หนี้เสียพุ่งสูง รถเสี่ยงถูกยึดกว่าล้านคัน แก้เกมส์ยังไงดี
รีไฟแนนซ์รถ
ธนาคารไหน วงเงินสูงสุด ดอกเบี้ยถูกสุด หาได้ที่นี่
หนี้เสียพุ่งสูง รถเสี่ยงถูกยึดกว่าล้านคัน แก้เกมส์ยังไงดี

หนี้เสียพุ่งสูง รถเสี่ยงถูกยึดกว่าล้านคัน แก้เกมส์ยังไงดี

แม้ว่าในปัจจุบันประเทศไทยของเราเศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นตัวขึ้นหลังจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด - 19 แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงมีหลายคนที่ได้รับผลกระทบจากพิษเศรษฐกิจในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาเช่นเดียวกัน ทำให้ในช่วงนี้มีหนี้เสียพุ่งสูงขึ้นกว่าเดิม คนที่ออกรถมาก็ต้องเผชิญกับความเสี่ยงในการถูกยึดเป็นจำนวนสูงนับล้านคันเลยทีเดียว สำหรับใครที่ตอนนี้กำลังอยู่ในระหว่างการผ่อนรถอยู่และสถานการณ์ทางการเงินเริ่มตึงมือ ผมจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับการรีไฟแนนซ์รถกัน มันเป็นวิธีการแก้เกมที่จะไม่ทำให้คุณต้องตกเป็นเหยื่อของการถูกยึดรถ แถมยังช่วยให้คุณสามารถจัดการหนี้สินได้คล่องมือมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย

ทำไมเวลาอัตราหนี้เพิ่มสูงขึ้น รถถึงมักถูกยึด

จากผลสำรวจหนี้ครัวเรือนประจำปี 2566 พบว่าประชาชนในประเทศไทยส่วนใหญ่รายได้ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย ด้วยเหตุนี้จึงต้องมีการกู้หนี้ยืมสินเพื่อนำเงินมาใช้จ่ายในการดำรงชีวิต ประกอบกับสงครามทางการค้าและสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อ ยิ่งส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัวลง การจ้างงานและรายได้ก็ได้รับผลกระทบไปแบบเต็มๆ อัตราหนี้พุ่งสูงขึ้นแบบฉุดไม่อยู่ ส่งผลให้มีรถยนต์จำนวนมากถูกยึด 

สาเหตุก็เป็นเพราะว่ารถเป็นสินทรัพย์ที่มีราคาสูง แค่ราคาเริ่มต้นก็อยู่ที่หลักแสนแล้ว ราคาของมันอาจจะไม่สูงเท่ากับราคาของที่อยู่อาศัยอย่างบ้านหรือคอนโดมิเนียมก็จริง แต่ถึงอย่างนั้นรถยนต์ก็เป็นสินทรัพย์ที่เมื่อมีการขอสินเชื่อ ระยะเวลาในการผ่อนเร็วกว่าที่อยู่อาศัยเป็นอย่างมาก ส่วนใหญ่แล้วก็มักผ่อนกันประมาณ 5 ปีหรือ 60 งวดเท่านั้น ที่สำคัญที่อยู่อาศัยมีความจำเป็นมากกว่า หากเลือกได้ผู้ที่ประสบปัญหาทางการเงินก็มักจะปล่อยให้สถาบันการเงินยึดรถมากกว่ายึดบ้าน 

ด้วยเหตุนี้เมื่ออัตราหนี้พุ่งสูง ทำให้ปริมาณรถที่ถูกยึด เนื่องจากเจ้าของไม่สามารถผ่อนสินเชื่อต่อได้ไหวจึงมีมากขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง นอกจากนี้สำหรับสถาบันการเงินแล้ว การยึดรถยังเป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายมากกว่าการยึดที่อยู่อาศัยอีกด้วย ดังนั้นหากคุณไม่ต้องการตกเป็นเหยื่อการโดนยึดรถ การรีไฟแนนซ์รถจึงเป็นคำตอบที่จะช่วยให้คุณสามารถผ่านพ้นวิกฤตดังกล่าวไปได้นั่นเอง

