รีไฟแนนซ์บ้านช่วยให้คุณมีเงินเหลือมากขึ้นได้อย่างไร? | Refinn
รีไฟแนนซ์บ้านประหยัดเงิน

รีไฟแนนซ์บ้านช่วยให้คุณมีเงินเหลือมากขึ้นได้อย่างไร? | Refinn

ผมได้มีการพูดเรื่องการรีไฟแนนซ์บ้านไปหลายเรื่องมาก แต่ก็จะมีคำถามเข้ามาประมาณว่าการรีไฟแนนซ์บ้านนั้นมันเหมาะกับคนที่มีปัญหาทางด้านการเงินเท่านั้นแหละ คนที่ไม่มีปัญหาทางการเงิน มีเงินเหลือจะไปรีไฟแนนซ์บ้านทำไม ผมเลยกลับมาคิดสิ่งที่เขาพูดก็ไม่ผิดนะครับ ถ้าเราไม่ได้รู้สึกเดือนเนื้อร้อนใจอะไร เราถึงต้องรีไฟแนนซ์บ้าน แล้วทำไมคนที่รีไฟแนนซ์บ้านส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนที่มีสถานนะทางการเงินดี มีประวัติทางการเงินที่ดีทั้งนั้นเลย ยิ่งรีไฟแนนซ์บ้านยิ่งมีเงินเหลือเข้าไปอีก วันนี้เราลองไปทำความเข้าใจเรื่องการรีไฟแนนซ์บ้านกันครับ

มีเงินเหลือจะรีไฟแนนซ์บ้านไปทำไม

ที่ผมได้บอกไปว่าผมเห็นด้วยกับที่เขาบอกว่าคนที่รีไฟแนนซ์บ้านนั้นคือคนที่มีปัญหาทางการเงิน ผมขอขยายความให้ก่อนที่หลายคนจะเข้าใจผิดครับ ปัญหาทางการเงินในที่นี้ไม่ใช่ว่าไม่มีเงิน หรือเริ่มที่จะผ่อนไม่ไหว แต่ผมหมายถึงเขารู้สึกว่าเขาโดนดอกเบี้ยที่แพง ปัญหาของเขาคืออยากที่จะลดดอกเบี้ยลง แทนที่จะเอาดอกเบี้ยไปให้ธนาคารเขาเอาเงินไปทำอย่างอื่นที่มันมีประโยชน์ดีกว่า เพื่อยังนึกไม่ออกว่าเงินก้อนนี้เยอะขนาดไหนลองมาดูตัวอย่างนี้กันครับ

ยกตัวอย่าง ผมมียอดหนี้บ้านคงเหลือ 5 ล้านบาท ในหนึ่งเดือน ถ้าดอกเบี้ยธนาคารปัจจุบัน 4.25% ต่อปี เฉพาะดอกเบี้ยผมจะจ่ายอยู่ที่ 17,465 บาท และถ้าผมมรีไฟแนนซ์บ้านไปธนาคารใหม่ได้รับดอกเบี้ย 2.35% ต่อปี ผมจะจ่ายดอกเบี้ยเหลือแค่ 9,657 บาท ต่างกันถึง 7,808 บาท

ตัวอย่างที่ 2 ในกรณีถ้าผมรีไฟแนนซ์บ้านสัก 1 ครั้งละ จะประหยัดเงินไปได้ทั้งหมดกี่บาท?

สมมุติว่าผมมียอดหนี้บ้านคงเหลือ 3,300,000 บาท ตั้งใจที่จะรีไฟแนนซ์บ้าน 1 ครั้ง จากเดิมที่สมมุติว่าผมได้ดอกเบี้ยอยู่ที่ 7% รีไฟแนนซ์บ้านได้ดอกเบี้ยใหม่ในอัตราที่ถูกลงเหลือ 3.08% เมื่อผมผ่อนบ้านผ่านไป 3 ปี จะสังเกตุได้ว่าผมสามารถประหยัดเงินได้มากถึง 384,569 บาท

ตารางแสดงรีไฟแนนซ์บ้านประหยัดเงินได้กี่บาท

ลองคิดดูซิครับว่าเงินก้อนนี้สามารถเอาไปทำอะไรได้บ้าง เอาไปผ่อนรถ เอาไปลงทุน เอาไปเล่นหุ้น ค่าเทอมลูก ค่าน้ำมันไปทำงาน เก็บไว้เป็นเงินใช้ในยามเกษียณ หรือจะเอาไปผ่อนบ้าน ผ่อนคอนโดอีกสักหลังที่ราคาสักล้านต้น ๆ ก็ยังได้เลยครับ

