บัตรเครดิตกับบัตรเงินสดต่างกันอย่างไร ปิดหนี้ก่อนไหนก่อนดี
ใคร ๆ ก็คงไม่อยากเป็นหนี้ใช่ไหมครับ แต่เมื่อสร้างขึ้นมาแล้วโดยเฉพาะหนี้ในระบบ ถูกกฎหมาย ที่พร้อมให้ความช่วยเหลือเสมอทั้งหนี้บัตรกดเงินสดและหนี้บัตรเครดิต ก็คงจะเกิดความสงสัยขึ้นมาว่าหากวันหนึ่งต้องการปิดหนี้ จะเลือกปิดหนี้ธนาคารรูปแบบไหนก่อนดี เพราะเอาเข้าจริงก็สมควรต้องปิดให้จบ ๆ ไปทั้งหมด แต่ด้วยภาระค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ทำให้เลือกปิดหนี้ได้อย่างเดียวน่ะซิ และเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง สามารถเลือกได้อย่างเหมาะสม ตอบโจทย์ต่อตนเองขั้นสุด วันนี้เรามีข้อมูลมาบอกต่อครับ
บัตรเครดิต คือ
บัตรเครดิต อธิบายให้เข้าใจแบบง่ายๆ ก็คือ บัตรที่สามารถใช่ก่อนผ่อนทีหลังได้ โดยทางธนาคารจะอนุมัติวงเงินให้ เช่น บัตรเครดิตวงเงิน 100,000 บาท ดังนั้นเราจะใช้บัตรนี้รูดซื้อสินค้าอะไรก็ได้แต่จะต้องไม่เกิน 100,000 เมื่อครบ 100,000 สถานะบัตรเครดิตจะเปลี่ยนเป็นวงเงินเต็มและไม่สามารถรูดสินค้าได้ แต่ก็สามารถโทรไปขอเพิ่มวงเงินได้
บัตรกดเงินสด คือ
บัตรกดเงินสด คือบัตรที่ใช้สำหรับกดเงินสด อธิบายให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ สมมุติว่าเราสมัครบัตรกดเงินสดและผ่านการอนุมัติเรียบร้อย แล้วต้องการกดเงิน 5,000 บาท เราก็สามารถนำบัตรไปกดที่ตู้ ATM ได้เลยโดยจะสามารถกดก็เท่าไหร่ กี่ครั้งก็ได้ จนกว่าจะครบวงเงินที่ทางะนาคารหรือสถาบันทางการเงินของบัตรนั้นๆกำหนดครับ
บัตรเครดิตกับบัตรกดเงินสด วงเงินเดียวกันไหม
ซึ่งบัตรเครดิตกับบัตรกดเงินสดทั้ง 2 บัตรนี้จะเป็นคนละวงเงินกันครับ โดยบัตรเครดิตจะใช้บัตรในการรูดแทนเงินสดและค่อยมาจ่ายคืนทีหลัง แต่บัตรกดเงินสดจะเป็นการนำบัตรไปกดเป็นเงินสดออกมาเลยและมีการคิดดอกเบี้ยในทันทีที่กดเงินออกมา
บัตรเครดิตกับบัตรกดเงินสด ต่างกันอย่างไร
โดยทั้ง 2 บัตรนี้จะแตกต่างกันในเรื่องต่างๆดังนี้ครับ
สำหรับบัตรเครดิต เมื่อถึงกำหนดชำระเงิน จะมีค่าดอกเบี้ยเพิ่มเติมซึ่งจะแตกต่างกันไปตามแต่ธนาคารหรือสถาบันการเงินของบัตรเครดิตนั้นๆ
ส่วนบัตรกดเงินสดจะไม่มีค่าธรรมเนียมในการกด ดังนั้นจะกดกี่ครั้งก็ได้จนครบวงเงินแต่จะไม่เสียค่าธรรมเนียม แต่…ต้องบริหารความเสี่ยงให้ดีๆนะครับ เพราะบัตรกดเงินสดจะคิดอัตราดอกเบี้ยทุกวันนับตั้งแต่วันแรกที่กดเงิน ดังนั้น หากเราชำระคืนช้าดอกเบี้ยก็จะถูกคิดไปเรื่อยๆ จนกว่าจะชำระคืน แต่จะมีข้อดีคืนอนุมัติง่ายกว่าบัตรเครดิต
การใช้งานบัตรเครดิตกับบัตรกดเงินสด
สำหรับด้านการใช้งาน ต้องบอกก่อนเลยว่า 2 บัตรนี้จะใช้งานต่างกันครับ ตั้งแต่การสมัคร ขั้นตอนการผ่อน และดอกเบี้ย ซึ่งเราจะมาแยกอธิบายให้เข้าใจกัน
การสมัคร
บัตรเครดิตจะสมัครยากกว่าและอนุมัติยากกว่าบัตรกดเงินสดครับ โดยจะต้องมีหลักประกันรวมไปถึงขั้นตอนการตรวตสอบที่ยุ่งยากออกไปแล้วแต่ธนาคารหรือสถาบันทางการเงินนั้นๆ จึงอาจจะไม่เหมาะกับคนที่ต้องรีบใช้เงิน