เช็คลิสต์ความเสี่ยงผ่อนรถต่อไม่ไหว

เช็คลิสต์ความเสี่ยงผ่อนรถต่อไม่ไหว

ผมเชื่อว่าทุกคนที่ตัดสินใจออกรถเป็นของตัวเอง ย่อมสำรวจตัวเองแล้วว่ามีความพร้อมในการผ่อนชำระสินเชื่อระยะยาวในระดับหนึ่ง คำนวณค่าใช้จ่ายเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าต่อให้ต้องผ่อนรถก็มีเงินพอที่จะดำรงชีวิตและใช้จ่ายในส่วนอื่นๆ ได้ แต่ด้วยสถานการณ์ทางการเงินที่ไม่ค่อยปกติสักเท่าไหร่ในปัจจุบัน ส่งผลให้คนที่เคยพร้อมในอดีต ตอนนี้เริ่มประสบปัญหาทางการเงินมากขึ้นกว่าเดิม ผมจึงจะพาทุกคนไปตรวจสอบตัวเองกัน ว่าคุณกำลังเข้าข่ายกำลังจะผ่อนรถไม่ไหว ควรดำเนินการรีไฟแนนซ์รถแล้วหรือไม่

1.ยอดผ่อนรถต่อเดือนเกิน 40% ของรายได้

เป็นวิธีการสังเกตที่ง่ายที่สุด โดยปกติแล้วยอดหนี้ของผู้ที่มีรายได้ประจำไม่ควรเกินกว่า 40% ของรายได้แต่อย่างใด เราหมายถึงยอดหนี้รวมทั้งหมดแล้ว ดังนั้นหากคุณมียอดผ่อนรถต่อเดือนมากกว่า 40% ของรายได้ หมายความว่าคุณกำลังมีความเสี่ยงที่อาจจะผ่อนรถไม่ไหวในอนาคตได้เช่นเดียวกัน ยกตัวอย่างให้เห็นภาพได้ชัดเช่น คุณมีเงินเดือนประจำ 20,000 บาท ผ่อนรถเดือนละ 10,000 บาท เท่ากับว่าในแต่ละเดือนคุณต้องสูญเสียรายได้ถึง 50% ไปกับการผ่อนรถเลยทีเดียว แม้ว่าคุณจะยังคงเหลือเงินอีก 50% แต่หากเกิดปัญหาหรือเหตุการณ์ฉุกเฉินอะไรขึ้นมา รับรองว่ามันจะทำให้คุณรู้สึกตึงมืออย่างแน่นอน 

2.มีแผนจะผ่อนสินทรัพย์อื่นเพิ่ม

ในกรณีที่คุณมีสินเชื่อรถยนต์เพียงแค่ตัวเดียวเท่านั้น การผ่อนชำระสินเชื่อรถยนต์เป็นจำนวนเงิน 40% ของเงินเดือนอาจไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด แต่คุณต้องสำรวจตัวเองให้มั่นใจก่อนว่าในอนาคตเรามีแผนในการผ่อนทรัพย์สินอย่างอื่นเพิ่มเติมหรือไม่ โดยเฉพาะสินเชื่อที่อยู่อาศัยซึ่งเป็นสินเชื่อที่ก้อนใหญ่กว่ามาก ยิ่งหากมันเป็นแผนในเวลาอันใกล้ คุณยิ่งต้องจัดสรรค่าใช้จ่ายให้ดีขึ้นกว่าเดิม เพราะมันหมายความว่าคุณจะมีค่าใช้จ่ายคงที่ต่อเดือนที่สูงขึ้นนั่นเอง 

