เทียบ 6 บัตร Travel Card 2025 ใช้จ่ายต่างประเทศ ใบไหนคุ้มสุด
เทียบ 6 บัตร Travel Card 2025 ใช้จ่ายต่างประเทศ ใบไหนคุ้มสุด

เปรียบเทียบบัตร Travel Card 2025 ใช้จ่าย-กิน-เที่ยวต่างประเทศ ใบไหนคุ้มสุด

บัตร Travel Card

สำหรับสายท่องเที่ยวจะทราบกันดีครับว่าบัตร Travel Card ถือเป็นไอเท็มสำคัญที่ขาดไม่ได้ โดยเฉพาะกับบัตรเที่ยวต่างประเทศ ที่หลายคนก็ไม่ทราบว่าแลกเงินต่างประเทศ ธนาคาร ไหนดีจึงจะคุ้มที่สุด ฉะนั้นการหันมาใช้ทราเวลการ์ดจึงเป็นคำตอบที่ใครหลายคนเลือกมากกว่า เพราะไม่จำเป็นต้องโฟกัสแหล่งแลกเรตเงินบาทเป็นสกุลเงินต่างประเทศมากนัก อีกทั้งไม่จำเป็นต้องพกเงินสดไปเที่ยวต่างประเทศมากมายก็สามารถชำระเงินได้ผ่านบัตร Travel Card ในใบเดียว 

แต่คำถามต่อมาคือ แล้วเราควรเลือกบัตรทราเวลการ์ดอย่างไรที่เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด เพราะบัตร Travel Card มีให้เลือกสมัครหลายใบไม่ต่างจากบัตรเครดิตทั่วไป แต่ละใบก็จะมีทั้งสิทธิประโยชน์ และโปรโมชันเด่นต่าง ๆ ที่ไม่เหมือนกัน ฉะนั้นในบทความนี้ผมจะพาเพื่อน ๆ ไปทำความรู้จัก Travel Card อย่างเจาะลึก พร้อมแนะนำบัตร Travel Card จากธนาคารที่น่าสนใจทั้งหมด 6 ใบด้วยกัน จะมีบัตรจากธนาคารไหนบ้าง สามารถเลื่อนลงไปอ่านต่อกันได้เลยครับ

บัตร Travel Card คืออะไร?

Travel Card คือ บัตรเติมเงิน หรือบัตรเดบิตที่สามารถใช้ชำระเงินทั้งภายในและภายนอกประเทศได้ ทั้งการกดเงินผ่านตู้ ATM หรือการรูดชำระค่าสินค้าและบริการต่าง ๆ ได้เหมือนบัตรเครดิตและบัตรเดบิตทั่วไป โดยบัตร Travel Card จะมีค่าธรรมเนียม และอัตราแลกเปลี่ยนพิเศษขึ้นอยู่กับโปรโมชันในแต่ละช่วงเวลา 

ซึ่งเป็นประเภทบัตรที่เหมาะกับคนที่ไม่มีบัตรเครดิต หรือคนที่ไม่ต้องการพกเงินสดเป็นจำนวนมากในการไปต่างประเทศ และแน่นอนว่าบัตร Travel Card เป็นบัตรใช้ต่างประเทศที่สามารถใช้งานได้ทั่วโลกในใบเดียว เรียกได้ว่าช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้สายท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดีเลยครับ

พกบัตร Travel Card เที่ยวต่างประเทศ ดียังไง?

พกบัตร Travel Card เที่ยวต่างประเทศ ดียังไง

การพกบัตร Travel Card ไปต่างประเทศผมต้องบอกเลยว่ามีข้อดีมากเลยครับ เพราะเป็นบัตรที่ถูกออกแบบขึ้นสำหรับสายท่องเที่ยว เพื่อนำไปใช้จ่ายในต่างประเทศโดยเฉพาะ เพียงบัตร Travel Card ใบเดียวก็สามารถนำไปใช้งานได้รอบโลก ไม่ว่าจะเป็นการช็อปปิ้ง เดินทาง หรือกินอาหารตามร้านค้าต่าง ๆ ก็ตอบโจทย์ โดยข้อดีของการพกบัตร Travel Card ไปต่างประเทศ จะประกอบไปด้วย