ส่วนบัตรกดเงินสดจะอนุมัติง่ายกว่า เพราะไม่ต้องมีหลักประกัน ที่สำคัญไม่มีค่าธรรมเนียมในการกดเงินสด ดังนั้นจึงเหมาะกับคนที่รีบใช้เงินและมั่นใจจริงๆว่าจะสามารถใช้เงินคืนได้เร็ว ไม่กี่วันก็สามารถใช้คืนได้แล้ว
การผ่อนสินค้า
ด้านการผ่อนสินค้าส่วนมากบัตรเครดิตจะมีโปรโมชันและสิทธิพิเศษให้ด้วย เช่น ผ่อน 0% นาน 1 ปี ซึ่งเจ้าของบัตรสามารถนำไปรูดกับทางร้านและผ่อนกับทางธนาคารได้เลย สะดวกและไม่ยุ่งยากเหมือนบัตรกดเงินสด และที่สำคัญร้านค้าที่รับบัตรเครดิตมีมากกว่าบัตรกดเงินสด
โดยที่บัตรกดเงินสด ปกติแล้วจะคิดดอกเบี้ยทันทีที่เงินถูกกดออกมา ที่สำคัญบัตรกดเงินสดจะไม่มีแต้มสะสมเเละสิทธิพิเศษเหมือนบัตรกดเงินสดครับ
ดอกเบี้ย
ด้านดอกเบี้ย อย่างที่เกริ่นไปก่อนหน้านี้คร่าวๆว่า บัตรเครดิตจะมีการกำหนดช่วงและดอกเบี้ยที่แน่นอน โดยส่วนมากดอกเบี้ยต่อปีจะต่ำกว่าบัตรกดเงินสด จึงเหมาะแก่การนำมาใช้ในการผ่อนสินค้า และนอกจากนี้บัตรเครดิตจะไม่คิดดอกเบี้ยด้วยหากชำระเงินคืนภายในช่วงระยะเวลาที่ปลอดดอกเบี้ย
ส่วนบัตรกดเงินสดก็อย่างที่ย้ำไปก่อนหน้านี้ตรับว่า จะถูกคิดทันทีหลังจากเงินถูกกดออกมา แต่จะมีข้อดีตรงเป็นดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก ดังนั้นถ้าโปะได้เยอะหนี้ก็จะหมดเร็วครับ
การกดเงินสด
ด้านการกดเงินสด สำหรับด้านนี้ก็คงต้องยกให้บัตรกดเงินสดดีกว่าครับ ก็ตามชื่อของบัตรเลย เพราะถึงแม้ว่าบัตรเครดิตจะสามารถใช้กดเงินสดได้ แต่ก็จะมีค่าธรรมเนียนในการกดที่ค่อนข้างสูง ต่างจากบัตรกดเงินสด ที่จะไม่เสียค่าธรรมเนียในการกดเลยแม้แต่บาทเดียว
หนี้บัตรกดเงินสด VS หนี้บัตรเครดิต
ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกันก่อนนะครับว่าสินเชื่อส่วนบุคคล กับบัตรเครดิตนั้น เรียกว่าเป็นสินเชื่อส่วนบุคคลทั้งคู่ แต่จะมีข้อแตกต่างกันตรงวิธีการใช้ และดอกเบี้ยครับ
1. บัตรกดเงินสด
ต้องบอกก่อนว่าบัตรกดเงินสดเป็นสินเชื่อที่ทางธนาคารจะออกบัตรที่มีวงเงินพร้อมใช้ให้กดเงินออกมาได้ ถ้าไม่กดเงินออกมาใช้ธนาคารก็จะไม่คิดดอกเบี้ยเราครับมีใช้จ่ายเมื่อถึงคราวฉุกเฉินต้องใช้เงินด่วนทั้ง ค่ารักษาพยาบาล ค่าเทอม ค่างวดบ้าน/งวดรถ หรือแม้แต่ใช้จ่ายจิปาถะมีอัตราดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายร่วมกับเงินต้น โดยทั่วไปธนาคารจะกำหนดต่อปีไม่เกิน 25% (แต่เรื่องดอกเบี้ยแต่ละธนาคารก็จะมีโปรลดดอกเบี้ยออกมาจะเห็นจากโฆษณาที่มีเริ่มตั้งแต่ 9% เลยครับ)
2. หนี้บัตรเครดิต
มาต่อกันที่หนี้บัตรเครดิตบ้าง โดยจะเป็นสินเชื่อที่ถูกใจเหล่ามนุษย์เงินเดือน ที่มักจะชอบซื้อสินค้า/บริการ โดยการใช้บัตรเครดิตรูดซื้อสินค้าต่างๆ โดยปกติแล้วดอกเบี้ยจะไม่เกิน 16% ต่อปี ครับ แต่บัตรเครดิตก็สามารถกดเงินสดออกมาใช้ได้เหมือนกัน ถ้าเป็นการนำบัตรเครดิตไปใช้ด้วยการกดเงินออกมาก็จะเสียดอกเบี้ยเท่ากับบัตรกดเงินสดเลย
เลือกปิดหนี้บัตรเครดิตหรือบัตรกดเงินสดก่อนดีนะ?
