย่างไร เพื่อรีไฟแนนซ์บ้านจาก 2 คนเป็นคนเดียว รวมไปถึงขั้นตอน, เอกสาร และค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต้องเตรียมไว้ สำหรับคนที่กำลังคิดอยากจะทำสิ่งนี้ เพื่อเป็นแนวทางที่ดีที่สุดในการตัดสินใจ

รีไฟแนนซ์บ้านจาก 2 คนเป็นคนเดียว

การ รีไฟแนนซ์เป็นวิธีที่ช่วยให้ประหยัดดอกเบี้ยไปได้อีกเยอะ ซึ่งไม่ใช่แค่การเปลี่ยนธนาคารผู้ให้สินเชื่อเท่านั้น แต่ยังสามารถเปลี่ยนแปลงจำนวนของผู้กู้ซื้อบ้านได้ด้วย 

เช่น คนที่เคยตัดสินใจกู้ร่วม อาจเป็นเพราะตัวเองเคยมีรายได้น้อย และไม่เพียงพอที่จะกู้บ้านเพียงคนเดียว จึงขอความช่วยเหลือจากคนใกล้ชิดที่ไว้วางใจ เช่น พ่อแม่ หรือพี่น้อง เป็นต้น เพื่อให้เข้ามามีส่วนในการกู้ครึ่งหนึ่ง แต่เมื่ออายุเพิ่มขึ้น มีหน้าที่การงานที่เจริญเติบโต ก็ย่อมมีรายได้ที่มากเพียงพอ ที่จะถือครองกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินนั้นเพียงคนเดียว หรือมากพอที่จะแบกภาระการกู้คนเดียวได้แล้ว ทำให้กลายเป็นสาเหตุของการรีไฟแนนซ์จากกู้ร่วมเป็นกู้เดี่ยว

ไม่ว่าการรีไฟแนนซ์บ้านจะเป็นสาเหตุใด จะต้องมีการขอเปลี่ยนกรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้นๆ ด้วย ดังนั้น ก่อนที่จะเข้าเรื่องการรีไฟแนนซ์บ้านจาก 2 คนเป็นคนเดียว ขอพูดถึงผู้กู้ร่วมและกรรมสิทธิ์ของการกู้ร่วมกันก่อนนะครับ

สาเหตุส่วนใหญ่ของการลดจำนวนผู้กู้ซื้อบ้าน

สาเหตุส่วนใหญ่ของการลดจำนวนผู้กู้ซื้อบ้าน

  • คนที่มีรายได้มากขึ้น และสามารถผ่อนบ้านเพียงคนเดียวได้ รวมถึงไม่ต้องการให้คนที่เคยกู้ร่วมมีกรรมสิทธิ์ในบ้านหลังนี้อีกต่อไป ซึ่งจะทำให้การดำเนินการเรื่องบ้านในอนาคตสะดวกมากขึ้น
  • คนสองคนที่เคยแต่งงานกัน และยื่นกู้ร่วมกัน แต่ปัจจุบันเลิกราไปแล้ว จึงต้องการเคลียทรัพย์สินให้แยกออกจากกัน ด้วยการรีไฟแนนซ์บ้าน เปลี่ยนชื่อจากบุคคลสองคนให้เหลือเพียงคนเดียว

ทำความเข้าใจผู้กู้ร่วมและกรรมสิทธิ์ของการกู้ร่วม

เวลาที่คนสองคนกู้บ้านร่วมกัน ทั้งคู่จะมีหนี้ที่ต้องรับผิดชอบหนี้ก้อนเดียวกัน และจะถือว่ามีกรรมสิทธิ์ในหนี้ก้อนนั้นคนละครึ่ง ไม่ว่าบุคคลทั้งสองจะผ่อนบ้านเท่ากันหรือไม่เท่ากันก็ตาม แต่กรรมสิทธิ์ความเป็นเจ้าของบ้านจะถูกแบ่งในสัดส่วนที่เท่ากันเสมอ

ดังนั้น กรณีที่ต้องการจะรีไฟแนนซ์บ้านจาก 2 คนเป็นคนเดียว จึงเปรียบเสมือนการที่คนๆ หนึ่ง ต้องขายกรรมสิทธิ์ที่เคยถือครองให้กับอีกคนหนึ่ง ซึ่งการกระทำดังกล่าวนี้ย่อมตามมาด้วยค่าใช้จ่าย เช่น ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายจากการขายกรรมสิทธิ์บ้าน, ค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ หรือค่าอากรแสตมป์ ซึ่งจะกล่าวถึงรายละเอียดของค่าใช้จ่ายเหล่านี้ในเนื้อหาส่วนต่อๆ ไป

