วิธีขอสินเชื่ออย่างมั่นใจ ทำอย่างไรให้อนุมัติเร็ว
ในยุคที่ค่าครองชีพสูงขึ้น การเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่มั่นคงอย่างสินเชื่อจากสถาบันการเงิน จึงกลายเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับหลายคน Refinn ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านสินเชื่อ จะพาคุณไปเจาะลึกทุกแง่มุมของการขอสินเชื่อ ตั้งแต่สาเหตุที่ถูกปฏิเสธ ไปจนถึงวิธีขอสินเชื่อให้ผ่านอย่างเป็นขั้นตอน เพื่อให้คุณเตรียมพร้อมได้อย่างมั่นใจ และไม่ต้องเจอสถานการณ์ความคิดว่ากู้เงินยังไงให้ผ่านที่เป็นเรื่องน่าปวดหัวอีกต่อไป เตรียมเอกสารให้พร้อม แล้วมาดูกันเลย
การขอสินเชื่อไม่ผ่าน สาเหตุมาจากอะไร?

ก่อนจะไปดูว่าวิธีขอสินเชื่อให้ผ่านต้องทำอย่างไร เราต้องเข้าใจต้นตอของปัญหาก่อน การถูกปฏิเสธสินเชื่อไม่ใช่เรื่องของโชคร้าย แต่มักเกิดจากปัจจัยสำคัญที่สถาบันการเงินใช้ในการประเมินความเสี่ยง และหลักเกณฑ์ในการอนุมัติ สินเชื่อ ซึ่งมักจะหมุนเวียนอยู่รอบ ๆ ประเด็นหลัก 5 ประเด็นต่อไปนี้
ปัญหาด้านเครดิต
หัวใจสำคัญของการพิจารณาวิธีกู้เงินให้ผ่าน คือ ‘ประวัติเครดิตบูโร’ ที่หลายคนอาจมองข้ามหรือไม่เคยตรวจสอบเลย ข้อมูลในส่วนนี้จะแสดงประวัติการชำระหนี้ทั้งหมดของคุณ หากคุณเคยมีประวัติการชำระล่าช้า, ติดค้างชำระ, หรือปรับโครงสร้างหนี้ สิ่งเหล่านี้จะถูกบันทึกเป็น "ประวัติที่ไม่ดี" หรือที่เรียกว่า "ติด Blacklist" ซึ่งเป็นสาเหตุอันดับต้น ๆ ที่ทำให้กู้อะไรก็ไม่ผ่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสินเชื่อที่ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เช่น สินเชื่อส่วนบุคคล หรือสินเชื่อเงินด่วน
ปัญหาด้านรายได้หรืออาชีพ
สถาบันการเงินต้องการมั่นใจว่าผู้กู้มีความสามารถในการชำระหนี้คืนอย่างสม่ำเสมอ ดังนั้น ความมั่นคงของรายได้และอาชีพ จึงเป็นอีกปัจจัยสำคัญในการพิจารณาวิธีกู้เงินธนาคาร
- รายได้ไม่เข้าเกณฑ์ : บางธนาคารอาจกำหนดรายได้ขั้นต่ำสำหรับกาสมัครเงินกู้ แต่ถ้าธนาคารประเมินว่ารายได้ของคุณไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพหลังหักค่าผ่อนชำระหนี้แล้ว ก็อาจทำให้คำขอไม่ผ่าน
- อาชีพที่ไม่มั่นคง : ผู้ที่ประกอบอาชีพอิสระ, มีรายได้ไม่ประจำ, หรือเพิ่งเริ่มทำงานในที่ทำงานปัจจุบันไม่ถึง 6 เดือน อาจถูกมองว่ามีความเสี่ยงสูงกว่ากลุ่มพนักงานประจำ
ภาระหนี้สินเกินกำหนด
สิ่งที่หลายคนละเลยความสำคัญเกี่ยวกับวิธีขอสินเชื่อให้ผ่าน คือธนาคารจะมีเกณฑ์ที่เรียกว่า Debt Service Ratio (DSR) หรืออัตราส่วนภาระหนี้สินต่อรายได้ ธนาคารส่วนใหญ่มักจะให้ DSR ไม่เกิน 40-70% หากคุณมีภาระผ่อนชำระหนี้เดิมรวมกันแล้วเกินกว่าที่ธนาคารกำหนด แม้ว่าคุณจะมีรายได้สูง แต่คำขอสินเชื่อใหม่ก็อาจไม่ได้รับการอนุมัติ เพราะธนาคารมองว่าคุณไม่มีความสามารถในการชำระหนี้เพิ่มอีกแล้ว
เอกสารไม่ครบหรือข้อมูลไม่ถูกต้อง
การยื่นเอกสารขอสินเชื่อที่ไม่ครบถ้วน, ไม่เป็นปัจจุบัน, หรือมีข้อมูลไม่สอดคล้องกัน เป็นความผิดพลาดที่มักจะเจอได้บ่อยที่สุด
ปัญหาอื่น ๆ ที่อาจทำให้ไม่ผ่าน
หากคุณยื่นกู้ธนาคารหลายแห่งพร้อมกัน หรือถูกปฏิเสธแล้วยื่นใหม่ทันทีภายในระยะเวลาสั้น ๆ ธนาคารจะมองว่าคุณกำลังมีปัญหาทางการเงินอย่างหนัก ซึ่งอาจเป็นสัญญาณอันตราย นอกจากนี้ หากคุณกู้ร่วม แต่ผู้ร่วมกู้มีประวัติเครดิตไม่ดี ก็จะส่งผลให้การกู้ของคุณไม่ผ่านไปด้วย
8 วิธีขอสินเชื่อให้ผ่าน ทำยังไงได้บ้าง?

