แก้ปัญหา! ใช้บัตรเครดิตหลายใบผ่อนไม่ไหวด้วยการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต
สมัครรีไฟแนนซ์บัตร ผ่าน Refinn
สมัครฟรี ไม่มีค่าบริการ ดอกเบี้ยต่ำ อนุมัติง่าย
รวมหนี้บัตรเครดิต

แก้ปัญหาใช้บัตรเครดิตหลายใบผ่อนไม่ไหว ด้วยวิธีรวมหนี้บัตรเครดิต

บัตรเครดิตถือเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่อำนวยความสะดวกให้กับคนในยุคนี้ ทำให้เราสามารถนำเงินในอนาคต มาซื้อสิ่งของที่จำแต่มีราคาสูง และใช้การผ่อนจ่ายแทน ซึ่งหากเป็นสิ่งของจำเป็นก็จะช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตของเราได้ในทันที โดยไม่ต้องรอเก็บเงินอีกหลายปี และหากเราใช้ดีๆ เรายังได้ประโยชน์จากการใช้บัตรเครดิตจากพวกคะแนนสะสม ส่วนลดแบบ Cash back สิทธิพิเศษ และอีกมากมาย

แต่บางครั้งพอเรามีบัตรเครดิตอยู่ใกล้มือ มารู้ตัวอีกทีก็วงเงินเต็มทุกใบแล้ว พอถึงเวลาผ่อนจ่ายทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยแล้วกลับหาเงินมาไม่ทัน ซึ่งหากปล่อยเป็นเช่นนี้ต่อไป เกิดค้างจ่ายหนี้ หรือผิดนัดจ่ายหนี้ อาจเป็นปัญหาเครดิตบูโร ติดแบล็คลิสต์พาให้ไม่สามารถสมัครทำธุรกรรมการเงินอื่นๆ ในอนาคตได้ หนึ่งในแนวทางที่อาจจะพอช่วยได้ในกรณีนี้ คือ การรวมหนี้บัตรเครดิต

รวมหนี้บัตรเครดิตทางออกของคนผ่อนขั้นต่ำไม่ไหว

เราต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า ปกติแล้วบัตรเครดิตหากเรามีการรูดซื้อสินค้า หรือกดนำเงินออกมาใช้ ธนาคารก็จะกำหนดมาว่าต้องผ่อนชำระคือเท่าไร บางบัตรก็จะมีผ่อนขั้นต่ำ 5-10% ของวงเงินที่ใช้ไป 

สมมุติว่า ถ้าเราเงินเดือน 35,000 บาท แล้วมีบัตรเครดิต 3 ใบ ใช้ไปบัตรละ 100,000 บาท ซึ่งเราต้องจ่ายขั้นต่ำ 10% ของบัตรแต่ละใบ ทุกเดือนเราต้องจ่ายถึง 30,000 บาท ทำให้เราเหลือเงินใช้ในแต่ละเดือนเพียง 5,000 บาท ซึ่งผมคิดว่าไม่พอแน่นนอน 

ลดยอดผ่อน

การรวมหนี้บัตรเครดิตก็จะเป็นการหาสถาบันการเงินใหม่มาปล่อยสินเชื่อในการปิดยอดหนี้บัตรทุกใบที่เรามี กลายเป็นเราเหลือหนี้อยู่ก้อนเดียวแล้วก็ไปผ่อนจ่ายกับสถาบันการเงินใหม่ที่เดียว ไปตกลงกับว่าจะผ่อนจ่ายกี่เดือน ซึ่งมีตั้งแต่ 12, 24, 36 เดือน บางที่ก็มีให้ยาวถึง 60 เดือนเลย พอระยะผ่อนยาวขึ้นก็ทำให้เราผ่อนชำระต่อเดือนเบาลง มีสภาพคล่องในการใช้เงินมากขึ้นครับ