ไม่ว่าจะเป็นการรีไฟแนนซ์จากกู้ร่วมเป็นกู้เดี่ยว หรือกรณีการเพิ่มจำนวนผู้กู้ซื้อบ้าน ก็ล้วนแต่ต้องเข้าใจความหมายของผู้กู้ร่วมและกรรมสิทธิ์ของการกู้ร่วม ซึ่งมีลักษณะแนวคิดเดียวกันทั้งสิ้น

การรีไฟแนนซ์บ้านจาก 2 คนเป็นคนเดียว เหมาะกับใคร

การรีไฟแนนซ์บ้านจาก 2 คนเป็นคนเดียวอาจไม่เหมาะกับทุกคน แต่เหมาะกับคนที่มั่นใจแล้วว่า  ตัวเองมีรายได้มากขึ้น และมากเพียงพอที่จะผ่อนบ้านเพียงคนเดียวได้ นอกจากนี้ อีกคนที่เป็นคนขายกรรมสิทธิ์ ก็ต้องมีความยินยอมที่จะถอนกรรมสิทธิ์ที่มีในบ้านหลังนั้นออกไปเช่นกัน ไม่เช่นนั้น ก็จะไม่สามารถเปลี่ยนชื่อคนผ่อนบ้านอย่างที่คุณต้องการได้

เกณฑ์ที่ธนาคารพิจารณาในการรีไฟแนนซ์บ้านจาก 2 คนเป็นคนเดียว

เกณฑ์ที่ธนาคารพิจารณาในการรีไฟแนนซ์บ้านจาก 2 คนเป็นคนเดียว

ในส่วนของเกณฑ์ที่ธนาคารจะต้องใช้ในการพิจารณาเพื่อขอรีไฟแนนซ์บ้านจาก 2 คนเป็นคนเดียว ธนาคารแห่งใหม่ที่รับรีไฟแนนซ์ จะพิจารณาในเรื่องของความสามารถในการผ่อนชำระเป็นหลัก โดยจำนวนเงินที่ใช้ในการผ่อนบ้านจะต้องไม่เกิน 40% ของรายได้ต่อเดือน ซึ่งหากคุณแน่ใจว่าฐานเงินเดือนที่เพิ่มขึ้นมา สูงเพียงพอที่จะผ่อนชำระบ้านเพียงคนเดียวได้สบายๆ ก็ไม่ต้องกังวลใจในเรื่องการโอนบ้านชื่อร่วมเลย

ขั้นตอนการรีไฟแนนซ์บ้านจาก 2 คนเป็นคนเดียว

สำหรับขั้นตอนที่จำเป็นต้องรู้สำหรับการรีไฟแนนซ์บ้านจาก 2 คนเป็นคนเดียว ซึ่งแม้ว่าจะเป็นการลดจำนวนผู้กู้สินเชื่อบ้านลง แต่ในความเป็นจริงแล้ว ก็ไม่ได้แตกต่างจากการรีไฟแนนซ์บ้านปกติสักเท่าไหร่ โดยจะต้องมีขั้นตอนในการดำเนินการดังต่อไปนี้

ขั้นตอนรีไฟแนนซ์บ้านจาก 2 คนเป็น คนเดียว

1.ติดต่อของเอกสารจากธนาคารเดิม

ขั้นตอนแรกต้องแจ้งความประสงค์กับธนาคารเดิมที่เราเคยยื่นกู้ก่อน เพื่อที่จะขอเอกสารสรุปยอดหนี้สินเชื่อบ้านคงเหลือ ว่ายังต้องผ่อนบ้านอีกเท่าไหร่จนกว่าจะครบยอดเงินกู้เต็มจำนวน เพื่อนำไปใช้เป็นหลักฐานขอรีไฟแนนซ์บ้านจาก 2 คนเป็นคนเดียวกับธนาคารแห่งใหม่