การรีไฟแนนซ์บ้านคือการที่เราขอสินเชื่อจากธนาคารใหม่ เพื่อมาปิดสินเชื่อบ้านจากธนาคารเดิม ซึ่งการรีไฟแนนซ์บ้านจะทำให้เราได้รับสิทธิพิเศษจากธนาคารที่เราไปกู้ใหม่ เช่น อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง ค่างวดผ่อนต่อเดือนที่ถูกลง ผ่อนหมดเร็วขึ้น หรือแม้แต่ได้รับวงเงินกู้เพิ่มเติมเพื่อไปใช้จ่ายอเนกประสงค์ เป็นต้น

อ่านเพิ่มเติม : รีไฟแนนซ์บ้านคืออะไร อยากประหยัดค่าผ่อนบ้านต้องรู้ ปี 2565

ใครบ้างที่ควรใช้สิทธิ์รีไฟแนนซ์บ้าน?

จากที่ผมได้บอกไปก่อนหน้านี้ว่าคนที่รีไฟแนนซ์บ้านส่วนใหญ่ในตอนนี้ก็จะเป็นคนที่อยากลดดอกเบี้ย แต่จริง ๆ แล้วการรีไฟแนนซ์นั้นก็เหมาะกับคนหลายหลายเลยครับผมแบ่งออกมาประมาณ 5 กลุ่ม

รีไฟแนนซ์บ้านดีไหม

1. ผู้กู้ที่ดอกเบี้ยพิเศษในสัญญาสินเชื่อบ้านกำลังจะหมดอายุลง

เพราะเมื่อดอกเบี้ยพิเศษหมดอายุ จะทำให้ดอกเบี้ยที่ต้องชำระแก่ธนาคารเพิ่มขึ้นได้มากถึงปีละ 2-3% ซึ่งเมื่อคิดออกมาแล้วก็เป็นเงินจำนวนหลายหมื่นหรืออาจจะหลายแสนบาทต่อปี การรีไฟแนนซ์ทำให้เหมือนกับเราได้ดอกเบี้ยพิเศษเหล่านั้นกลับมาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งก็แนะนำว่าควรจะทำก่อนที่จะครบสัญญาประมาณ 1 เดือนครึ่งครับ ใครที่เข้าเกณฑ์นี้ผมก็แนะนำให้ลองเข้าไปเช็คโปรโมชั่นรีไฟแนนซ์บ้านจากธนาคารชั้นนำต่าง ๆ ที่เรารวมไว้และก็เราทำการคำนวณยอดประหยัดไว้ให้แล้วด้วยได้ที่นี้เลยครับ www.refinn.com/รีไฟแนนซ์บ้าน

2. ผู้ที่ต้องการลดภาระผ่อนต่อเดือนลง

อย่างที่ผมได้ลองคำนวณไว้ให้ดูก่อนหน้าหนี้ครับพอเราลดดอกเบี้ยลงมาแล้วมันก็จะมีเงินส่วนต่าง บางคนอาจจะเลือกที่จะขอผ่อนเท่าเดิมเพื่อที่จะได้หมดหนี้ไว ๆ หรือบางคนอาจ เช่น ผู้กู้บางคนมีภาระค่าใช้จ่ายต่อเดือนสูง การรีไฟแนนซ์บ้านทำให้สามารถลดดอกเบี้ยลงมาได้ ซึ่งหมายถึงเราจะจ่ายค่าผ่อนบ้านแต่ละงวดถูกลงจากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงนั่นเอง

เพราะว่าสำหรับลูกค้าบางคนหากไม่รีไฟแนนซ์บ้านแล้ว ภาระที่ต้องผ่อนต่อเดือนอาจจะมากจนอาจจะผ่อนไม่ไหว ผู้กู้จึงควรดำเนินการขอรีไฟแนนซ์เพื่อยืดอายุสัญญาผ่อนบ้านออกไป นั่นจะทำให้การผ่อนต่อเดือนมีจำนวนลดลงและอาจช่วยสถานะการเงินของผู้กู้ได้

3. ผู้ที่ต้องการลดระยะเวลาผ่อนบ้าน เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง

ถ้าเรายังคงจ่ายค่างวดผ่อนบ้านแต่ละเดือนเท่าเดิม จะทำให้ตัดเงินต้นได้อย่างรวดเร็ว และยิ่งผู้กู้ที่มีกำลังผ่อนต่อเดือนสูงขึ้น (เช่นตอนกู้บ้านเมื่อ 3 ปีที่แล้วเงินเดือนน้อย แต่ตอนนี้มีเงินเดือนมากพอที่จะจ่ายเยอะขึ้นแต่ละเดือน) ยิ่งทำให้เงินต้นลดลงไปเร็วกว่าเดิม คนกลุ่มนี้ก็สามารถดำเนินการขอรีไฟแนนซ์บ้านเพื่อให้สามารถผ่อนเท่าเดิมหรือมากขึ้นแล้วลดจำนวนปีลง