เมื่อเราทราบสาเหตุที่ทำให้ไม่ผ่านการสมัครกู้เงินกับธนาคารแล้ว ก็ถึงเวลามาเตรียมตัวเพื่อเพิ่มโอกาสให้เราขอสินเชื่อผ่าน และได้รับอนุมัติได้อย่างรวดเร็ว นี่คือ 8 เทคนิคสำคัญที่ Refinn แนะนำให้คุณนำไปปฏิบัติก่อนยื่นขอสินเชื่อ
สร้างเครดิตให้แข็งแรง
- ชำระหนี้ตรงเวลา : หากคุณมีหนี้เดิม ไม่ว่าจะเป็นค่าโทรศัพท์, ค่างวดรถ, หรือหนี้จากบัตรเครดิต 2025 ต้องมั่นใจว่าคุณชำระเต็มจำนวนและตรงตามกำหนดเวลาเสมอ เพื่อสร้างประวัติการชำระหนี้ที่ดี
- ลดการใช้จ่ายบัตรเครดิต : พยายามใช้บัตรเครดิตไม่เกิน 30-50% ของวงเงินที่ได้รับ เพื่อให้ธนาคารเห็นว่าคุณยังมีความสามารถในการบริหารจัดการวงเงินได้ดี
- ตรวจสอบเครดิตบูโร : หมั่นตรวจสอบเครดิตบูโรของตัวเองอย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อดูว่ามีข้อมูลใดผิดพลาดหรือไม่ หากมีข้อผิดพลาดให้รีบแจ้งแก้ไขทันที
เลือกสินเชื่อให้เหมาะกับตัวเองและวัตถุประสงค์
ก่อนตัดสินใจขอสินเชื่อ ควรเลือกประเภทสินเชื่อที่ตรงกับวัตถุประสงค์ของคุณ
- สินเชื่อบ้าน : ดอกเบี้ยต่ำสุด เหมาะกับการซื้อ/สร้าง/ซ่อมแซมที่อยู่อาศัย
- สินเชื่อส่วนบุคคล : เหมาะสำหรับใช้จ่ายทั่วไปหรือรวมหนี้ กู้เงินไม่ต้องมีหลักทรัพย์จึงมักมีดอกเบี้ยสูงกว่าสินเชื่อที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน
- สินเชื่อธุรกิจ : สำหรับการหมุนเวียนหรือขยายกิจการ
- สินเชื่อที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน : เช่น สินเชื่อบ้านแลกเงิน หรือสินเชื่อรถแลกเงินที่มักจะมีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า และโอกาสผ่านสูงกว่า เพราะธนาคารมีความเสี่ยงต่ำกว่า
ประเมินความสามารถในการผ่อนชำระ
คำนวณเงินผ่อนต่อเดือนที่เหมาะสมสำหรับคุณ และต้องแน่ใจว่าเงินผ่อนก้อนใหม่รวมกับหนี้เดิมแล้วไม่เกิน 30-50% ของรายได้ต่อเดือน คำขอสินเชื่อใหม่จะต้องอยู่ในกรอบนี้ เป็นอีกหนึ่งวิธีสมัครสินเชื่อให้ผ่าน
อย่ากู้เกินตัว และมีหนี้ไม่เกิน 30% ของรายได้ต่อเดือน
แม้ว่าธนาคารอาจให้ DSR ได้สูงถึง 70% แต่เพื่อความปลอดภัยทางการเงินของคุณเอง และเป็นวิธีขอสินเชื่อให้ผ่านที่ช่วยเพิ่มโอกาสให้คุณได้ ควรจำกัดภาระหนี้สินรวม (รวมหนี้ใหม่) ให้อยู่ในระดับที่ต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และพยายามไม่ให้เกิน 30% ของรายได้ต่อเดือนจะดีที่สุด
เตรียมเอกสารให้ครบและถูกต้อง
กู้เงินธนาคารต้องใช้อะไรบ้าง ต้องเตรียมให้ครบถ้วน ชัดเจน และเป็นปัจจุบัน
- สลิปเงินเดือน/หนังสือรับรอง : ขอให้เป็นฉบับล่าสุด และมีอายุไม่เกิน 1-2 เดือน
- Statement : ต้องขอให้ครบตามจำนวนเดือนที่ธนาคารกำหนด (ส่วนใหญ่มักจะเป็น 3-6 เดือน) และควรแสดงรายได้เข้าออกบัญชีอย่างสม่ำเสมอ
อย่าขอสินเชื่อบ่อยเกินไป
วิธีกู้เงินบ่อย ๆ ภายในระยะเวลาสั้น ๆ จะถูกบันทึกในเครดิตบูโรว่ามีการ "ขอตรวจสอบข้อมูลเครดิต" บ่อยครั้ง ซึ่งเป็นสัญญาณอันตรายสำหรับสถาบันการเงินที่กำลังพิจารณาอนุมัติเงินด่วนทันใจ