หลายคนอาจมองว่าตัวเองไม่มีแผนที่จะซื้อบ้านในเร็วๆ นี้ แต่อย่าประมาทสินทรัพย์ทั้งหลายที่คุณซื้อมาด้วยการผ่อนเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะการผ่อนกับบัตรเครดิต 0% ที่เรียกได้ว่าเป็นกับดักทางการเงินกันเลยทีเดียว อย่างเช่นอยากได้โทรศัพท์มือถือใหม่ราคา 35,000 บาท ผ่อนกับบัตรเครดิต 0% 10 เดือน ค่าใช้จ่ายอยู่ที่เดือนละ 3,500 บาท มีสินเชื่อรถยนต์ให้ผ่อนอีกเดือนละ 8,500 บาท เงินเดือนของคุณอยู่ที่ 20,000 บาท เท่ากับว่าใน 1 เดือนคุณจะมีค่าใช้จ่ายในการผ่อนชำระสินเชื่อคงที่ 12,000 บาท หรือคิดเป็น 60% จากรายได้เลยทีเดียว ดังนั้นต่อให้การผ่อน 0% จะไม่มีดอกเบี้ยให้คุณต้องมานั่งปวดหัว แต่มันก็ยังคงเป็นค่าใช้จ่ายที่คุณต้องนำเอามาคำนวณเพื่อวางแผนทางการเงินให้ดีเช่นเดียวกัน 

3.มีแผนเรียนต่อ หรือ ลูกกำลังเข้าเรียน

การศึกษานับเป็นการลงทุนที่มีความคุ้มค่า มันช่วยให้คุณได้พัฒนาทักษะและความรู้ของตัวเอง เป็นการเปิดโอกาสให้คุณได้เติบโตมากกว่าที่เคยเป็น แต่อย่างที่เราบอกไปว่ามันคือการลงทุน และการลงทุนก็จำเป็นที่จะต้องใช้เงินเช่นเดียวกัน หากคุณมีแผนว่าจะเรียนต่อหรือลูกของคุณกำลังจะต้องเข้าเรียน คุณอาจจะต้องระมัดระวังเรื่องค่าใช้จ่ายให้มากขึ้นเป็นพิเศษ เพราะค่าเรียนเป็นค่าใช้จ่ายคงที่ที่คุณต้องจ่ายปีละ 2 ครั้งติดต่อกันไปหลายปีเลยทีเดียว มันค่าใช้จ่ายที่แทบจะไม่แตกต่างอะไรจากการต้องผ่อนสินเชื่อเลยด้วยซ้ำ ดังนั้นหากคุณมีแผนเรียนต่อหรือลูกกำลังเข้าเรียน มีค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ที่รออยู่ในอนาคต ประกอบกับมีสินเชื่อรถที่ต้องจ่ายเป็นประจำทุกเดือนแบบตึงมืออยู่แล้ว ให้ประมาณการได้เลยว่าคุณกำลังมีความเสี่ยงทางการเงินอยู่ ต้องรีบจัดการโดยด่วน 

4.มีแผนในการลงทุนธุรกิจ

สำหรับใครที่ต้องการจะลงทุนทำธุรกิจหรือเปิดร้านขายของเล็กๆ หลายคนอาจมองว่ามันเป็นการลงทุนแบบครั้งเดียวจบ แต่ในความเป็นจริงแล้วการทำธุรกิจหรือแม้แต่การเปิดร้านขายสินค้า คุณต้องมีเงินทุนหนาในระดับหนึ่งเลยทีเดียว เพราะค่าใช้จ่ายจะเข้ามาเรื่อยๆ แบบไม่รู้จบ ที่สำคัญต้องรอเวลาระดับหนึ่งกว่าที่กิจการจะดำเนินการจนคืนทุน กว่าจะถึงเวลานั้นมันมีแต่ค่าใช้จ่ายล้วนๆ ดังนั้นหากคุณยังไม่มีเงินเย็นและพร้อมรับความเสี่ยงในการลงทุน คุณอาจจะต้องรอไปก่อนจนกว่าจะผ่อนสินเชื่อรถหมด หรือไม่ก็เลือกใช้ทางเลือกของเราอย่างการสมัครสินเชื่อไฟแนนซ์รถนั่นเอง