2.ศึกษาและยื่นยอดหนี้สินเชื่อบ้านให้ธนาคารแห่งใหม่

จากนั้น เราต้องมองหาธนาคารแห่งใหม่ที่เราต้องการรีไฟแนนซ์บ้าน ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว ก็มักจะมีอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง เพื่อนำเอายอดหนี้สินเชื่อบ้านที่เหลืออยู่ไปยื่นขอสินเชื่อกับธนาคารแห่งใหม่ ซึ่งเราสามารถยื่นหลายๆ ธนาคารพร้อมกันได้นะครับ จะได้ไม่เสียโอกาสและเสียเวลาในขั้นตอนนี้

3.รอธนาคารประเมินบ้าน

เจ้าหน้าที่ธนาคารใหม่จะเอาข้อมูลสินเชื่อบ้านไปพิจารณา และทำการประเมิน หลังจากที่กระบวนการแล้วเสร็จ เจ้าหน้าที่จะแจ้งผลการอนุมัติให้กับเรา

4.ถอดถอนบ้านจากธนาคารเดิม และจดจำนองกับธนาคารใหม่

ในกรณีที่เราได้รับการอนุมัติรีไฟแนนซ์บ้าน ให้นำเอกสารไปถอดถอนบ้านจากธนาคารเดิม โดยธนาคารจะแจ้งยอดหนี้คงเหลือให้คุณทราบ จากนั้นก็จดจำนองกับธนาคารใหม่

5.โอนกรรมสิทธิ์บ้าน

การทำเรื่องโอนกรรมสิทธิ์บ้าน จะต้องเดินทางไปที่สำนักงานที่ดินในเขตที่บ้านเราตั้งอยู่ โดยจะต้องมีเจ้าหน้าที่จากทั้ง 2 ธนาคารเข้าไปร่วมการโอนกรรมสิทธิ์ที่ว่านี้ด้วย ปิดท้ายด้วยการนำเอาโฉนดที่ดินมอบให้กับเจ้าหน้าที่ของธนาคารแห่งใหม่ที่เราต้องการรีไฟแนนซ์ เพียงเท่านี้กระบวนการรีไฟแนนซ์บ้านจาก 2 คนเป็นคนเดียวก็เสร็จสมบูรณ์แล้วครับ

เอกสารที่ใช้ในการรีไฟแนนซ์บ้านจาก 2 คนเป็นคนเดียว

สำหรับเอกสารที่จะต้องใช้ในการรีไฟแนนซ์บ้านจาก 2 คนเป็นคนเดียวก็ไม่ได้แตกต่างอะไรกับการรีไฟแนนซ์บ้านปกติเลย ซึ่งคุณสามารถตรวจสอบเอกสารที่จำเป็นต้องใช้ในการรีไฟแนนซ์บ้าน เปลี่ยนชื่อเจ้าของบ้าน ได้จากแหล่งข้อมูลรีไฟแนนซ์บ้าน ซึ่งมีรายละเอียดครบถ้วน และทำตามได้ง่ายมากเลยครับ

ค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์บ้านจาก 2 คนเป็นคนเดียว

ในส่วนของค่าใช้จ่ายที่จะต้องสำรองเอาไว้ เมื่อคุณต้องการทำการรีไฟแนนซ์บ้านจาก 2 คนเป็นคนเดียว จะมีค่าใช้จ่ายบางส่วนที่เพิ่มเติมมากกว่าการรีไฟแนนซ์บ้านทั่วไปด้วย เพราะส่วนที่เพิ่มขึ้นมาจะเป็นค่าใช้จ่ายจากกรรมสิทธิ์อีกครึ่งหนึ่งของผู้กู้ร่วม โดยสามารถแบ่งประเภทของค่าใช้จ่ายทั้งหมด ได้ดังต่อไปนี้  

ค่าใช้จ่ายรีไฟแนนซ์บ้านจาก 2 คนเป็น คนเดียว

1.ค่าธรรมเนียมการโอน

ค่าธรรมเนียมการโอนจะคิดเป็น 2% ของราคาประเมิน ยกตัวอย่างเช่น หากบ้านมีราคา 1 ล้านบาท ก็จะต้องมีการเสียค่าธรรมเนียมการโอนอยู่ที่ 20,000 บาท ยิ่งราคาบ้านแพงเท่าไหร่ ค่าธรรมเนียมก็จะสูงขึ้นเท่านั้น และจำเป็นต้องตกลงกันให้ดีว่าใครจะเป็นคนจ่ายเงินก้อนนี้