ปิดหนี้บัตรเครดิตหรือบัตรกดเงินสดก่อนดี? จะเห็นได้ว่าเมื่อเทียบกันแล้วสินเชื่อส่วนบุคคลประเภทบัตรกดเงินสดนั้นจะมีดอกเบี้ยที่สูงกว่าบัตรเครดิต ถ้าหากมีเงินก้อนที่สามารถปิดได้ เราก็จะแนะนำให้นำไปปิดที่บัตรกดเงินสดก่อนครับ แต่จริงๆ คำแนะนำนี้ก็เป็นเพียงคำแนะนำเบื่องต้นที่เราอิงจากแนวคิดที่ว่าสินเชื่อไหนดอกเบี้ยสูงก็ให้ปิดสินเชื่อนั้นก่อนเพื่อจะทำให้เราเสียดอกเบี้ยน้อยลง
แต่ในความเป็นจริงเรายังมีอีกหลายปัจจัยที่จะต้องนำมาคิดประกอบด้วย เช่น ยอดผ่อนต่อเดือน ยอดวงเงินหนี้ที่เหลืออยู่ ฯลฯ ที่จะต้องนำมาพิจารณาด้วย
มีปัญหาเรื่องบัตรเครดิตกับบัตรกดเงินสด ปรึกษารีฟินน์
หากใครที่มีปัญหาภาระหนี้ที่สูง เช่น มีบัตรเครดิต หรือบัตรกดเงินสดหลายใบ ทำให้ยอดผ่อนต่อเดือนสูง จนทำให้เราเริ่มขนาดสภาพคล่อง รายได้ที่มีเอาไปจ่ายขั้นต่ำของแต่ละบัตรจนทำให้เงินไม่พอใช้ในแต่ละเดือนวนลูปแบบนี้ เราอยากแนะนำให้ดูรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต ซึ่งจะเป็นการที่เราเอาหนี้บัตรเครดิตที่มีอยู่หลาย ๆ ใบมารวมแล้วรับเงินก้อนจากธนาคารหรือสถาบันการเงินไปปิด เพื่อที่เราจะได้มาผ่อนกับที่เดียว ทำให้เราไม่ต้องไปแยกจ่ายขั้นต่ำทุกบัตร แล้วมีระยะเวลาผ่อนชำระที่ยาว ก็ทำให้ยอดผ่อนต่อเดือนเบาลงครับ ซึ่งวิธีการนี้จะช่วยให้เราผ่อนต่อเดือนน้อย มีสภาพคล่อง แล้วไม่ทำให้ประวัติทางการเงินเราเสียด้วยครับ เรื่องประวัติทางการเงินนี้ต้องรักษาไว้ดี ๆ เลย
นอกจากนี้ หากใครสนใจเรื่องการ รีไฟแนนซ์ ทาง Refinn มีบริการเปรียบทียบโปรโมชั่น รีไฟแนนซ์บ้าน รวมไปถึง รีไฟแนนซ์รถ ฟรี อีกด้วย
สรุปบัตรเครดิตกับบัตรกดเงินสด
มากก็อาจเลือกสมัครบัตรเครดิต เพราะถึงแม้จะอนุมัติยากกว่าบัตรกดเงินสด เเต่ก็มีสิทธิพิเศษ และ โปรโมชันต่างๆที่มากกว่าบัตรกดเงินสด แต่ถ้าใครรีบใช้เงิน และต้องการที่จะใช้เงินสด การสมัครบัตรกดเงินสดก็เป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพราะอนุมัติง่าย และที่สำคัญไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการกดเงินสดเหมือนบัตรเครดิตอีกด้วย