  • บัตร Travel Card ให้ความสะดวก ปลอดภัยต่อสายท่องเที่ยว เพราะไม่ต้องพกเงินสดไปจำนวนมาก อีกทั้งยังสามารถแจ้งอายัดบัตรในกรณีที่ทำบัตรหายได้อีกด้วย คล้ายกับบัตรเครดิตเติมน้ำมัน และบัตรผ่อนสินค้า ทำให้แม้จะมีคนเก็บบัตร Travel Card ของเราได้ แต่ก็ไม่สามารถนำไปใช้จ่ายอะไรได้นั่นเองครับ
  • สามารถจัดการเรื่องค่าใช้จ่าย และการแลกสกุลเงินภายในบัตร Travel Card ได้ง่าย เพียงดำเนินการผ่านแอปพลิเคชันได้โดยตรง ซึ่งจะสามารถตรวจสอบได้ทั้งหมดว่ามีค่าธรรมเนียมเท่าไหร่ ใช้จ่ายอะไรออกไปบ้าง และเหลือจำนวนวงเงินเท่าไหร่ ซึ่งแนะนำว่าก่อนออกเดินทางอย่าลืมจัดการเรื่องเพิ่มวงเงินบัตรเครดิตด้วยนะครับ

  • บัตร Travel Card เป็นเหมือนบัตรเครดิตกับบัตรกดเงินสดในใบเดียว เพราะสามารถถอนเงินสดที่ตู้ ATM ในต่างประเทศได้ง่าย หรือจะเป็นการรูดใช้จ่ายในต่างประเทศก็สามารถทำได้ปลอดภัยหายห่วง และรวดเร็วทันใจ แต่ต้องระวังเรื่องการจ่ายบัตรเครดิตช้าด้วยนะครับ

บัตร Travel Card ยังแฝงไปด้วยสิทธิพิเศษอีกหลากหลายตามเงื่อนไขของธนาคาร เช่น บริการล่ามแปลภาษา บริการให้ความช่วยเหลือ บริการประกันเดินทาง ฯลฯ

คัดมาแล้ว! 6 บัตร Travel Card ท่องเที่ยวทั่วโลก ใช้จ่ายแบบสุดคุ้ม

มาถึงช่วงสำคัญกันแล้วกับ Travel Card 2025  การแนะนำบัตร Travel Card ที่น่าสนใจทั้ง 6 ใบจากธนาคารชั้นนำ บอกเลยว่าบัตร Travel Card แต่ละใบมีทั้งข้อดี ความคุ้มค่า และสิทธิประโยชน์แบบจัดเต็ม ที่สำคัญยังสามารถนำไปใช้งานได้ทั่วโลก จะมีบัตรแลกเงินต่างประเทศใบไหนที่น่าสนใจกันบ้าง ลองไปดูกันได้เลยครับ

6 บัตร Travel Card ท่องเที่ยวทั่วโลก ใช้จ่ายแบบสุดคุ้ม

1. Krungsri Boarding Card : ธนาคารกรุงศรี

มาเริ่มกันที่ใบแรกกับ krungsri Travel Card บัตรแลกเงินต่างประเทศในอัตราที่คุ้มค่า ที่มีสกุลเงินมากถึง 17 ประเทศทั่วโลก และสามารถทำธุรกรรมการเงินได้ง่าย ๆ ผ่านแอปพลิเคชัน

รายละเอียดบัตร

  • เป็นบัตรประเภท Prepaid Card มีอายุ 5 ปีนับจากวันที่ขอใช้บัตร
  • แลกเปลี่ยน 16 สกุลเงิน ได้แก่ JPY, KRW, HKD, SGD, USD, EUR, AUD, CAD, CHF, CNY, DKK, GBP, NOK, NZD, SEK และ TWD
  • ทำธุรกรรมผ่าน Application KMA-Krungsri Mobile ได้ 24 ชั่วโมง
  • วงเงิน รวมสกุลเงินในบัตรไม่เกิน 500,000 บาท/บัตร 
  • วงเงินชำระค่าสินค้าสูงสุด 500,000 บาท/วัน
  • เบิกเงินสดตู้ ATM ในไทยไม่ได้ เบิกเงินสดตู้ ATM ต่างประเทศได้สูงสุด 100,000 บาท/วัน
  • มีค่าธรรมเนียมออกบัตร 150 บาท แต่ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี

2. Krungthai Travel Platinum Mastercard Debit : ธนาคารกรุงไทย

มาต่อใบที่สองกับ krungthai Travel Card มีจุดเด่นที่อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินสุดพิเศษ พร้อมระบบการจัดการที่ง่าย สะดวก และปลอดภัย ผ่าน Application ของกรุงไทย Travel Card มาดูกันครับว่าบัตร Travel Card กรุงไทย ใช้ยังไง