2.ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย

ค่าใช้จ่ายส่วนนี้จะถูกคิดกรณีที่เปลี่ยนจากการกู้ร่วม ให้เหลือกู้คนเดียว โดยเป็นค่าใช้จ่ายที่เก็บจากผู้กู้ร่วมที่เป็นฝ่ายโอนกรรมสิทธิ์ เพราะเปรียบเสมือนเป็นคนที่ขายบ้าน จึงจำเป็นจะต้องเสียภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายส่วนนี้ ซึ่งภาษีเงินได้ จะต้องคำนึงถึงจำนวนปีที่ถือครอง หากยิ่งถือครองนาน จะถูกเก็บภาษีน้อยลง เพราะภาษีนี้จะถูกหารด้วยจำนวนปีที่ถือครอง ก่อนนำไปคำนวณตามฐานภาษี แล้วคูณกลับด้วยจำนวนปีที่ถือครองอีกครั้ง เพื่อคำนวณออกมาเป็นภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ในการโอนกรรมสิทธิ์บ้านหลังนั้นๆ

3.ภาษีธุรกิจเฉพาะภาษี

ภาษีส่วนนี้จะคิดที่อัตรา 3.3% ของราคาประเมิน ซึ่งจะจ่ายเฉพาะในกรณีที่ถือครองบ้านไม่เกิน 5 ปี แต่ในทางกลับกัน หากบ้านหลังนี้ถือครองมากกว่า 5 ปี จะกลายเป็นการเสียค่าอากรแสตมป์แทน

4.ค่าอากรแสตมป์

ค่าอากรแสตมป์จะถูกคิดที่อัตรา 0.5% ของราคาประเมิน และจะถูกคิดเฉพาะการถือครองที่เกิน 5 ปีเท่านั้น

สรุปการรีไฟแนนซ์บ้านจาก 2 คนเป็นคนเดียว

โดยสรุปแล้ว ไม่ว่าบ้านหลังใดจะมีการถือกรรมสิทธิ์โดยผู้กู้กี่คนก็ตาม สามารถที่จะเพิ่มหรือลดจำนวนผู้กู้ได้ทั้งสิ้น ซึ่งในกรณีของการลดจำนวนผู้กู้ด้วยการรีไฟแนนซ์บ้านจาก 2 คนเป็นคนเดียว ก็เปรียบเสมือนการที่คนๆ หนึ่ง ขายกรรมสิทธิ์ครึ่งหนึ่งที่เคยถือครอง ให้กับคนอีกคนหนึ่ง ซึ่งการขายกรรมสิทธิ์นี้จะตามมาด้วยค่าใช้จ่ายในการโอน และภาษีที่เพิ่มขึ้นจากการรีไฟแนนซ์บ้านตามปกติ

ดังนั้น ถ้าเกิดว่าใครต้องการที่จะเปลี่ยนกรรมสิทธิ์ในการถือครองบ้าน ด้วยการรีไฟแนนซ์จากกู้ร่วมเป็นกู้เดี่ยว ก็ควรจะต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในส่วนนี้ให้ดีด้วยเช่นกันนะครับ หรือถ้าจะให้ดีก็ควรจะวางแผนล่วงหน้าตั้งแต่ก่อนที่จะกู้ เพื่อให้เสียค่าใช้จ่ายให้น้อยที่สุดนั่นเอง

แต่ถ้าใครอยากจะศึกษาบริการอื่นๆ ของ Refinn ไม่ว่าจะเป็นการรีไฟแนนซ์รถยนต์, รีไฟแนนซ์บัตรเครดิต หรือสินเชื่อรถแลกเงิน ก็ยังมีแหล่งความรู้มากมายที่ Refinn ยินดีให้คำปรึกษา หรือใครจะสมัคร Refinn Alert บริการใหม่ที่จะคอยช่วยเตือนและให้คำแนะนำที่จำเป็นก่อนการรีไฟแนนซ์บ้าน ก็สามารถสมัครใช้บริการได้ฟรี เพื่อเป็นข้อมูลดีๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อคุณอย่างแน่นอน

เผยแพร่เมื่อวันที่ 25 ม.ค. 2566
Refinn Writer
ช่วยเปรียบเทียบโปรโมชั่นที่ประหยัดดอกเบี้ยที่สุด ฟรี ไม่มีค่าบริการเพิ่มเติม