หากโดนปฏิเสธ ควรรอ 3 เดือนก่อนสมัครใหม่

หากคุณขอสินเชื่อไม่ผ่าน ทําไงดี? คำแนะนำที่ดีที่สุดคือควรหยุดและแก้ไขที่สาเหตุก่อน
- รอ 3-6 เดือน : ช่วงเวลานี้ให้คุณจัดการลดหนี้สินเดิม, ปรับปรุงประวัติการชำระหนี้, และรอให้ประวัติการยื่นคำขอสินเชื่อของคุณเริ่มจางหายไปจากระบบ ก่อนที่จะขอสินเชื่อด่วนใหม่
- แก้ไขข้อมูล : หากสาเหตุมาจากการเงิน ให้รีบแก้ไขทันที
พิจารณาเกณฑ์ของสถาบันการเงินก่อนยื่นคำขอ
ธนาคารแต่ละแห่งมีเกณฑ์การอนุมัติที่แตกต่างกัน บางแห่งเข้มงวดกับอาชีพอิสระ บางแห่งให้วงเงินสูงกว่ากับพนักงานรัฐวิสาหกิจ ก่อนตัดสินใจควรศึกษาว่าสินเชื่อธนาคารไหนอนุมัติง่ายสำหรับโปรไฟล์ของคุณที่สุด การเลือกธนาคารที่เหมาะสมเป็นวิธีกรอกข้อมูลสินเชื่อให้ผ่านได้ง่ายขึ้นเช่นกัน
วิธีขอสินเชื่อให้ผ่าน เพื่อให้ทุกการขอสินเชื่อประสบความสำเร็จ
การขอสินเชื่ออนุมัติง่าย ไม่เช็กภาระหนี้ อาจเป็นทางออกในยามคับขัน แต่การเตรียมตัวอย่างเป็นระบบจะทำให้คุณเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่ดีที่สุด ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำที่สุด และเงื่อนไขที่ดีที่สุดในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเครดิต, การควบคุมภาระหนี้ไม่ให้เกินตัว, หรือการเตรียมเอกสารที่สมบูรณ์แบบ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นกุญแจสำคัญที่เปลี่ยนให้คุณสมัครสินเชื่ออะไรก็ไม่ผ่าน กลายเป็นกู้ผ่านได้อย่างง่ายดาย
หากคุณกำลังสับสนว่าจะหาวิธีขอสินเชื่อให้ผ่านอย่างไรดี หรือมีหนี้หลายก้อนที่ทำให้ภาระหนี้สูงจนกังวลว่าจะขอสินเชื่อไม่ผ่าน ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป เพราะ Refinn คือผู้ช่วยด้านการเงินที่จะรวบรวมข้อมูลสินเชื่อ และโปรโมชั่นที่ดีที่สุดจากธนาคารชั้นนำมาเปรียบเทียบให้คุณเห็น เพื่อให้คุณเลือกสินเชื่อส่วนบุคคล หรือบัตรผ่อนสินค้าที่เหมาะกับสถานการณ์ทางการเงินของคุณมากที่สุด
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
สมัครสินเชื่ออะไรผ่านง่ายสุด?
สินเชื่อที่ให้ผ่านง่ายที่สุดมักจะเป็น สินเชื่อที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เช่น สินเชื่อบ้านแลกเงิน หรือ สินเชื่อรถแลกเงิน เพราะธนาคารมีความเสี่ยงต่ำกว่า
ถ้าขอสินเชื่อไม่ผ่านต้องทำยังไง?
1. ถามเหตุผล : โทรศัพท์สอบถามธนาคาร (หากธนาคารให้ข้อมูลได้) หรือไปขอตรวจสอบเครดิตบูโร เพื่อดูว่าประวัติของคุณเป็นอย่างไร
2. แก้ไขสาเหตุ : ถ้าเป็นเพราะภาระหนี้สูง (DSR สูง) ให้พยายามปิดหนี้บัตรเครดิต หรือหนี้บัตรผ่อนสินค้าก้อนเล็ก ๆ ลงไปก่อน ถ้าเป็นเพราะเครดิตไม่ดี ต้องเริ่มชำระหนี้ทุกก้อนให้ตรงเวลาติดต่อกันอย่างน้อย 6-12 เดือน
3. รอเวลา : ควรรออย่างน้อย 3-6 เดือนก่อนที่จะยื่นขอสินเชื่อใหม่ การยื่นถี่เกินไปจะทำให้ธนาคารมองว่าคุณมีปัญหาทางการเงินอย่างหนัก ซึ่งทำให้การกู้เงินยากยิ่งขึ้นไปอีก