แล้วมีวิธีไหนที่ช่วยเตรียมรับมือกับเหตุการณ์ผ่อนรถไม่ไหวไหม

หากคุณสำรวจตัวเองและพบว่ากำลังเข้าข่ายมีความเสี่ยงที่อาจจะผ่อนรถไม่ไหวในอนาคต คุณไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงวันที่สถาบันการเงินส่งเจ้าหน้าที่มายึดรถคุณแต่อย่างใด เพราะมันมีวิธีการแก้เกมดี ๆ ที่จะช่วยให้คุณไม่ต้องโดนยึดรถ จำนวนเงินที่ผ่อนต่องวดก็น้อยลงกว่าเดิม แถมดอกเบี้ยยังต่ำลงอีกต่างหาก หากศึกษาเงื่อนไขดีๆ และมีการวางแผนที่รัดกุม คุณอาจได้เงินก้อนส่วนหนึ่งมาใช้จ่ายเพื่อเพิ่มสภาพคล่องได้อีกด้วย นั่นก็คือการรีไฟแนนซ์นั่นเอง วิธีการดังกล่าวคืออะไร ไปดูกันเลย 

มีวิธีไหนที่ช่วยเตรียมรับมือกับเหตุการณ์ผ่อนรถไม่ไหวไหม

รีไฟแนนซ์รถ

การรีไฟแนนซ์รถเป็นหนึ่งในวิธีการแก้ปัญหาหนี้สินรถยนต์ที่จะช่วยแบ่งเบาภาระทางการเงินให้คุณคลั่งตัวมากขึ้นกว่าเดิม โดยการกู้เงินก้อนใหม่กับสถาบันการเงินแห่งใหม่ นำเอาเงินที่ได้รับมาไปปิดหนี้กับสถาบันการเงินผู้เป็นเจ้าของหนี้เดิม จากนั้นเราก็ทำการผ่อนชำระหนี้สินกับสถาบันการเงินแห่งใหม่ต่อไปตามสัญญา วิธีการดังกล่าวฟังดูเหมือนไม่มีประโยชน์ นั่นก็เป็นเพราะว่ายังไงคุณก็ยังคงเป็นหนี้ตามเดิม แต่ความจริงแล้วมันมีข้อดีมากมายเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น 

  • เลือกระยะเวลาผ่อนชำระได้ อย่างเช่นหากคุณต้องการจะจ่ายเงินผ่อนต่อเดือนน้อยลงกว่าเดิม คุณสามารถเลือกที่จะยืดระยะเวลาการผ่อนชำระให้ยาวออกไปได้เช่นเดียวกัน อย่างเช่นหากคุณทำสัญญาขอสินเชื่อกับสถาบันการเงินแห่งเดิมเป็นระยะเวลา 5 ปี ผ่อนมาแล้ว 3 ปี ความจริงแล้วคุณต้องผ่อนต่อไปอีก 2 ปีหนี้สินถึงจะหมด แต่คุณสามารถเลือกผ่อนกับที่ใหม่ได้ 5 ปี เท่ากับว่าคุณสามารถผ่อนชำระหนี้จำนวน 2 ปีได้ในระยะเวลาที่นานขึ้นถึง 3 ปี หรือสำหรับใครที่อยากจะปิดหนี้เร็วๆ จะเลือกผ่อนชำระ 1-2 ปีก็ได้เช่นเดียวกัน 
  • ดอกเบี้ยต่ำลง สถาบันการเงินแห่งใหม่ย่อมดึงดูดลูกค้าผู้เป็นลูกหนี้อย่างเราด้วยดอกเบี้ยที่ถูกลงกว่าเดิม ดังนั้นคุณจึงไม่จำเป็นที่จะต้องจ่ายดอกเบี้ยแพงๆ ในการผ่อนสินเชื่อรถอีกต่อไป ช่วยให้คุณมีเงินเหลือไปใช้จ่ายได้ตามความต้องการ 
  • เลือกจำนวนเงินกู้ได้ คุณสามารถเลือกได้ว่าอยากจะกู้เงินกับสถาบันการเงินแห่งใหม่เป็นจำนวนเท่าไหร่ อย่างเช่นราคาประเมินรถของคุณอยู่ที่ 1 ล้านบาท เหลือหนี้สินกับที่เก่า 450,000 บาท คุณสามารถเลือกกู้เงินตามยอดหนี้สินที่เหลืออยู่ 450,000 บาทก็ได้ หรือจะขอกู้เงิน 500,000 บาทเพื่อนำเอาเงินส่วนต่างอีก 50,000 บาทมาใช้หมุนเวียนให้เกิดสภาพคล่องก็ได้เช่นเดียวกัน 
  • ยอดผ่อนต่อเดือนน้อยลง หากคุณเลือกระยะเวลาในการผ่อนชำระยาวนานมากขึ้นกว่าเดิม มันก็จะช่วยให้ยอดผ่อนชำระต่อเดือนของคุณลดน้อยลงไปเช่นเดียวกัน อย่างเช่นหากยอดหนี้ของคุณอยู่ที่ 500,000 บาท เดิมทีต้องผ่อนชำระให้หมดใน 2 ปี เฉลี่ยเดือนละ 20,900 บาท แต่คุณสามารถเลือกผ่อนชำระยาวนาน 5 ปีได้ ทำให้คุณมียอดผ่อนชำระลดลงเหลือเพียงเดือนละ 8,334 บาทเท่านั้น