รายละเอียดบัตร

  • บัตรประเภท Prepaid Mastercard มีอายุ 5 ปีนับจากวันที่ขอใช้บัตร
  • แลกเปลี่ยน 20 สกุลเงิน ได้แก่ AED, AUD, CAD, CHF, DKK, EUR, GBP, HKD, INR, JPY, KRW, MYR, NOK, NZD, RUB, SEK, SGD, TWD, USD และ THB
  • ทำธุรกรรมผ่าน Application KrungThai NEXT ได้ 24 ชม.
  • วงเงินรวมทุกสกุลเงินในบัตร Travel Card กรุงไทยไม่เกิน 500,000 บาท
  • Travel Card กรุงไทย ถอนเงินสดตู้ ATM ต่างประเทศได้สูงสุด 500,000 บาท/วัน
  • ซื้อสินค้าออนไลน์ได้ตามสกุลเงินที่รองรับ

3. Planet SCB : ธนาคารไทยพาณิชย์

บัตรใบที่สามกับ Planet SCB สามารถแลกเงินเรตพิเศษได้ง่าย ๆ ล่วงหน้าโดยไม่มีค่าธรรมเนียมผ่าน Application และใช้บัตรรูดในต่างประเทศ ช็อปกับร้านค้าเด็ดได้ทั่วโลก

รายละเอียดบัตร

  • บัตรประเภท Prepaid VISA / VISA payWave มีอายุ 3 ปีนับจากวันที่ขอใช้บัตร
  • แลกเปลี่ยน 13 สกุลเงิน ได้แก่ THB, USD, EUR, JPY, KRW, TWD, SGD, CNY, HKD, GBP, AUD, NZD, CHF และ CAD
  • ทำธุรกรรมผ่าน Application SCB Easy ได้ 24 ชม.
  • วงเงินรวมทุกสกุลเงินใช้จ่ายได้ไม่เกิน 500,000 บาท/วัน
  • กดเงินตู้ ATM ในต่างประเทศได้สูงสุด 100,000 บาท/วัน มีค่าธรรมเนียม 100 บาท/ครั้ง
  • ช็อปออนไลน์ หรือรูดใช้จ่ายที่รองรับ VISA สูงสุด 500,000 บาท/วัน ทั่วโลก
  • ไม่มีค่าความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงิน 2.5%

4. Journey Card : ธนาคารกสิกรไทย

บัตร Travel Card กสิกรใบที่สี่กับ Journey Card เพียงใบเดียวใช้รูดซื้อสินค้าได้ทั่วโลก ไม่มีชาร์จเพิ่ม จากการตัดเงินกับบัญชีที่ผูกไว้

รายละเอียดบัตร

  • บัตรประเภท เดบิต VISA / VISA payWave มีอายุ 5 ปีนับจากวันที่ขอใช้บัตร
  • แลกเปลี่ยนได้ทุกสกุลเงิน
  • รองรับการรูดซื้อสินค้า 500,000 บาท/วัน กับร้านค้าที่รองรับ VISA ทั่วโลก
  • กดเงินตู้ ATM ในต่างประเทศได้สูงสุด 200,000 บาท/วัน มีค่าธรรมเนียม 100 บาท/ครั้ง
  • เติมเงินมือถือได้ทุกระบบ ไม่จำกัดยอดการเติม
  • ไม่มีค่าธรรมเนียมแลกเปลี่ยนสกุลเงิน 2.5%

5. YouTrip : ธนาคารกสิกรไทย

มาต่อกันที่Travel Card กสิกร อีกหนึ่งใบครับกับ YouTrip บัตรเติมเงินที่รองรับสกุลเงินมากถึง 150 ประเทศ ต่างจากบัตร Journey Card ตรงที่สามารถแลกเงินล่วงหน้าได้ผ่าน Application 

รายละเอียดบัตร

  • บัตรประเภท Prepaid Mastercard มีอายุ 5 ปีนับจากเดือนที่บัตร
  • แลกเปลี่ยนได้ 150 สกุลเงิน พร้อมแลกเปลี่ยนล่วงหน้าได้ 10 สกุลเงิน ได้แก่ USD, CAD, SGD, JPY, HKD, EUR, AUD, GBP, CHF และ THB
  • วงเงินใช้จ่ายทุกสกุลเงินรวมไม่เกิน 500,000 บาท/วัน กับร้านค้าที่รองรับ VISA ทั่วโลก