4. รีไฟแนนซ์บ้านเพื่อนำส่วนต่างมาใช้

ตามปกติแล้วบ้านที่เรากู้ซื้อมาตอนแรก นับวันยิ่งมีมูลค่าสูงยิ่งขึ้น ในขณะที่ภาระหนี้สินก็ลดต่ำลงจากที่เราผ่อนไปทุกเดือน ทำให้มีส่วนต่างของราคาบ้านกับยอดหนี้คงเหลือตรงนี้ที่เราสามารถทำเรื่องกับธนาคารเพื่อนนำเงินมาใช้ได้ตามที่เกณฑ์ที่ธนาคารกำหนดครับ

เราจะเรียกเงินตรงนี้ว่าสินเชื่ออเนกประสงค์ โดยเราสามารถดำเนินการขอรีไฟแนนซ์และขอกู้ตรงนี้ไปทีเดียวพร้อมกันได้เลย ยื่นเรื่องครั้งเดียวไม่ต้องยื่นแยกกันไว้วุ่นวาย และอีกหนึ่งขอดีที่เรายื่นเรื่องพร้อมรีไฟแนนซ์บ้าน บางธนาคารเขาก็มีโปรโมชั่นหากทำพร้อมกันก็จะได้ดอกเบี้ยพิเศษ บางที่ก็ให้ดอกเบี้ยของสินเชื่ออเนกประสงค์ เท่ากับสินเชื่อรีไฟแนนซ์เลยครับ ซึ่งปกติดอกเบี้ยจะต่างกันอยู่ประมาณหนึ่งเลยทีเดียว

เราสามารถนำเงินส่วนนี้ไปใช้ได้ทั้งต่อเติมบ้าน ปิดหนี้บัตรเครดิต หรือสินเชื่ออื่นๆ ที่มีดอกเบี้ยสูงกว่าก็ได้เพราะว่าสินเชื่อบ้านจะให้ดอกเบี้ยที่ถูกกว่าดอกเบี้ยอื่นอยู่แล้ว ใครสนใจรูปแบบนี้ก็ลองเข้าไปเช็คโปรดูกันได้ที่นี้เลยครับ www.refinn.com/รีไฟแนนซ์บ้าน เลือกรีไฟแนนซ์บ้านและอย่าลืมเลือกขอวงเงินกู้เพิ่มที่หน้าเว็บด้วยนะครับ

5. บ้านไม่มีภาระและต้องการเงินด่วน

จริง ๆ อันนี้จะเรียนกว่ารีไฟแนนซ์บ้านก็ไม่ถูกหรอกครับ เราจะเรียกกันว่าบ้านและเงินแต่ที่ผมพูดในที่นี้อยากให้เพื่อน ๆ ได้รู้จักกันด้วยครับ ผู้กู้สามารถนำบ้านที่ไม่มีภาระผ่อนแล้วไปขอสินเชื่อบ้านแลกเงิน (Home for Cash) พื่อนำเงินออกมาใช้จ่ายได้ ซึ่งสินเชื่อกลุ่มนี้จะถือว่ามีต้นทุนที่ถูกกว่าสินเชื่ออเนกประสงค์กลุ่มอื่นๆ เพราะอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ประมาณ 5.5%-9% เนื่องจากมีบ้านเป็นสินทรัพย์ค้ำประกัน แต่สินเชื่อ เช่น บัตรเครดิตจะมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงถึง 20-25% เลยทีเดียว

จะเห็นว่าหากดำเนินการรีไฟแนนซ์อย่างถูกต้องแล้ว ผู้กู้จะสามารถประหยัดเงินที่ต้องผ่อน หรือ สามารถใช้บ้านเป็นแหล่งเงินต้นทุนต่ำได้ ซึ่งจะช่วยให้ผู้กู้ที่ขอรีไฟแนนซ์มีเงินเหลือในกระเป๋ามากขึ้น หากสนใจขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์หรือศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรีไฟแนนซ์บ้าน และสินเชื่อบ้านแลกเงิน สามารถเข้ามาเลือกดูโปรโมชั่นและสอบถามได้ที่ www.refinn.com/รีไฟแนนซ์บ้าน กันได้เลยครับ

เผยแพร่เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2566
Refinn Writer
ช่วยเปรียบเทียบโปรโมชั่นที่ประหยัดดอกเบี้ยที่สุด ฟรี ไม่มีค่าบริการเพิ่มเติม