รีไฟแนนซ์รถต่างจากรีไฟแนนซ์บ้านยังไง

ความจริงแล้วการรีไฟแนนซ์มักนิยมทำกับสินเชื่อขนาดใหญ่ อย่างเช่นรถยนต์หรือที่อยู่อาศัย ทำให้หลายคนอาจเข้าใจผิดว่าการรีไฟแนนซ์รถและบ้านมีความคล้ายคลึงกัน เนื่องจากเป็นการติดต่อกับสถาบันการเงินแห่งใหม่เพื่อกู้เงินมาปิดหนี้ให้กับสถาบันการเงินเก่า แต่ในความเป็นจริงแล้วมันมีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว โดยความแตกต่างกันมีดังนี้

  • รีไฟแนนซ์รถ เป็นการขอสินเชื่อเพื่อให้ระยะเวลาในการผ่อนชำระยาวนานมากขึ้นกว่าเดิม หรือเพื่อให้ยอดผ่อนต่อเดือนมีจำนวนที่ลดน้อยลง เป็นการจัดการหนี้สินให้เรานั้นสามารถผ่อนชำระได้สบายมากขึ้น ไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องทางการเงินของเรา บางครั้งสถาบันการเงินอาจมีโปรโมชั่นมอบดอกเบี้ยที่ถูกมากขึ้นให้กับเราได้ แต่ไม่ใช่วัตถุประสงค์หลักที่ทำให้หลายคนอยากรีไฟแนนซ์รถแต่อย่างใด 
  • รีไฟแนนซ์บ้าน เป็นสินเชื่อระยะยาวที่โอกาสจะทำให้มันสามารถปิดได้เร็วขึ้นกว่าเดิมนั้นเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก ดังนั้นคนส่วนใหญ่จึงตัดสินใจรีไฟแนนซ์บ้านเพราะต้องการให้ดอกเบี้ยถูกลง เป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายหรือช่วยลดราคาบ้าน อย่างเช่น ในช่วงแรกบ้านมีราคา 1 ล้านบาท ดอกเบี้ยกับสถาบันการเงินเก่าดอกเบี้ยสูงถึง 500,000 บาท แต่เมื่อผ่อนไประยะเวลาหนึ่งแล้วขอรีไฟแนนซ์ ดอกเบี้ยอาจถูกลงเหลือประมาณ 250,000 บาท ช่วยให้ราคาบ้านเมื่อรวมกับดอกเบี้ยแล้วไม่สูงจนแตะหลัก 1.5 ล้านบาท ดังนั้นมันจึงไม่ใช่การรีไฟแนนซ์เพื่อให้ปิดหนี้เร็วขึ้นกว่าเดิมหรือได้เงินก้อนมาหมุนเวียนเพิ่มสภาพคล่องแต่อย่างใด