  • กดเงินตู้ ATM ในต่างประเทศได้สูงสุด 50,000 บาท/วัน มีค่าธรรมเนียม 100 บาท/ครั้ง
  • ใช้จ่ายออนไลน์ได้ไม่เกิน 500,000 บาท/วัน
  • ถอนเงินสดตู้ ATM ในประเทศไทยไม่ได้
  • ไม่มีค่าธรรมเนียมแลกเปลี่ยนสกุลเงิน 2.5%

6. TTB All Free : ธนาคารทหารไทยธนชาต

มากันที่บัตร Travel Card ใบสุดท้ายกับ TTB All Free ของธนาคารธนชาต สามารถใช้ได้ทั้งในไทยและต่างประเทศ รูดทุกสกุลเงินได้ทั่วโลกในเรทที่ดีที่สุด เบิกถอนเงินสดในประเทศไทยได้แบบฟรีค่าธรรมเนียม

รายละเอียดบัตร

  • บัตรประเภท VISA/VISA payWave มีอายุ 5 ปีนับจากเดือนที่บัตร
  • เรทแลกเปลี่ยนถูก ใช้ได้ทุกสกุลเงิน
  • รูดหรือช็อปออนไลน์ได้ทุกสกุลเงินทั่วโลกสูงสุด 2,000,000 บาท/วัน สำหรับบัตรที่มีชื่อ และ 500,000 บาทต่อวันสำหรับบัตรไม่มีชื่อ
  • กดเงินตู้ ATM ในต่างประเทศได้สูงสุด 200,000 บาท/วัน มีค่าธรรมเนียม 75 บาท/ครั้ง
  • ทำธุรกรรมผ่าน Application ttb touch ได้ 24 ชม.
  • ไม่มีค่าธรรมเนียมแลกเปลี่ยนสกุลเงิน 2.5%

บัตร Travel Card กับบัตรเครดิต ใบไหนใช้เที่ยวต่างประเทศได้ดีกว่ากัน?

สำหรับบัตร Travel Card จะมีความแตกต่างกับบัตรเครดิตอยู่เล็กน้อยตรงที่บัตร Travel Card ไม่สามารถรูดเงินเกินจำนวนเงินที่มีในบัญชีได้ และไม่สามารถผ่อนชำระได้  ซึ่งจะเหมาะสำหรับการใช้จ่ายในต่างประเทศโดยเฉพาะ 

ส่วนบัตรเครดิตเงินเดือน12000จะสามารถทำได้ทุกอย่าง ทั้งการรูดตามวงเงินในบัตรเครดิต การผ่อนชำระ หรือรับสิทธิพิเศษต่าง ๆ ตามเงื่อนไข เว้นแต่การแลกสกุลเงินไว้ล่วงหน้าที่ไม่สามารถทำได้เหมือนบัตร Travel Card นั่นเองครับ

สรุป

บัตร Travel Card ถือเป็นบัตรอีก 1 ประเภทที่สายท่องเที่ยวต้องไม่พลาด เนื่องจากให้ทั้งความสะดวก สบาย ปลอดภัย และง่ายต่อการท่องเที่ยวในทุกประเทศ โดยเฉพาะกับการช็อปปิ้งหรือใช้จ่ายต่าง ๆ ที่สะดวก และไม่จำเป็นต้องพกเงินสดไปจำนวนมาก นอกจากนี้บัตร Travel Card ยังมีสิทธิพิเศษอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกหลากหลาย

แต่ถ้าคุณกำลังลังเลว่าควรจะสมัครบัตร Travel Card ธนาคารไหนดี คิดว่าควรสมัครบัตรเครดิตไปเลยดีกว่าไหม หรือใครที่มีบัตรเครดิตอยู่แล้วแต่กำลังเป็นหนี้บัตรเครดิต แล้วกำลังมองหารีไฟแนนซ์บัตรเครดิตธนาคารไหนดี สามารถทักมาปรึกษา Refinn ได้เลยครับ เพราะไม่ว่าคุณจะต้องการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต หรือทำธุรกรรมการเงินด้านใด เรามีบริการและพร้อมให้คำแนะนำอย่างครบวงจร รับรองว่าตัดสินใจได้เร็ว สมัครได้ไว ได้รับอนุมัติในเวลาอันสั้นแน่นอนครับ

เผยแพร่เมื่อวันที่ 30 พ.ค. 2568
Refinn Writer
ช่วยเปรียบเทียบโปรโมชั่นที่ประหยัดดอกเบี้ยที่สุด ฟรี ไม่มีค่าบริการเพิ่มเติม