รวมหนี้บัตรเครดิต ทำอย่างไรได้บ้าง

วิธีรวมหนี้บัตรเครดิต เท่าที่ผมเห็นบ่อยๆ จะมีอยู่ 3 วิธี คือ

1. สินเชื่อส่วนบุคคล

พนักงานบริษัทก็จะดีหน่อยตรงที่ว่าเรามีสลิปเงินเดือนเป็นหลักประกัน ซึ่งเราก็อาจจะนำตรงนี้ไปขอสินเชื่อกับธนาคารใหม่แล้วนำเงินมาปิดหนี้ บัตรเครดิตครับ โดยปกติก็จะให้วงเงินสูงสุด 5 เท่าของรายได้ ซึ่งเราก็อาจจะปิดได้ไม่หมดทุกใบ แต่พอการขอสินเชื่อส่วนบุคคลเป็นลักษณะการผ่อนจ่ายแบบมีระยะเวลาก็จะทำให้เราผ่อนเบาลงได้ในบางส่วน และดอกเบี้ยก็อาจจะถูกกว่าดอกเบี้ยบัตรเครดิตด้วยครับ

2. สินเชื่อรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต

สินเชื่อประเภทนี้ก็จะคล้ายๆ กับสินเชื่อส่วนบุคคลแต่จะต่างกันตรงที่ทางธนาคารจะตีเช็คตามยอดหนี้ของแต่ละบัตรที่เรามีไปปิดเลยครับ โอกาสผ่านก็อาจจะมากกว่าการขอสินเชื่อส่วนบุคคลธรรมดา ซึ่งก็เป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่ดูแล้วจะตรงจุดที่สุดครับ >> รีไฟแนนซ์บัตรเครดิต



3. เปลี่ยนบ้านหรือรถมาเป็นเงิน

สำหรับใครที่มีบ้านหรือรถที่ผ่อนหมดแล้ว ก็สามารถนำมาขอเป็นวงเงินเพื่อนนำไปปิดบัตรเครดิตได้ ข้อดีเลยคือ ดอกเบี้ยจะไม่สูงเมื่อเทียบกับวิธีอื่นๆ อยู่ที่ประมาณ 5 - 9% น้อยกว่าพวกดอกเบี้ยบัตรเครดิตประมาณครึ่งหนึ่งเลย และสามารถชำระกันได้แบบยาวๆ เลย >> บ้านแลกเงิน

หรือใครที่มีบ้านที่ยังผ่อนไม่หมด แต่ผ่อนมาแล้วเกิน 5 ปี ก็อาจจะลองทำการขอรีไฟแนนซ์บ้านแล้วขอวงเงินส่วนต่างที่เราผ่อนมา 5 ปี เพื่อนำเงินมาปิด ก็สามารถทำได้เช่นกันครับ >> รีไฟแนนซ์

นี้ก็จะเป็น 3 วิธีที่ทาง Refinn เราแนะนำให้เพื่อนๆ ได้ลองนำไปใช้ แล้วดูว่าใน 3 วิธีนี้เราเหมาะกับแบบไหนที่สุด หรือลองทั้ง 3 แบบก่อนก็ได้ แล้วค่อยมาดูกันว่าเราได้รับอนุมัติจากรูปแบบไหนบ้าง มาชั่งใจอีกทีว่าวิธีไหนดีที่สุด ทั้ง 3 วิธีนี้ก็สามารถสมัครผ่านทาง Refinn ได้นะครับ ทางเราก็จะมีทีมงานค่อยช่วยติดตามงาน และพยายามช่วยผู้ใช้บริการอย่างเต็มที่ ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายครับ สุดท้ายนี้อยากจะเน้นย้ำอีกครั้งว่าพยายามอย่าทำให้ตัวเองเสียเครดิตนะครับ เพราะในอนาคตจะทำให้เราทำธุรกรรต่างๆ ได้ยาก พยายามรักษาไว้ให้ดีที่สุด สำหรับวันนี้ผมลาไปก่อนสวัสดีครับ



เผยแพร่เมื่อวันที่ 19 ก.พ. 2564
Refinn Writer
ช่วยเปรียบเทียบโปรโมชั่นที่ประหยัดดอกเบี้ยที่สุด ฟรี ไม่มีค่าบริการเพิ่มเติม