รีไฟแนนซ์รถทำได้ที่ไหน

ในปัจจุบันมีหลายสถาบันการเงินที่ให้บริการรีไฟแนนซ์รถ แต่ละแห่งก็จะมีข้อดีและสิทธิพิเศษให้กับคุณมากมาย แต่จะให้ไปหาโปรโมชันทีละธนาคารแล้วเอามาเปรียบเทียบเองก็เสียเวลาเสียแรงเปล่า ๆ ครับ เพราะฉะนั้นใครที่ไม่อยากวุ่นวายในการศึกษาเกี่ยวกับไฟแนนซ์รถ Refinn เราก็ได้รวบรวมข้อมูลและโปรโมชั่นเด็ดจากแต่ละธนาคารให้คุณได้เปรียบเทียบข้อมูลอย่างสะดวกสบายในที่เดียว ที่สำคัญเรายังมีบริการยื่นสินเชื่อรีไฟแนนซ์ให้กับคุณอีกด้วย ช่วยให้คุณไม่ต้องมานั่งปวดหัวกับขั้นตอนมากมายในการดำเนินการทางการเงินอีกต่อไป ทำให้เรื่องทางการเงินที่ยุ่งยากกลายเป็นเรื่องง่ายได้เหมือนดีดนิ้ว

ถ้าอยากรีไฟแนนซ์รถกับ Refinn ต้องทำยังไง

การรีไฟแนนซ์รถเป็นเรื่องที่ยุ่งยากไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะเราต้องติดต่อกับหน่วยงานหลายแห่งและต้องมีการเตรียมเอกสารหนักกว่าตอนที่ยื่นขอสินเชื่อรถยนต์ครั้งแรกอีกต่างหาก ดังนั้นหากคุณไม่อยากปวดหัว เราขอแนะนำให้ใช้บริการรีไฟแนนซ์รถกับ Refinn เลย เรามีบริการเปรียบเทียบไฟแนนซ์รถของผู้ให้บริการแต่ละแห่ง ว่าที่ไหนมีความคุ้มค่าและตอบโจทย์ความต้องการของคุณมากกว่ากัน ขั้นตอนก็ง่ายกว่า เพียงแค่คุณค้นหาข้อมูลและโปรโมชั่นของธนาคารที่คุณชื่นชอบ เมื่อเลือกได้แล้วก็แค่กรอกเอกสารออนไลน์ รอรับเอกสาร ลงลายมือชื่อ รอเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ เจ้าหน้าที่จะทำการส่งเอกสารเพื่อดำเนินการรีไฟแนนซ์กับทางธนาคารให้กับเราเลย โดยที่เราไม่ต้องมานั่งเตรียมเอกสารหรือเดินทางไปไหนมาไหนด้วยตัวเอง แถมยังมีเชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาคุณตลอดเวลาโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ช่วยให้คุณประหยัดเงิน ประหยัดเวลา และสะดวกสบายมากขึ้นกว่าเดิม 

สรุปรถเสี่ยงถูกยึดกว่าล้านคัน แก้เกมส์ยังไงดี

สรุปแล้ว การรีไฟแนนซ์รถเป็นวิธีการที่จะช่วยให้คุณสามารถผ่านพ้นวิกฤต การถูกยึดรถได้เป็นอย่างดี เนื่องจากคุณสามารถผ่อนชำระได้อย่างยาวนานมากขึ้นกว่าเดิม ทำให้เงินผ่อนในแต่ละเดือนถูกลง เป็นการเพิ่มสภาพคล่องให้คุณมีเงินเหลือในการใช้จ่ายแต่ละเดือน นอกจากนี้คุณยังมีโอกาสได้รับเงินก้อนจากไฟแนนซ์รถเอาไว้ตั้งตัวได้อีกด้วย สำหรับใครที่สนใจสามารถติดตามข่าวสาร โปรโมชั่น หรือเลือกใช้บริการรีไฟแนนซ์กับเราได้ที่เว็บไซต์ Refinn เลย 

หากมีข้อสงสัย สามารถติดต่อได้ที่ เพจ Facebook : Refinn หรือ Line id : @Refinn และถ้าไม่อยากพลาดโปรโมชั่นดีๆ ผมขอแนะนำให้สมัคร Refinn Alert บริการรับการแจ้งเตือนเพื่อที่คุณจะได้ไม่พลาดโอกาสในการลดดอกเบี้ยทุกประเภท เตรียมพร้อมยื่นเอกสารในทันที ช่วยให้คุณประหยัดเงินได้มากขึ้นกว่าเดิม

เผยแพร่เมื่อวันที่ 16 ต.ค. 2566
Refinn Writer
ช่วยเปรียบเทียบโปรโมชั่นที่ประหยัดดอกเบี้ยที่สุด ฟรี ไม่มีค่าบริการเพิ่มเติม